Review

KZ ASX หูฟังอะไรมี 20 Driver เสียงกว้างถึงดาวอังคาร

By Arnon Puitrakul - 15 กรกฎาคม 2021

KZ ASX หูฟังอะไรมี 20 Driver เสียงกว้างถึงดาวอังคาร

KZ เป็น Brand ที่เราไม่ได้สนใจมาก่อนเลย ปกติชอบเล่น Sony เพราะเราชอบความอุ่น ๆ แบบ Sony ไปลอง Brand ไหน มันก็ให้ได้ไม่เหมือนซะทีเดียว เลยทำให้เราติดอยู่ที่ Brand นี้นานมาก ๆ จนเพื่อนเรามาป้ายยา KZ นี่แหละ เลยอะ ลองกดเลย กดตัวท๊อปมันมาลองสิ๊ว่าจะได้ขนาดไหน เปิดเข้าไปในหน้าเว็บก็คือ เจอการป้ายยาเลย 20 BA Drivers ก็คือ อึ้งไปเลยว่า หูฟังบ้าอะไร มันมี 20 Drivers ตกข้างละ 10 ตัวเลย และราคามันดีมาก ๆ มาดูกันว่ามันจะสมราคาจริง ๆ มั้ย

Unboxing

มาแกะกล่องกันก่อนดีกว่า ตัวกล่องเราสั่งมา เขามีการหุ้มพลาสติกมาอย่างดีเลย ถ้าเราแกะออกมา จับแล้วรู้เลยว่าเป็นกระดาษธรรมดานี่แหละ จับแล้วเฉย ๆ นะ ไม่ได้รู้สึกถึงความหรูหราหมาเห่าอะไร และที่ด้านหน้ามีการปริ้น Logo KZ ไว้ด้วย รวม ๆ มันดูเท่นะ เราเปิดกล่องมาครั้งแรกคือ ว้าววว เท่โคตร

ด้านหลังจะเป็นพวกรายละเอียดของ KZ เองอะไรพวกนั้น ข้าม ๆ ไปก็ได้ จุดสังเกตของด้านหลังคือ แทนที่เขาจะปริ้นลงมา เขาเลือกที่จะกัดมาแทน ทำให้จับแล้วมันจะแปลก ๆ หน่อยจนต้องหันมาดูนี่แหละ

ด้านล่างจะเป็น Barcode พร้อมบอกรุ่น ASX อยู่ด้านบน และยังบอกว่า มาพร้อมกับสายที่มีไมค์หรือไม่ ในที่นี้เราเลือกแบบที่มีไมค์มา และ สีที่เราเลือกจะเป็นสีดำทอง เราสามารถเลือกได้ตั้งแต่สั่งซื้อเลย ว่าเราจะเอาสีดำทอง หรืออ สีเงิน อยู่ที่ชอบเลย

ตอนแกะออกมา เราคิดว่า เออ มันทำมาเป็นกระดาษธรรมดา หมดละ น่าจะดึงกล่องข้างในออกมา อะไรแบบนั้น แต่อันนี้ทำทึ้ง วิธีการแกะ มันจะเป็นฝาให้เราเปิดได้เลย สร้างความรู้สึก Premium ยังไงก็ไม่รู้เหมือนกัน

เมื่อเราเปิดฝาออกมา ที่ฝา มันจะมีการพิมพ์แปลขำ ๆ ก็จะแปลว่า อย่าลืมจุดมุ่งหมายของหูฟังนี้คือการสนุกไปกับเสียงเพลง อ่าอืม... โอเค๊ ได้ และด้านขวา ที่วางอยู่ก็จะเป็นตัว KZ ASX วางไว้อย่างสวยงามมาก ๆ

ด้านล่างมันจะเป็นแผ่นเหล็กเข้าใจว่าน่าจะตัด CNC มาละ แล้วก็ Laser รุ่น กับพวก Logo ของ KZ ลงไป เพื่อสร้างความหรูหราเข้าไปอีก ส่วนตัวเราเฉย ๆ นะ ฮ่า ๆ

ของยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเราสามารถที่จะดึงเชือกที่เขาทำไว้ให้ เพื่อเปิดฝาไปสู่อุปกรณ์ที่ใส่มาในด้านล่างของกล่อง

เปิดออกมา เราจะเจอกับของหลาย ๆ อย่างวางอยู่ในนั้น ของอันแรกที่เราเห็นเลยคือใบรับประกัน

นอกจากใบรับประกัน ก็จะเป็นคู่มือการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่า เราข้ามอีกเหมือนกัน ชั้นใช้หูฟังเป็นน่า....

