My Life

Year In Review 2017 สวัสดี 2018

By Arnon Puitrakul - 31 ธันวาคม 2017

Year In Review 2017 สวัสดี 2018

จะผ่านไปแล้วอีกปีนึง ไวจังเลย เมื่อตอนสัก 3 เดือนก่อนก็ไปอ่าน Year in review ของปีที่แล้วมา ก็เออเราทำอะไรหลาย ๆ อย่างตามที่บอกไว้ในปีที่แล้วได้เยอะมาก ๆ แอบชื่นชมตัวเองเบา ๆ บางอย่างก็สำเร็จบางอย่างก็พังคามือก็มี

ปีแห่งการเรียนรู้

อย่างที่บอกไปในปีที่แล้วว่า ชีวิตผมมันไม่เคยหยุดนิ่ง ปีนี้ไม่ต่างเลย แต่ได้รู้เพิ่มว่า ถึงแม้เราจะอยากให้มันหยุดชิว ๆ แต่เราก็หยุดไม่ได้แน่นอน เพราะเราชินไปแล้วไง แต่เพราะความไม่หยุดนี่เองที่ทำให้เราได้เจอคนใหม่ ๆ ได้สกิลใหม่ ๆ ติดตัวมาเยอะอย่างไม่น่าเชื่อ

เข้าค่าย RPST Yours

เริ่มต้นที่ต้นปีกันเลยกับค่าย RPST Yours ที่เป็นค่ายเกี่ยวกับการถ่ายภาพในแต่ละมหาลัยก็จะคัดคนเพื่อไปค่ายนี้ (ที่ได้ Salaya Life มาเมื่อปีก่อน) ซึ่งแน่นอนว่าผมเรียนคอมพิวเตอร์ไปเจอสายตรงก็อ่วมสิครับ แต่เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้หวังรางวัลอะไร แค่อยากได้ประสบการณ์ดี ๆ ของกินอร่อย ๆ และเพื่อนใหม่ ๆ จากค่ายนี้

แต่ก็นะในค่ายมีค่ายกล้องหลายอันมาเป็น Sponsor ตอนนั้นได้ Olympus เลยได้เลนส์ทุกตัวมาลองเล่นอันนี้นี่โคตรรักเลย รูปหลาย ๆ รูปที่ได้มาก็ยอมรับเลยว่าสวยด้วยมือเราจริง ๆ มันก็ทำให้เราได้ลองจับ ได้รับประสบการณ์ในการถ่ายภาพใหม่ ๆ รวมถึงการโดนป้ายยาทำให้อยากให้ซื้อกล้องใหม่เบา ๆ

ใครจะคิดครับว่า คนที่เรียนคอม และพึ่งหัดถ่ายภาพมาไม่นาน จะได้มีรูปแสดงอยู่ที่หอศิลป์ กทม ที่มีผลงานของหลายศิลปินวางอยู่ในที่เดียวกัน นับว่าเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่า เออมันดีหว่ะ ! ฮ่า ๆ

เปิด Course สอน Laravel ออนไลน์

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้คือพี่โอ๊คมาชวนให้มาสอน Course ออนไลน์ ด้วยความที่อยากลองก็เลยตอบรับแต่ตอนนั้นก็ยังไม่รู้นะว่าจะสอนอะไร แล้วก็นึกอยู่สักพักเหมือนกัน ก็เลยตอบไปว่า

อืม... เดี๋ยวหนึ่งมาสอน Laravel ละกันครับ

จากนั้นแหละความสนุกก็มาเลย เพราะต้องมาเตรียมสอนหลาย ๆ อย่างตั้งแต่ว่าวันนี้จะสอนอะไร Code ที่เราเตรียมมันดีรึยังนะ พูดแบบนี้คนจะเข้าใจรึเปล่านะ ตอนแรกก็ไม่คิดนะว่าการสอนอะไรพวกนี้มันจะไม่ยากมาก เอาเข้าจริงทั้งวันก่อนที่จะสอนคำถามที่บอกไปมันวนอยู่ในหัวทั้งวัน คือกลัวตัวเองพูดไม่รู้เรื่องซะมากกว่า แต่พอช่วงหลัง ๆ เหมือนเริ่มจับทางได้ มันก็ดีขึ้นนะ เท่าที่ลองเอาคลิปที่ตัวเองสอนมานั่งดู เห็นพัฒนาการเลยว่า เกร็งน้อยลง พูดใช้คำที่ทางการน้อยลง และเป็นกันเองมากขึ้น ดูแล้วมัน Soft และน่าฟังมากขึ้น

