My Life

คิดไม่ออก ทำไงดี?

By Arnon Puitrakul - 04 พฤษภาคม 2018

คิดไม่ออก ทำไงดี?

คิดไม่ออกโว้ยยยยย 🤬😡🤯

ประโยคด้านบนนี้น่าจะเป็นประโยคที่พูดกันบ่อย ๆ ตอนที่เรานั่งเขียนโปรแกรม แรก ๆ ผมนี่เป็นเอามาเหมือนกัน แต่พอมาหลัง ๆ มันก็เริ่มดีขึ้น เพราะเราคิดมาล่วงหน้าแล้วว่าจะเขียนอะไรบ้างเป็นขั้นตอน 1 2 3 แล้วค่อยมาทำ แต่ก็ไม่ใช่ทุกครั้งที่คิดมาแล้วมันจะใช้ได้ทุกครั้งเสมอไป บางทีมั่ว ๆ ก็ดันออกซะงั้น เหมือนในภาพข้างล่างนี้

I don't know why my code works

ตอนแรกเห็นภาพนี้ก็ขำนะ คืนนั้นนั่ง Code งานแล้วก็ เออ แมร่งจริง !! ซะงั้น แต่บางทีมันดันไม่ได้ไง ทีนี้ถามว่า เราจะมีวิธีแก้ปัญหานี้ยังไงดี วันนี้เลยจะมาเสนอวิธีที่ผมใช้เวลาคิดอะไรไม่ออกกัน

ออกไปเดินเล่น 🐾

Walking
Image from Pexels

วิธีที่ง่ายที่สุดเท่าที่จะคิดออกคือ การออกไปเดินเล่น ไม่ว่าจะเดินคนเดียว หรือมีหลัวใครอะไรก็เอาที่สบายใจ สิ่งที่ยากที่สุดคือการปล่อยวาง และ ลุกออกจากเก้าอี้ หลาย ๆ ครั้งที่หัวร้อน ผมนี่ไม่ลุกแม้กระทั่งเดินไปดื่มน้ำ หงุดหงิดสุด แต่เมื่อลุกได้แล้ว ไม่รู้สิมันก็ยังหงุดหงิดอยู่นะ แต่พอออกไปข้างนอก ปั่นจักรยาน เจอคน คุยกับคนอื่นบ้าง มันก็จะรู้สึกสบายขึ้นนะ พอกลับมานั่งทำต่อ หัวเรามันก็น่าจะปลอดโปร่งขึ้น อาจจะทำให้คิดออกได้ก็ได้นะ

ทำกิจกรรมในห้องน้ำ 🚽🛁

Toilet
Image from Pexels

วิธีนี้เป็นวิธีที่ผมใช้บ่อยมาก คือจะเป็นคนที่เข้าห้องน้ำตรงเวลามาก ๆ โดยเฉพาะช่วงเช้า ปกติคือจะหยิบ iPad หรือกระดาษและปากกาเข้าไปในห้องน้ำตอนเช้าด้วย เผื่อนั่ง ๆ อยู่แล้วคิดอะไรออก จะได้จดไว้ก่อนเลย เพราะช่วงเวลาที่เรานั่งอยู่ในห้องน้ำ มันจะอารมณ์เหมือนเรานั่งสมาธิเลยนะ ลองสังเกตดูดี ๆ เวลาเรานั่ง 🚽 อยู่เราจะไม่ค่อยคิดเลยนะว่า วันนี้จะกินอะไร งานนี้ต้องแก้ยังไง จิตเราก็จะอยู่กับตัวเอง เพื่อทำให้ 💩 ออกจากช่องทางช่วงล่างของเราอย่างสวยงาม โดยไม่ต้องขมิบตัด ✂️ บางทีมันก็อาจทำให้เราค้นพบสัจธรรมบางอย่างก็ เป็น ได้ ~ โดยส่วนตัวแล้วผมนี่แหละเวลาคิดงานไม่ออก เข้าห้องน้ำออกมาทีไร คิดได้ตอนนั่งในนั้นทุกที

แต่กับ 🛁 แล้ว ส่วนใหญ่จะแหกปากร้องเพลง เลยก็ไม่ค่อยได้อะไรเท่าไหร่ แต่ก็ทำให้อารมณ์ดีหลังอาบน้ำเสร็จ ทำให้เราปลอดโปร่งคิดอะไรได้มากขึ้นนั่นเอง