ของอย่างต่อไปที่มาในกล่องคือ จุกหูฟัง อันนี้จะมาเป็นจุกแบบซิลิโคนขาวแบบปกติเลย ซึ่งจะมาใน 3 ขนาดด้วยกัน คือ เล็ก กลาง และ ใหญ่ โดยที่จุกขนาดกลางถูกใส่มาในตัวหูฟังแล้ว ก็เปลี่ยนตามขนาดหูของเราจะได้พอดี

สายที่ให้มาก็ถือว่าไม่ได้แย่เลย เป็นสายที่ข้างในเป็นทองแดงเคลือบด้วยเงิน ซึ่ง KZ บออกไว้ว่า การทำสายออกมาในลักษณะนี้ จะทำให้เราได้เสียงที่ใส และมี Sound Stage ที่กว้างขึ้น กับเบาขึ้นอีกด้วย

ตัว Jack สำหรับเสียบ ก็จะเป็นขนาด 3.5mm ที่เราใช้งานกันทั่วไป อย่างรุ่นนี้เราซื้อแบบที่มีไมค์มาด้วย สังเกตที่หัว มันก็จะมี 3 แง่ง แต่ถ้าเราเอาแบบที่ไม่มีไมค์มันก็จะเป็น 2 แทน

สำหรับตัวไมค์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ได้ใหญ่มาก กับด้านหลังของไมค์จะมีปุ่มสำหรับสั่งคำสั่งต่าง ๆ เหมือนกับที่เราใช้งานปุ่มในหูฟังทั่ว ๆ ไปเลย เช่นกดเพื่อรับสาย หรือหยุดเล่นเพลง อะไรพวกนั้น ก็ขึ้นกับโทรศัพท์ หรือเครื่องเล่นของเราเลย ในกล่องก็จะมีแค่นี้แหละคือ ตัวหูฟัง, สาย, จุก Silicone และ Paperwork ต่าง ๆ

KZ ASX

ตัว KZ ASX ทำออกมา รูปทรงลักษณะคล้าย ๆ กับพวกหูฟัง Custom เลย ตัว Body ของมันเป็น Lasin ใส และ Backplate จะเป็นโลหะที่ใช้เครื่อง CNC ตัดเลยทำให้มันดูโค้งมนสวยงามมาก ๆ พร้อมกับยังมีการกัดเป็นลายอย่างสวยเลย เราว่าสีดำทองก็คือโคตรสวย

นอกจากน้ัน เรายังสามารถที่จะเปลี่ยนสายได้ด้วย โดยที่หัวของมันจะเป็นแบบ 2-pin 0.75mm ที่เราสามารถไปหาซื้อสายมาเปลี่ยน เพื่อสร้างอรรถรส หรือกลิ่นของเสียงที่แตกต่างไปจากเดิมได้ เป็น Feature ที่คนเล่นหูฟังชอบเลยละ เพราะมันเหมือนกับเราทำกับข้าวเลย ตัว Driver มี Character แบบนึง และ สายก็มีอีกแบบ เราก็ต้อง Mix-and-match มันให้เข้ากัน จะได้เสียงที่เราชอบที่สุดนั่นเอง

สเปกภายในต้องบอกเลยว่า ตอนเจอครั้งแรกคือ งง มาก ๆ ว่าหนูจะใส่อะไรไปเยอะขนาดนั้น เพราะมันมาพร้อมกับ Driver แบบ Balance Amature (BA) จำนวน 20 ตัวด้วยกัน หรือก็คือ ข้างละ 10 ตัวจุก ๆ กันไปเลย โดยจะแบ่งเป็น Driver สำหรับ 3 ช่วงเสียงด้วยกัน คือ BA30017s 4 ตัว สำหรับเสียงสูง, BA31736s 4 ตัวสำหรับย่านกลาง-สูง, BA29689s สำหรับย่านกลางและ BA22955s สำหรับย่านต่ำ ทำให้รวมจะมี Driver ข้างละ 10 ตัวกันไปเลยเชียว พร้อมกับยังรองรับ 4 Frequency Divider

คุณภาพเสียง

ความคาดหวังของเรากับ KZ ASX ก่อนที่จะได้ลองฟัง เราให้ไม่เยอะเลย พอมาฟังจริง ๆ ก็ตามนั้นแหละ ดีละที่ไม่ได้ให้มันเยอะ เราไม่ได้บอกว่ามันแย่นะ แต่มันแค่ไม่ได้ดีขนาดที่คิด โห มันใส่มาข้างละ 10 Driver เลยนะ มันน่าจะไปได้มากกว่านี้เยอะมาก ๆ