หลาย ๆ คนเคยบอกว่า ก็เคยเป็น MC มาหลายงานแล้วทำไมพูดอันนี้ถึงเครียดขนาดนี้ ก็บอกเลยว่างาน MC มันเป็นงานพวกมี Script ที่ค่อนข้างแน่นอน กับถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเราก็เาชอาอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องยัดเข้าไปได้ แต่กับการสอนมันไม่เหมือนกันเลย ก็เลยให้เครียดหน่อย ๆ แต่มันก็สนุกนะ

ประธานค่าย JWC#9

จำไม่ได้ว่าตกลงกันท่าไหนยังไง แล้วทำไมเราถึงมาเป็นประธานค่าย แต่ก็มาเป็นแบบ งง ๆ ยอมรับว่าตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ถูกเหมือนกัน ประกอบกับวิธีการทำงานที่ไม่เหมือนกันเท่าไหร่ ก็ทำให้ทำงานยากอยู่พอสมควร นอกจากนั้นช่วงนั้นงานอื่นก็รุมเอา ๆ จนไม่ได้อ่านหนังสือหรือทำอะไรเลย ก็จะ No Life หน่อย ๆ แต่ก็ต้องขอบคุณเพื่อน ๆ หลายคนที่ช่วยกันจนทำให้พวกเราผ่านค่ายนี้มาได้ สิ่งนึงที่เรียนรู้มาจากการทำค่ายครั้งนี้คือ ใจ เพราะผมไม่ใช่คนที่ใช้ ใจ ในการตัดสินใจเท่าไหร่ ใช้แค่ Logic ทำให้ทำงานกับงานศิลป ๆ ยากหน่อย และแน่นอนว่าก็มีน้องที่ตอนนั้นกำลังจะเข้ามาเรียนที่คณะก็มา ก็เลยทำให้รู้จักกันไปโดยปริยาย

ฝ่าย IT งาน TEDxMahidolU

งานนี้จริง ๆ ก็ อ.ป๋วย ก็มาชวนตั้งแต่มีอยู่แค่ไม่กี่คนแล้ว แต่ด้วยงานหลาย ๆ อย่างทำให้ต้อง Fade หายไปนานอยู่จนช่วงฝึกงานนี่แหละที่ได้เข้ามาช่วยทำหลาย ๆ อย่างแบบ One Night Miracle มาก ก็ได้เข้ามาทำอะไรไม่มากเท่าไหร่ ได้เข้ามาทำระบบสำหรับโพสต์ความเห็นสำหรับบูทกิจกรรมหนึ่งในงาน ตอนนั้นคือพึ่งหัดใช้ React ใหม่ ๆ เลย และนึกคึกอะไรไม่รู้ก็หยิบ React มาเขียน ก็สนุกดีนะ ตัวงานเองก็ทำให้เราได้เจอคนใหม่ ๆ มากมาย เปิดโลกสุด ๆ เลย งานนนี้ก็ต้องขอบคุณ อ.ป๋วย ที่ชวนมาทำตั้งแต่แรกกับขอโทษที่หายไป ~