นอน 🛏

Toilet
Image from Pexels

เวลาเราทำงาน หรืออะไรก็ได้ที่ใช้สมาธิมาก ๆ แล้วแหงนมาดูนาฬิกาเราจะพบว่า นี่เราวาร์ปมาเหรอเนี่ย !! แล้วก็หัวร้อนอยู่อีก ยิ่งทำให้เราคิดอะไรไม่ออกเลย จากวิธีอื่น ๆ ที่พูดมาจะเป็นการเปลี่ยนที่คิด แต่บางครั้ง การช่างแมร่ง แล้วปล่อยไปก่อนก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย เหมือนกับเราเล่น MMORPG แล้วเราเห็นศัตรูแล้วเราไม่บวก ปล่อยไปก่อน เพราะรู้ว่าถึงบวกไปเราก็ตายอยู่ดี ฉะนั้นการที่เราคิดไม่ออกแล้วหยุดไปนอนก่อนก็เป็นทางเลือกที่ดีเหมือนกัน ดีกว่านั่งไปเรื่อย ๆ ก็ไม่ช่วยอะไรอยู่ดี บางครั้งดึกมาก ๆ เช้ามาไปทำอย่างอื่นต่อไม่ไหวก็มี

ไม่รู้เหมือนกันว่า คนอื่นเป็นมั้ย ประมาณว่า เวลาติดปัญหาอะไรสักอย่างนึงแล้วไปนอน เช้ามาเหมือนปัญหาที่เราติดอยู่มันดันได้ Solution ขึ้นมาเฉยเลย ดีกว่าการที่เรานั่งไปเรื่อย ๆ แล้วไม่ได้อะไรเลย แถมทำให้ง่วงทั้งวันอีกด้วย ฉะนั้นบางทีก็นอน ๆ บ้างก็ได้

บูชาสิ่งศักสิทธิ์ ⛩

Toilet
Image from Pexels

แต่ถ้าวิธีที่ผ่านมานั้นใช้ยังไงก็คิดไม่ออกแล้ว อีกวิธีที่แนะนำคือ การพึ่งสิ่งศักสิทธิ์ เฮ้ย แต่อันนี้ไม่ได้งมงายนะ !! เพราะจริง ๆ แล้วการไหว้ การบูชา สิ่งต่าง ๆ นั่นเริ่มมาจากความกลัวในอำนาจของสิ่งต่าง ๆ ในสมัยก่อน เช่น ฟ้าผ่าแล้วเราบอกว่า อย่าไปทำให้ฟ้าโกรธ เดี๋ยวฟ้าก็ผ่าแกหรอก อะไรทำนองนั้น คนในปัจจุบันก็ยังคงมีความเชื่อในเรื่องของสิ่งศักสิทธิ์ บ้างก็เป็นเทพ, สมมุติเทพ และอื่น ๆ ตามความเชื่อ ที่เข้ามาเป็นที่พึ่งทางใจ ตัวอย่างเช่น ช่วงที่หวยจะออก แล้วเราลองเดินไปตาม วัดหรือที่ไหว้ดัง ๆ เรื่องหวย เราจะเห็นคนที่เล่นหวยเข้ามากราบไหว้บูชา เพื่อขอให้ถูกหวยกันเต็มไปหมด หรือแม้กระทั่งการสอบเข้าบางที่ ที่เราจะเจอ พ่อแม่ ผู้ปกครอง และเด็ก ๆ มากราบไหว้บูชาตามศาลหรือที่ต่าง ๆ ที่มีความเชื่อว่า จะทำให้สอบผ่าน

แต่ถามว่า การที่เรามากราบไหว้บูชาอะไรสักอย่าง แล้วมันจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลหรือไม่ เช่น เราไปขอให้ถูกหวย การที่เราขอพรแบบนี้มันส่งผลต่อผลลัพธ์หรือไม่ คำตอบคือ ก็ยังไม่อาจรู้ได้ (อย่าเชื่อในสิ่งที่ไม่เห็น มันอาจจะมีอยู่จริง ๆ ก็ได้ ใครจะรู้) แต่สิ่งที่เรารู้ได้จากการกระทำเหล่านี้คือ ความสบายใจ

ระดับความสบายใจที่เราได้มักจะ (ย้ำว่า มักจะ) ขึ้นตรงกับ ความยิ่งใหญ่ของการบูชา (มันคือความเชื่อของเขาก็อย่าไปลบหลู่เขา) และอัตราที่คนมาขอแล้วได้ดั่งผล จะสังเกตได้จำนวนคนที่มากราบไหว้บูชาตามสถานที่ดัง ๆ ในเรื่องนั้นกันอย่างเนืองแน่น ตรงข้ามกับสถานที่อาจจะไม่ได้ดังเท่า

ความสบายใจที่เราได้มาจะมาอยู่ในลักษณะของ ความสบายใจมันจะมาในอารมณ์ที่เรารู้สึกประมาณว่า เหมือนมีคนมาช่วยอะไรทำนองนั้น ทำให้เรารู้สึกมีความหวังขึ้นมาว่าสิ่ง ๆ ที่เราขอมันจะประสบความสำเร็จ แล้วมีกำลังใจที่จะทำต่อไป คล้าย ๆ กับอารมณ์ที่จะพูดในหัวประมาณว่า ”เกือบแล้ว !! อีกนิดเดียว !!” แล้วเราก็จะค่อย ๆ ทำจนมันได้