Sound State ที่ทำออกมาได้ไม่แย่เลย กว้างมาก ๆ  เหมือนเครื่องดนตรีมันลอย ๆ ทำให้เราแยกได้ง่ายมาก ๆ ย่านเสียงต่ำที่ลงได้ลึกพอตัวเลย เสียงเบส ก็คือแน่น ตึบมาก ๆ ทำให้รู้สึกถึงมิติของเสียงที่ดีมาก ๆ แต่ไม่ได้ทำให้หูล้า หรืออะไรนะ เป็นย่านเสียงที่เราชอบของหูฟังตัวนี้เลย

เสียงกลางครั้งแรกแล้วมันเอ๊ะหน่อย ๆ อย่างเสียงร้องในเพลงเหมือนมันไกลแปลก ๆ เกือบจะอยู่ระนาบเดียวกันดนตรีแล้ว แต่มันยังคงรายละเอียดของเสียงร้องได้อย่างชัดเจนอยู่แล้วนะ เสียงจากเครื่องดนตรีอย่าง Guitar หรือ Piano เราว่า ก็ยังทำได้ดีอยู่ เน้นเรื่องความชัดเจนได้ดีมาก ๆ ตัวอย่าง ตัวอย่างเพลงที่แสดงออกมาได้ดี และ เราชอบมาก ๆ คือ Remedy ของ Adele เสียงของ Adele คือ มีพลังมาก ๆ ซึ่งหูฟังคู่นี้แสดงพลังออกมาได้แข็งแรง มีรายละเอียดที่ดี พร้อมกับ Piano ที่เล่นอยู่ข้างหลังก็ไม่ได้หายไปไหน รายละเอียดยังคงมาได้อย่างครบถ้วน ไม่ได้หายไปไหนเลย

และย่านสุดท้ายคือเสียงสูง อันนี้ก็เป็นอันที่ Surprise หน่อย ๆ อาจจะเพราะไม่ค่อยได้ประสบเจอกับหูฟังที่ให้เสียงสูงแบบนี้มาก่อน เสียงแหลมของมันจะไม่ได้ทอดยาวมาก ไม่ได้เสียดหูแต่อย่างใด ปลายเสียงออกมล ๆ ด้วยซ้ำ ตรงนี้แหละที่ Surprise แล้วทำให้เพลงบางเพลงมันฟังแล้วเอ๊ะขึ้นมาแบบ งง ๆ คือไม่ได้เป็นความรู้สึกแย่นะ แต่รู้สึกแปลก แต่ดีว่าแบบนั้นดีกว่า นอกจากนั้น รายละเอียดมันยังไม่โดนกลบหายไป โดยเฉพาะเวลาเราฟังเพลงที่นักร้องเล่นเสียงสูงมาก ๆ รู้สึกได้ถึงรายละเอียดของเสียงที่ซ่อนอยู่เลย จนบางที เอ๊ะ มันมีด้วยเหรอ ฮ่า ๆ

จุดเด่นที่เราว่า KZ ASX ให้เราและเราชอบมาก ๆ คือ รายละเอียดของเสียง ที่ครบถ้วน นอกจากนั้น Dynamic ของมันก็น่าสนใจเหมือนกัน อาจจะเพราะการที่มันใช้ 10 BA Driver ทำงานแยกกัน ทำให้มันมี Dynamic ของเสียงที่ดีจนต้องยิ้มออกอมา อย่างเพลง Symphony ของ Clean Bandit เสียงสูงตอนท่อนฮุกเดินไปได้สูงแต่รายละเอียดยังอยู่ กับเสียง Percussion ที่ต่ำลงมันไปได้ แล้วพอท่อนร้องแล้ว Percussion เล่นไปด้วย รู้สึกเลยว่าเสียงมันแยกส่วนกันจริง ๆ ไม่ได้กลืนหายเป็นเนื้อเดียว

อีกเพลงที่แสดง Character ของ KX ASX ได้ดีอีกเพลงคือ Hotel California เริ่มเพลงมา ท่อน Guitar มันดีมาก ๆ ให้เสียงที่ลงนุ่มมาก ๆ แล้วพอมันเล่นพร้อม ๆ กันคือดีมาก ๆ พอท่อนร้องเริ่ม ลองเอาไปฟังเทียบกับหูฟังอันอื่นดู จะรู้เลยว่า KZ ASX ให้เสียงร้องที่เหมือนห่างไปหน่อย คือ เดิมเพลงมันก็ทำให้ฟังแล้วห่างแล้ว แต่พอเจออันนี้เข้าไปอีก มันเลยห่างเข้าไปใหญ่เลย เสียงร้องไม่ค่อยผ่าน แต่ดนตรีคือได้เลย