ฝึกงานที่ Like Me ~

ด้วยความที่ปีที่แล้วบอกว่าอยากจะฝึก Front-end ปี 3 กับอยากจะไปฝึกงานสักหน่อย ก็เลยหาบริษัทที่รับ Front-end ไป ๆ มา ๆ อาจารย์ก็มาชวนว่าจะไปฝึกงานที่นั่นมั้ย เพราะเป็นบริษัทของรุ่นพี่ ก็เลยตอบรับเลยเดี๋ยวลองไปคุยดูก่อน อาทิตย์ก่อนที่จะไปคุยคือคอมพังพอดีส่งซ่อม แล้วก่อนไปคุยก็ต้องไปเอาคอมกลับมาก่อน ซึ่งก็ผ่านไปด้วยดี หลังจากนั้นเลยไปชวนอิเต้ยที่เป็นเพื่อนจากค่าย YWC เมื่อปีก่อนไปด้วย มันก็เลยลากเพื่อนมันไปอีกคน (ค่อย ๆ ลากกันไป) เลยได้มารู้จักกัน กับเพื่อนจากอีกทีมที่อยู่คนเดียวมันจะเหงา ๆ หน่อยก็แต่โอเค นั่งข้างกัน ฮ่า ๆ รวม ๆ แต่ละวันก็จะมีการจับโจรกัน ว่าใครเป็นคนปล่อยบัคก็จัดว่าตลกดี

ฝึกงานก็ทำให้เราได้ลองอะไรใหม่ ๆ เช่น React ที่ไม่เคยจับมาก่อน หรือ Javascript ที่เคยลองเขียนล่าสุดเมื่อสัก 8-9 ปีก่อน กับเพื่อน ๆ และพี่ ๆ ก็ดี ช่วยสอนอะไรหลายอย่างมาก จัดว่าเป็นการฝึกงานที่โหดมันส์ฮ่าดี ฝากเว็บต่อด้วยนะพี่ ~

MU Guide Presentation Video

งานนี้ตอนแรกก็ได้ยินมาละแหละว่าจะทำ แค่ตอนแรกคิดว่าเราน่าจะเป็นคนถ่าย แต่ด้วยเหตุผลและเวลาหลาย ๆ อย่างทำให้เรากลายเป็นคนเล่นซะงั้น แม่มเอ้ย! คือยอมรับไงว่าหนังหน้าเรามันก็ไม่ขนาดนั้น กับทักษะเรื่องของการแสดงที่แทบจะเป็น 0 อย่างจริงจัง ก็เข้ามาเล่นมันก็จะแข็งหน่อย ๆ ถึงมันจะไม่ได้เป็นวีดีโอที่ใหญ่อะไรขนาดนั้นแต่มันก็ทำให้เราได้ลองทำอะไรสนุก ๆ อยู่เหมือนกันฮ่า ๆ

MUICT Open House 2017

เป็นงานที่ได้ทำมาปีนี้ปีที่ 3 แล้วตำแหน่งก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ตามปีอะแหละ ปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้วที่จะได้ทำมันก็จะเหงา ๆ หน่อย ฮ่า ๆ ตำแหน่งปีนี้ก็ไม่ต่างจากปีที่แล้วเลย เพิ่มเติมคือความรับผิดชอบที่มากขึ้น แน่นอนว่าฝ่ายที่ผมทำมันก็ต้องคุยตั้งแต่เพื่อน พี่ ๆ ยันอาจารย์ ก็เหมือนกับที่ทุกปีพูดก็คือ

บริการทุกระดับ ประทับใจ

เหมือนกับธนาคารเจ้าหนึ่ง (เขาไม่ได้จ่าย) แรก ๆ มันก็จะหาย ๆ งง ๆ หน่อยเพราะก็โดน Senior Project ไปด้วยกับวิชาเรียนที่พีคจริงอะไรจริงเช่น Algorithm ที่ทำให้ No Life ไปอย่างน้อย 1 คืนก่อน Quiz หรือสอบ

ณ งานจริงก็ทำตั้งแต่เป็น Head ฝ่าย Project คนถ่ายรูป Presenter และ คนกิน อันนี้สำคัญมาก งานกินต้องมาดูจากรูปก็รู้เลยว่ามีความสุขกับการกินขนาดไหน

