My Life

อีก 1 ปีในมหิดลศาลายา จบปี 1 แล้วเฮ้! ลอกคราบความเป็น Sophomore สู่การเป็น Junior

By Arnon Puitrakul - 21 พฤษภาคม 2016

อีก 1 ปีในมหิดลศาลายา จบปี 1 แล้วเฮ้! ลอกคราบความเป็น Sophomore สู่การเป็น Junior

ช่วงนี้เพื่อน ๆ ก็คงจะปิดเทอมกันหมดแล้วแหละ ส่วนใครที่ยังก็สู้ต่อไปนะทาเคชิ ส่วนเราสอบเสร็จ โปรเจ็คหมดแล้ว ปิดเทอมแบบเต็มตัวแล้วเฮ้ ! ตามธรรมเนียม (เหรอ?) ที่ผมจะเขียนว่าในหนึ่งปีที่เรียนมามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งสนุก ทั้งทุกข์ ปน ๆ กันไป รวม ๆ ปีนี้ก็เป็นอีกปีที่สนุกดี แต่นรกกว่าตอนปี 1 เยอะมาก ทั้ง Project และงานต่าง ๆ ที่มากขึ้นตามความรับผิดชอบที่ต้องมีมากขึ้น (แต่เรามีเท่าเดิมไงประเด็น !)

ตอนปี 1 แรก ๆ จำได้ว่า ตอนนั้นออกจากหอตอน 7 โมงเพื่อไปกินข้าว แต่เดี๋ยวนี้คือตื่นมาก็ 7 โมงครึ่งอาบน้ำ ปั่นจักก้าไปเรียน ถึงคณะตอน 8.45 OMG! บางทีความซวยมาเยือน เรียน 9 โมงตื่นมาก็ 8.45 แล้ว วิ่งสิครับ วิ่งชีวิตตอนนี้ช่างต่างจากตอนแรกอย่างรุนแรงมาก

ก่อนจะพูดถึงเรื่องเรียน พูดถึงงานหลักของปีนี้ก่อนดีกว่า นั่นคือการแข่งขัน ปีที่แล้ว ก็มีลงพวกเขียนโปรแกรมอย่าง ACM-ICPC แต่พบว่า ตัวเองนั้นไม่ได้ชอบด้านนั้นสักเท่าไหร่ แค่พอทำเป็นงานอดิเรก สนุก ๆ ได้ นั่นคือ ไม่อยากจริงจังกับมันนั่นแหละ ปีนี้เลย ลองส่ง Imagine Cup ที่ Microsoft เป็นคนจัด เอาจริง ๆ เลยคือ มันกินเวลาชีวิตไปเยอะมาก ๆ เยอะจนไม่มีเวลาได้สนใจคนรอบตัว หรือทำอะไรเลย ถ้าสังเกตมันจะมีช่วงนึงที่ผมไม่ได้มานั่งเขียน Blog หายไปช่วงใหญ่ ๆ เลย นั่นก็เพราะว่าไปนั่งทำ Imagine Cup อยู่นั่นแหละ แต่ก็ชนะเลิศน้าา (ตอนประกาศผลคือ อ้าวทีมเราเหรอ ? อึ้งไปดิ) แต่ปลายทางก็ไม่สำคัญเท่ากับ ระหว่างทางเลย ระหว่างทางเป็นเดือน ๆ สนุกมาก ๆ เลย แต่สิ่งที่น่ากลัวคือ การถูกสื่อรุมเร้า (ตรง ๆ เลยคือไม่ชอบการถูกทำให้เป็นที่สนใจเท่าไหร่) ปล.ขอบคุณภาพสวย ๆ จากทาง Microsoft ประเทศไทย