แต่ถ้าเอาเนื้อแท้ของการไปบูชาและศาสนาจริง ๆ แล้วเราว่ามันทำให้เรา ได้อยู่กับตัวเองมากขึ้นและฉุกคิดว่าทำไมเราถึงทำไม่ได้สักที และค่อยพยายามแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ที่อาจจะแก้ได้ด้วยปัญญา, การเจรจา, ความอุตสาหะ และความไม่ประมาท เหมือนที่พระพุทธเจ้าสอนไว้

ปลง 😑

อันนี้จัดว่าเป็นขั้นสุดของการคิดไม่ออกแล้ว นั่นคือ ปลง หรือพูดเป็นภาษาผมว่า ช่างแมร่งมันโว้ยยยย วิธีนี้มันจะถูก Apply เองเมื่อมันตันมากนานจริง ๆ (กับผมอะนะ) มันมักจะมาในรูปแบบของการบอกว่า “ช่างแมร่งมันแล้ว” ไม่ก็ “ไม่ทำแล้ว” แล้วเราก็จะหยุดทำงานนั้นไปโดยปริยาย ทำให้เราได้มีเวลาออกจาก Space ของปัญหานั้น ๆ ไปทำอย่างอื่น จะบอกว่านี่เป็นทางแก้ปัญหาซะทีเดียวมั้ยก็คงไม่อะแหละ บางทีมันไปทำอย่างอื่นแล้วก็หายไปเลยก็มี ฮ่า ๆ แต่บางทีการไปทำอย่างอื่นก็ทำให้เราเห็นภาพกว้างของปัญหามากขึ้น อาจจะทำให้เราคิดอะไรออกก็เป็นได้

สรุป

จากที่อ่านกันมา เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเห็นจุดที่เหมือนกันของทุกวิธี คือการ ก้าวออกมา เพื่อให้เราเห็นภาพใหญ่ และหลาย ๆ แง่มุมของปัญหามากขึ้น การแก้ปัญหาก็คือการเล่น Puzzle ที่บางครั้งถ้าเรา Focus กับ Solution มากเกินไป เราก็จะไม่เห็นมัน ความรักก็เช่นกันที่ยิ่งตามหาเท่าไหร่มันก็ยิ่งบินหนีไป (เพลงของ Klear มาเต็ม) จริง ๆ ถ้าเราสังเกต เวลาที่เราคิดอะไรไม่ออก จิตของเรามันมักจะจมอยู่กับปัญหา โดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องอื่น ๆ หรือส่วนอื่น ๆ เลย สุดท้ายก็ดำดิ่งลงสู่ห้วงทะเลลึกหายไปเลย

นอกจากการ ก้าวออกมา เป็นสิ่งที่สำคัญแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่า คือการ ทำใจให้เราสามารถก้าวออกมาได้ด้วย เพราะถ้าเรางมอยู่กับปัญหามาก ๆ การที่เราจะยอมก้าวออกมาถือว่าเป็นเรื่องที่ยากมาก เหมือนกับที่เพลงอะไรสักเพลง (รู้แล้วช่วย comment มาหน่อย ลืม....) ​พูดว่า การออกไปข้างนอก ยากที่สุดคือการที่เราก้าวขาออกจากบ้าน เรื่องนี้ก็เช่นกัน การที่เราจะยอมถอยออกมาได้ จุดที่ยากที่สุดคือเราที่ไม่ยอมถอยนี่แหละ ทำยังไงถึงจะยอมถอยออกมาได้ อันนี้ก็ต้องขึ้นกับเราละ สวีดัส สวัสดี ~

Read Next...

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะเนี่ย ยังแอบรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ผ่านครึ่งปีไปดีเลย อ่อ สิ้นปีแล้วเฉยเลย มา งั้นเรามาเล่าให้อ่านกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาในปี 2022 มันเกิดอะไรขึ้น และมันสอนอะไรเราบ้าง...

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

ผ่านไปอีกปีแล้วกับปี 2021 ที่น่าจะเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับใครหลาย ๆ คน เราเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หลาย ๆ อย่างที่ Plan ไว้ก็ต้องเปลี่ยนหมด หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ก็หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีขึ้นเนอะ ~...

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องมาเขียน Year in Review อีกครั้ง ประโยคที่ว่า จะหมดปี 2020 แล้วคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ละมั่ง ปีก่อน ๆ อาจจะบอกว่า เออ ใช่แหละ แต่ปีนี้คือเป็นปีที่หนักมากสำหรับหลาย ๆ คนรวมถึงเราด้วย...

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

หลังจากตอนที่แล้ว เราพูดถึงเรื่องของการจัดการไฟล์ใน Digital ของเราไปแล้ว วันนี้เราลองมาเปลี่ยนไปดูอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และ ช่วยทำให้ชีวิตเรามีเวลาออกไปหายใจได้มากขึ้น อย่างการทำ To-Do List กันดีกว่า...