งานนี้สอนอะไรเราหลายเรื่องมาก ๆ เพราะทำมาตั้งแต่ปี 2 ทำจนมันเหมือนเป็นอัตโนมัติว่าเทอม 1 ของทุกปีมันจะยุ่ง ๆ หน่อยเพราะต้องเตรียมงาน เท่าที่ทำมาในปีนี้จัดว่าเป็นปีที่ราบลื่นที่สุด และสนุกที่สุดละ ถึงมันจะผ่านหลาย ๆ เรื่องที่ทั้งสนุกและพีค ก็ต้องขอบคุณอาจารย์ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ที่ทำให้งานนี้มันออกมาได้ โดยจะเฉพาะอาจารย์ และน้อง ๆ อีก 4 คนที่เข้ามาช่วยกันทำงานนี้ออกมา บางทีเราก็ลืมโน้นลืมนี่ไปบ้างก็ช่วย ๆ กันจำฮ่า ๆ

เพราะชีวิตไม่ได้มีแต่เรื่องดี ๆ ทุกวัน

จากเรื่องที่เล่ามาเป็นแค่เหตุการณ์ใหญ่ ๆ อย่างเดียว จริง ๆ มันยังมีอีกหลายอย่างที่เข้ามา บางเรื่องก็ดีมาก ๆ บางเรื่องก็เห้อ.... เบื้องหน้าอาจจะเห็นว่ามันดูสวยงาม Seamless และไร้ปัญหา แต่ความจริงแล้ว บาน !! แต่ก็แน่ละเนอะ ถ้าชีวิตเรามีแต่เรื่องดี ๆ ชีวิตเราก็คงขาดสีสันแล้วละสิ (หรือชินกับการแก้ปัญหาไปแล้ว ?)

เรื่องนึงที่ผมยังมองว่าตัวเองยังมีปัญหาอยู่ก็คือเรื่องของการจัดเวลา ด้วยงานหลาย ๆ อย่างที่เข้ามา มากไปหน่อยทำให้จัดเวลาไม่ค่อยถูก เท่าที่สังเกตคือเวลาผมจัดเวลาผมจะค่อนข้างฟิคไปหมดเลยว่าวันนี้ต้องทำอะไรบ้าง A B C ตามนั้นนะ อะไรแบบนี้ พอไปเจองานที่มันฟิคเวลาไม่ได้ หรือ Unexpected Event ขึ้นมาก็คืองานเข้าเลย พอเป็นแบบนี้มาก ๆ เข้ามันก็จะสะสมเข้าไปเรื่อย ๆ เหมือนดินผอกหางหมู และนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ Blog ลงไม่สม่ำเสมอเท่าไหร่

อีกเรื่องที่ทำยังไงก็ไม่หายสักทีคือเรื่อง อ้วน เดี๋ยวนี้คือเป็นโรคอะไรไม่รู้คือเวลากินของคาวแล้วมันจะต้องตามด้วยของหวาน แลัวคือของหวานแต่ละอย่างที่กินนี่อ้วนทุกอย่าง ประกอบกับช่วงหลัง ๆ ไม่ค่อยได้ออกไปปั่นจักรยานออกกำลังกายเท่าไหร่ด้วย จนไปเจอเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนานก็ทักอยู่ว่าทำไมหน้าอ้วนขึ้น ? ก็เอาซะหมดความมั่นใจไปเลย

ปีหน้าทำอะไรดี

ในทุก ๆ ปีผมจะตั้ง Goal ให้กับตัวเอง ในปีที่แล้วบอกว่าอยากเรียนรู้เกี่ยวกับ NLP (ก็ได้ทำสมใจอยากเพราะ Senior Project ก็ทำ NLP ในภาษาไทย) กับอยากเรียนรู้เรื่อง Web Technologies (ก็เลยได้ไปฝึกงานทำ Front-end แล้วทำให้เราได้เข้าไปจับ Web Technologies หลาย ๆ ตัวมาก ๆ) ไปแข่งขันโน้นนี่นั่นก็ลดลง ทำให้โฟกัสที่เรื่องเรียนได้มากขึ้น

แต่ก็นะตอนนี้อยู่ ปี 4 แล้วก็จะจบใน Academic Year นี้แล้วก็จะเขิล ๆ หน่อย ก็ตัดสินใจว่าอยากจะเรียนต่อ เพราะส่วนตัวเป็นคนที่ชอบวิทยาศาสตร์ทางด้านพันธุศาสตร์มากกว่าคอมซะอีก แต่ที่เรียนคอมเป็นเพราะว่า มันเป็นสิ่งที่เราถนัด ตอนนี้โตแล้วก็อยากจะเดินออกไปในทางของตัวเอง ลองจับในสิ่งที่ชอบ กับสิ่งที่ถนัดมารวมกัน อยากรู้เหมือนกันว่าตัวผมเองจะทำมันออกมาได้ดีขนาดไหน เหมือนที่ Christopher Morcom ในหนังเรื่อง The Imitation Game บอกไว้ว่า

Sometimes it's the very people who no one imagines anything of who do the things no one can imagine.