Upgrade Parts

ไหน ๆ เราก็เล่นกับตัวท๊อปแล้ว ไปให้สุดเท่าที่ KZ จะไปได้กัน เราซื้อสาย Upgrade มาด้วย เป็นสายทองแดงถักเข้ากับสายที่ชุบเงินแบบความบริสุทธิ์สูง ทำให้ไม่มีออกซิเจนเหลือในสายเลย นั่นแปลว่า สัญญาณรบกวนต่าง ๆ ที่เราอาจจะเจอในสาย ก็จะน้อยลงไปเยอะมาก ๆ ทำให้ ข้อมูลที่เราส่งระหว่างสายมีความถูกต้องตามที่เครื่องส่งออกมามากขึ้นนั่นเอง สั้น ๆ ก็คือ ให้เสียงมันได้ออกมาตรงกับที่เราส่งออกไปมากขึ้นนั่นเอง

กล่องมาง่าย ๆ เลย เล็ก ๆ นี่ละ แล้วก็เขียนเลยว่า Gold Silver Mixed Upgrade Cable เป็นสาย Upgrade

ที่ใต้กล่องจะเป็นรายละเอียดของตัวสาย สายตัวนี้เราซื้อมา ความยาวของมันจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 เมตร ก็ถือว่ายาวเพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน

ตัวสายทำออกมาได้ดูดีอยู่นะ จะเป็นสายที่หน้าตาคล้าย ๆ กับที่แถมมาในกล่องของ KZ ASX ที่เรารีวิวให้ดูเลย แต่สีของมันแทนที่จะเป็นสีเงินล้วน ก็จะเป็นสีทองถักผสมกับเงินแทน ดูดีไปอีกแบบเลย

หัวสำหรับเชื่อมต่อกับ Driver ก็เป็นเหมือนกับสายที่ให้มาในกล่องเลย ก็จะเป็น 2-pins เหมือนเดิม ซึ่งแน่นอนว่า เราสามารถเอาสายนี้ไปใช้กับหูฟังอื่น ๆ ที่รองรับหัวแบบเดียวกันได้เลย

หัวต่อ Jack 3.5 ของมันนี่แหละที่ Grand ดูดีมาก ๆ ทำจากโลหะเลย ต่างจากรุ่นอื่น ๆ หรือสายที่มาในกล่องที่จะทำจากพลาสติก และ ให้เราดูที่หัวของมัน จะเห็นว่ามันมีร่องแค่ 2 ร่องเท่านั้น ก็คือ สายตัวนี้ไม่มี Microphone มาให้นะ แต่เอาจริง ๆ คนที่ซื้อสายพวกนี้มา ก็น่าจะ Focus เรื่องเสียงมากกว่ารึเปล่า เขาเลยไม่ติดไมค์มาให้ด้วย

เอาหล่ะ แล้วคุณภาพละ ต้องบอกเลยว่า มันค่อนข้างต่างกับสายที่ให้มาในกล่องเลย อันที่รู้สึกได้แบบชัด ๆ เลยคือ เรื่อง Sound Stage ที่กว้างขึ้นกว่าเดิมมาก ๆ การแยกชิ้นดนตรีทำได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย หรือในย่านเสียงแหลม เราว่ามันทำให้เสียงแหลมที่ปลายมลอยู่แล้วมันมลแบบสบายขึ้นไปอีกหน่อยด้วยมั่ง ย่าน Mid-Bass ก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดมาก ๆ โดยรวม แล้วมันทำให้เสียงมันสบายหูมากขึ้นมากเลย