ปีนี้ก็ปี 2 รู้สึกเหมือนว่าจำนวน การบ้าน มันน้อยลงยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน หรือแค่รู้สึกไปเองไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ คือ Project มันมาเยือนแล้ว และมันมาอย่างน่ากลัวมาก ๆ ด้วย เพราะจำนวนของมันก็ไม่เยอะนะ แต่ใน 1 Project กว่าจะได้มันมานี่ช่างแสนสาหัสเหลือเกิน แต่สิ่งนึงที่เรียนรู้จากการทำ Project คือ การทำงานร่วมกับคนอื่น บางทีเราอาจจะบอกว่า เราเก่ง เราโน้นเรานี้ เรา Carry กลุ่มให้ได้ แต่การทำงานจริง ๆ แล้ว เราไม่สามารถที่จะ Carry กลุ่มได้ด้วยคน ๆ เดียวหรอก เราต้องอาศัยคนในกลุ่มช่วยกันทำงานให้เสร็จ และแน่นอนว่า ในกลุ่มผมก็กลายเป็นคนดูงานส่วนใหญ่ไปตามระเบียบ ยิ่งตอนนั้นก็ต้องทำ Imagine Cup ไปด้วยเลยไม่ค่อยมีเวลาไปดูงานกลุ่มเท่าไหร่ (เอาจริง ๆ ก็รู้สึกผิดหนัก ๆ เลยล่ะ) ตอนนั้นคือ งาน จะต้องส่งในวันถัดไป แต่ยังคืบหน้าไม่ถึง 40% เลยด้วยซ้ำ ตอนนั้นก็แทบตายเหมือนกัน ไม่นึกว่าจะเสร็จได้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นก็รู้สึกผิดเหมือนกัน ที่ใช้อารมณ์ไปบ้าง แต่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีล่ะ

สิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปจากตอนปี 1 อย่างเห็นได้ชัดคือ ช่วงสอบ เหมือนตอนปี 2 จะดูชิวกว่าตอนปี 1 เยอะเลย เมื่อตอนปี 1 ผมอ่านหนังสือล่วงหน้าเป็นเดือน ๆ เพื่อไปสอบ แต่ตอนนี้ปี 2 อย่างที่บอกว่า การบ้านกับ Project ผุดมันมาเป็นดอกเห็ดบานเต็มไปหมด เลยทำให้ไม่มีเวลาไปอ่านหนังสือเหมือนตอนปี 1 เลย ปีนี้สิ่งที่ทำคือ One Night Miracle กันล้วน ๆ อ่านมันเข้าไปคืนนึงก่อนสอบ และถ้าใครหลาย ๆ คนที่มีเฟสผมจะเห็นว่า ช่วงสอบนี้ มีการเล่นเกม และการโพสต์สเตตัสเยอะเป็นพิเศษ ดูเหมือนจะไม่อ่านหนังสือ แต่จริง ๆ เราอ่านน้า แต่แค่ไม่ได้โพสต์ลงเฟสว่าอ่านเท่านั้นเอง จริง ๆ น้าาาา

นอกจากการแข่งขัน และการเรียนบวกโปรเจ็คอันมหาศาลแล้วก็ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ อีก ปีน้ีสิ่งที่ดูน่ามันส์ที่สุดเลย คือ การมาเป็นสมาชิกสภานักศึกษาเลย ช่วงแรก ๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรเลยจริง ๆ เพราะก็ยังยุ่งอยู่กับ Imagine Cup นี่แหละ แต่ตอนนี้ก็ผ่านมันไประดับนึงแล้ว เลยเข้าไปช่วยสักหน่อย กลับมางานกองเป็นภูเขาเลย ปิดเทอมนี้นี่ไม่ได้พักกันเลยทีเดียว แต่ก็สนุกดีนะ ที่ได้ทำงานกับคณะอื่น ๆ เพราะว่าปกติแล้ว คณะผมไม่ได้ผูกมิตรกับคณะอื่นเท่าไหร่ เพราะเรียนอยู่ในตึกของตัวเอง การมาทำแบบนี้ก็ทำให้เราได้รู้จักการทำงานกับคนอื่น ๆ มากขึ้นมากเลยนะ