ฉะนั้นปีนี้จะตั้งเป้าไปที่ Senior Project ที่ก็ต้องทำให้ออกมาเสร็จและดีในด้านที่ไม่เคยทำมาก่อน และ การเรียนต่อ ล้วน ๆ เลย ก่อนอื่นต้องหาที่เรียนให้ได้ก่อนนะฮ่า ๆ ถ้าใครมีมหาลัยที่สอน Bioinformatics ในต่างประเทศก็แนะนำมาหน่อยนะ หาที่เรียนอยู่ ~~~ และอย่างเคยก็จะเขียน Blog ให้บ่อยขึ้นด้วยนะ 😁

สรุป: เป็นปีที่เหนื่อย แต่คุ้ม

เป็นอีกปีที่รู้สึกว่า รอบ ๆ ตัวเราหมุนไปเร็วมาก ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ทั้งเคยและไม่เคยทำมาก่อน สิ่งที่เคยทำแล้วมันก็จะทำให้เราเก่งขึ้นไปอีก และสิ่งที่เราไม่เคยทำมันก็ทำให้เราได้ลองทำ ก่อนจะไปทุก ๆ ปีก็ยังคงแนะนำให้ทุกคนลองเขียน Year In Review ของตัวเองเก็บไว้อ่านกันนะครับ มันจะทำให้เราเห็นว่าในปี ๆ นั้นมันมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ที่สำคัญมันเป็นเหมือน Log ที่ทำให้เรานึกออกว่าสิ่งใดที่ผิดพลาดเราก็จะแก้ไขในปีต่อ ๆ ไป สิ่งใดดีอยู่แล้วก็ทำให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไปในปีต่อ ๆ ไป สุดท้ายจริง ๆ ก็สวัสดีปีใหม่ 2018 นะครับขอให้เป็นปีที่มีความสุขสำหรับทุกคนนะครับ ✨

PS. ไม่ต้อง งง นะว่าเว็บมันเปลี่ยนไป ผมเปลี่ยนเว็บใหม่ต้อนรับปี 2018 เร็วขึ้นในระดับปีศาจเทพซ่า 007 เลยทีเดียว ⚡️

Read Next...

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะเนี่ย ยังแอบรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ผ่านครึ่งปีไปดีเลย อ่อ สิ้นปีแล้วเฉยเลย มา งั้นเรามาเล่าให้อ่านกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาในปี 2022 มันเกิดอะไรขึ้น และมันสอนอะไรเราบ้าง...

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

ผ่านไปอีกปีแล้วกับปี 2021 ที่น่าจะเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับใครหลาย ๆ คน เราเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หลาย ๆ อย่างที่ Plan ไว้ก็ต้องเปลี่ยนหมด หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ก็หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีขึ้นเนอะ ~...

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องมาเขียน Year in Review อีกครั้ง ประโยคที่ว่า จะหมดปี 2020 แล้วคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ละมั่ง ปีก่อน ๆ อาจจะบอกว่า เออ ใช่แหละ แต่ปีนี้คือเป็นปีที่หนักมากสำหรับหลาย ๆ คนรวมถึงเราด้วย...

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

หลังจากตอนที่แล้ว เราพูดถึงเรื่องของการจัดการไฟล์ใน Digital ของเราไปแล้ว วันนี้เราลองมาเปลี่ยนไปดูอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และ ช่วยทำให้ชีวิตเรามีเวลาออกไปหายใจได้มากขึ้น อย่างการทำ To-Do List กันดีกว่า...