สรุป

KZ ASX เป็นหูฟังที่ใช้ Driver แบบ Balance Amature จำนวน 20 ตัว ที่มาแปลก มาก ๆ เพราะไม่เคยเห็นจำนวนที่เยอะขนาดนี้ในหูฟังอันเดียวมาก่อน งาน Design ที่เราว่ามันสวยแบบกลาง ๆ นะ ไม่ได้ออกแนว Rock หรือ Gentle เกินไป มันกลาง ๆ ใช้กับสถานการณ์ไหนมันก็ดูดี โดยเฉพาะ Backplate ที่ตัดด้วย CNC แล้วกัดร่องเข้าไป เติมสีเข้าไปคือดูดีเวอร์เลยละ เราชอบมาก ๆ ส่วนเรื่องเสียง เราว่ามันทำมาได้ออกแนว Balance มาก ๆ เลยละ ไม่ได้เหมาะกับการฟังเพลงประเภทใดประเภทหนึ่งสักทีเดียว มันน่าจะเป็นหูฟังแบบ Major เลย คือ ใครฟังเราว่าน่าจะกลม ๆ กล่อม ไม่ได้ออกรสชาติจัดจ้านมากใครกินก็อร่อยอะไรแบบนั้นมากกว่า สิ่งที่เราว่า มันแอบน่าผิดหวังไปหน่อย ก็จาก Killer Feature ของมันนี่แหละ ที่มันมากับ 20 BA Drivers เรามองว่า มันควรจะทำได้ดีกว่านี้เยอะเลย เราลองหูฟังอื่น ๆ ที่ใช้ BA Driver จำนวนน้อยกว่านี้ แต่ได้เสียงที่ครบถ้วนกว่าก็มี ดังนั้น เรามองว่า 20 BA Drivers มันเป็นเรื่องของการตลาดมากกว่า ถามว่า เหมาะกับใคร เราว่าน่าจะเหมาะกับคนที่เริ่มอยากลองฟังเพลงจริง ๆ จัง ๆ แล้วมีงบอยู่พอตัว หลัก 3000 บาทนิด ๆ หน่อย ๆ เราว่า KZ ASX ก็น่าจะเป็นหูฟังที่ดีสำหรับคนเหล่านี้เลย ส่วนถ้าเราฟังเพลงจริง ๆ จัง ๆ เลย อันนี้ไม่ตอบโจทย์เราเลย เราว่า เราไปหาอันที่เหมาะกับเรามากกว่านี้ดีกว่า

Read Next...

รีวิว Apple Watch Series 10 ในที่สุด ก็ได้กลับมาใส่ Titanium อีกครั้ง

รีวิว Apple Watch Series 10 ในที่สุด ก็ได้กลับมาใส่ Titanium อีกครั้ง

ไหน ๆ Apple Watch เข้าเลขสองหลักกันแล้ว มีหรือเราจะพลาด เพื่อเป็นการฉลองก็เลยจัดมาเลยเรือนนึง เป็น Apple Watch เรือนที่ 3 ของเราละ ผ่านมา 10 Series จะมีอะไรใหม่ ใส่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมารีวิวเล่าให้อ่านกัน...

รีวิว Macbook Pro 14-inch M4 Max ไปให้สุดหยุดที่หมดตัว v2 (Part Performance Analysis)

รีวิว Macbook Pro 14-inch M4 Max ไปให้สุดหยุดที่หมดตัว v2 (Part Performance Analysis)

จาก Part ที่แล้วเราเล่าไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังขาดประเด็นสำคัญนั่นคือ Performance ของ M4 Max ว่า มันเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือทำให้การทำงานของเราเร็วขึ้นได้อย่างไร วันนี้จะเน้น Benchmark และพยายามมาหาสาเหตุกันว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นกัน...

รีวิว Macbook Pro 14-inch M4 Max ไปให้สุดหยุดที่หมดตัว v2 (Part 1)

รีวิว Macbook Pro 14-inch M4 Max ไปให้สุดหยุดที่หมดตัว v2 (Part 1)

หลังจาก Apple Transition ไปสู่ Apple Silicon มาจนถึงจุดที่การเปลี่ยนผ่านเสร็จสิ้น เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับ Apple Silicon อีกเลย จนกระทั่งตอนที่ M4 ออกนี่แหละ ที่เราคิดว่า มันถึงจุดที่ใช่ละ ฤกษ์มันมาแล้ว ก็จัดเลยสิครับ มาดูกันว่าฤกษ์มันจะตรงอย่างที่เราคิดหรือไม่...

รีวิว iPad Mini Gen 7 หน้าเดิม แรงขึ้นรองรับ Apple Intelligence แล้วนะ

รีวิว iPad Mini Gen 7 หน้าเดิม แรงขึ้นรองรับ Apple Intelligence แล้วนะ

หลังจากผ่านไป 3 ปี ในที่สุดวันที่เรารอคอยกันก็มาถึง iPad Mini ออกรุ่นใหม่แล้วแกร แต่เอ๊ะ หน้าเดิมนิ แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และส่งผลกระทบต่อการใช้งานอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ทดลองใช้แล้วจะมารีวิวให้อ่านกัน...