อีกงาน งานนนี้ไม่น่าจะลืมได้เลย นั่นคืองาน Open House นั่นเอง ที่จู่ ๆ ถูกลากให้มาทำงานเฉย แบบ งง ๆ เหมือนกัน แต่งานก็ออกมาดีมาก ๆ เลยอยากจะขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันลงแรง จัดงานนี้ขึ้นมาจนได้ ปีนี้ก็คงต้องช่วยกันหน่อยแล้วล่ะนะ หวังว่าปีนี้ก็จะสนุกเหมือนปีที่แล้วล่ะน้าา

อย่างที่เล่าไปว่า ปีนี้เป็นปีที่ยุ่งมาก ๆ เลยไม่ค่อยมีเวลาได้จับกล้องเท่าไหร่เลย เสียไต… TT แต่ก็ได้รูปสวย ๆ มาเยอะเลยปีนี้ ว่าจะทำ Gallary บนหน้าเว็บตัวเองกับขายรูปสักหน่อยก็ไม่เลวเหมือนกัน ปีหน้าก็ว่าจะทำกิจกรรมน้อยลง และตั้งใจเรียนมากขึ้นแล้วล่ะ ไม่งั้นมีหวังได้ตายก่อนแน่ ๆ จากปีที่แล้วที่ไม่ค่อยได้ทำกิจกรรมเลย กลายเป็นว่าปีนี้ทำเยอะไปซะงั้น ปีหน้าเลยว่าจะขอพักไปฝึกฝีมือสักหน่อย เคยมีพี่คนนึงที่รู้จักเคยพูดกับผมว่า “แกจะทำอะไรก็ได้นะ ถ้าหน้าที่หลักแกทำมันได้ดีแล้ว” ซึ่งหน้าที่หลักของเราตอนนี้นั่นคือ การเรียน ไม่ใช่การทำกิจกรรม การทำกิจกรรมเพิ่มเติมมันเป็นเรื่องรอง แต่ปีนี้กลายเป็นว่าผมทำให้มันเป็นงานหลักซะงั้น เลยทำให้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่างก็พังแบบไม่เป็นท่าเลย แม้แต่เรื่องเรียนก็ตาม คิดซะว่ามันคือบทเรียนล่ะกัน ที่ปีหน้าจะไม่ทำอีก

และก็จบแล้วกับปี 2 ที่มีแต่งาน เสียงหัวเราะ เคล้าน้ำตาเบา ๆ ในวันก่อนส่ง Project แต่ก็เป็นปีที่สนุกมาก ๆ แล้วเจอกันใหม่ปี 3 (แก่โคตร) หวังว่าปีหน้าจะมีอะไรสนุก ๆ มากขึ้นไปอีก เปลี่ยนสี Strap = เพิ่มอายุเฮ้ สวัสดี !

Read Next...

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะเนี่ย ยังแอบรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ผ่านครึ่งปีไปดีเลย อ่อ สิ้นปีแล้วเฉยเลย มา งั้นเรามาเล่าให้อ่านกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาในปี 2022 มันเกิดอะไรขึ้น และมันสอนอะไรเราบ้าง...

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

ผ่านไปอีกปีแล้วกับปี 2021 ที่น่าจะเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับใครหลาย ๆ คน เราเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หลาย ๆ อย่างที่ Plan ไว้ก็ต้องเปลี่ยนหมด หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ก็หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีขึ้นเนอะ ~...

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องมาเขียน Year in Review อีกครั้ง ประโยคที่ว่า จะหมดปี 2020 แล้วคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ละมั่ง ปีก่อน ๆ อาจจะบอกว่า เออ ใช่แหละ แต่ปีนี้คือเป็นปีที่หนักมากสำหรับหลาย ๆ คนรวมถึงเราด้วย...

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

หลังจากตอนที่แล้ว เราพูดถึงเรื่องของการจัดการไฟล์ใน Digital ของเราไปแล้ว วันนี้เราลองมาเปลี่ยนไปดูอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และ ช่วยทำให้ชีวิตเรามีเวลาออกไปหายใจได้มากขึ้น อย่างการทำ To-Do List กันดีกว่า...