My Life

อีก 1 ปีในมหิดลศาลายา จบปี 1 แล้วเฮ้! ลอกคราบความเป็น Junior สู่การเป็น Senior

By Arnon Puitrakul - 24 พฤษภาคม 2017

อีก 1 ปีในมหิดลศาลายา จบปี 1 แล้วเฮ้! ลอกคราบความเป็น Junior สู่การเป็น Senior

และแล้ว 1 ปี ก็เวียนมาบรรจบอย่างรวดเร็วเหมือนเราพึ่งขึ้นปี 3 เมื่อวาน วันที่กำลังนั่งเขียนอยู่ตอนนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของปี 3 พอดี ก็เลยอยากจะมาเล่าว่าในหนึ่งปี ก็คือในช่วงปี 3 ที่ผ่านมามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ทั้งสนุก และชิบหาย ปน ๆ มั่ว ๆ กันไป

ปีที่แล้วว่ามั่วซั่วแล้ว ปี 3 นี่หนักกว่าเดิมเยอะ (มันใช่เรื่องที่ควรจะดีใจมั้ยฮ่ะ !!) เมื่อตอนปี 2 ถึงคณะ 9.45 ใช่มั้ย ปีนี้ด้วยอะไรก็ไม่รู้ พยายามอาบน้ำให้เร็วขึ้น จะได้ออกเร็วขึ้น สุดท้ายก็ออกสายเหมือนเดิม บางวิชาคือเข้าสายไปครึ่งชั่วโมง โดยที่เจ้าตัวยัง งง อยู่ว่า ทำไมเราตื่นเช้ากว่าเดิม แต่ทำไมตรูไปสายกว่าเดิมฟร๊ะ

และปีนี้ก็เป็นอีกปีที่พยายามจัดสรรเวลา และดูแลสุขภาพของตัวเองในมากขึ้น เช่นตอนเย็นจะไปปั่นจักก้าอย่างน้อยสัก 1-2 ชั่วโมง บางทีวันอาทิตย์ก็จะโผล่ไปพุทธมณฑลบ่อย ๆ กับลดขนมและน้ำอัดลม แต่ความพยายามนั่นหาได้ผลไม่ มันดันกินมากกว่าเดิมอีก ตรงกันข้าม ออกกำลังกายก็น้อยลงกว่าปีก่อนอีก ทำให้รู้สึกว่า ตัวเองตอนนี้มันอ้วนชิบ !!

เวลาที่หายไปนั้น มันก็ไม่ได้หายไปไหน ไปตกอยู่กับ Project และการบ้านกองท่วมหัว ปี 2 ว่าบรรลัยแล้ว ปี 3 จะทำให้คุณสามารถหาขั้นกว่าของคำว่า บรรลัย ได้ ตั้งแต่เรียนมา ไม่เคยเจอว่ามี Project มันทุกวิชา กับสั่งการบ้านยังกะไม่เคยสั่งมาก่อนในชีวิต และแต่ละวิชามันไม่ได้สั่ง Project ตัวเดียว ผลก็คือ นั่งทำ Project และการบ้าน จนตัวบวมโค้ก ฮ่า ๆ เหมือนที่พี่ ๆ บอกกันมาว่าปี 3 นี่แหละเด็ดสุดแล้ว เออครับ เชื่อ !!! แต่ยังเชื่ออีกว่า ปี 4 มันต้องพีคกว่าแน่เลย !!!!

ทางฝั่งกิจกรรมก็ไม่แพ้กัน ปีที่แล้วเป็นรองของรองฝ่ายในงาน Open House ที่คณะ ปีนี้กลายร่างมาเป็น Head ฝ่าย Project โดยที่ฝ่ายอื่นเป็นปี 4 ทั้งหมด ซึ่งเวลามันก็จะไม่ค่อยจะตรงกันสักเท่าไหร่ ก็เหนื่อยมากกว่าปีที่แล้วมาก และกอยากจะขอบคุณ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ในงานนั้นที่ทำให้งานนั้นสำเร็จออกมาได้ (แต่ก็ไม่ได้อยู่ในงานเลย...)

งาน Open House เพิ่งเริ่มวันแรก ก็ต้องบินไปแข่ง Innoserve 2016 ที่ ไทเป, ไต้หวัน ก็เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้ไปไต้หวัน และได้ไปแข่งในระดับที่หลากหลายประเทศร่วมกันขนาดนี้ ไปที่นั่นคือได้รับการต้อนรับที่ดีมาก ๆ จากเจ้าบ้าน ประทับใจมาก ๆ กลับมาอาทิตย์หน่อย ๆ ก็ได้ไปไทเปอีกครั้ง ในอีกการแข่งขันหนึ่งชื่อ APICTA 2016

Innoserve 2016 ก็ทำเอามันส์แล้ว APICTA 2016 พีคกว่า เพราะเป็นการแข่งขันที่ใหญ่กว่าเยอะมาก ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าบ้านก็ค่อยข้างโอเคเลย เพราะจัดใน The Grand Hotel ที่จัดว่าเป็นโรงแรมที่เจ๋งมาก ๆ ให้อารมณ์เหมือนพระราชวัง แล้วไปงานคือ เขาแจก Wifi Pocket จาก jetfi มานึกว่าจะกลับก็ให้คืนคือ เปล่าเขาให้เลย อ้าวเฮ้ยจริงเดะะะ รอบนี้ไปญี่ปุ่นเลยสบายเลย ไปซื้อซิมมาใส่แล้วก็ได้ Wifi Pocket เลย

นอกจากไปแข่งแล้ว ได้มีโอกาสบินไปทั้งทีมันก็ต้องเที่ยว และกิน !!! กลับมานี่คือคิดถึง หมาล่า มาก ที่ไทเปคือ ใครไป ไปกินหมาล่าซะนะ มันเป็นของเทพมาก ๆ กลับมากินที่ไทยคือมัน อ่อนมาก เมื่อเทียบกับไทเป !!!!!

ช่วงหลัง ๆ ของปี นอกจากความบรรลัยของฝั่งการเรียนแล้ว ก็ยังมาเป็นประธานค่าย JWC 9 อีกทำให้งานกองกันจนบวมเต่ง ระเบิดดังตูมคาหัวกันเลยทีเดียว

ไปโน้นไปนี่ ปีนี้ก็ได้มีโอกาสมาทำสิ่งที่ตัวเองอยากจะทำมานานแล้วนั่นคือ การเปิดคอร์สสักอัน ผลตอบรับก็ค่อนข้างดี ตอนแรก ๆ ก็แอบกลัว สอนไปก็เกร็งไปหมด พอหลัง ๆ ก็เริ่มดีขึ้น สนุกมากขึ้น ถือว่าเป็นประสบการณ์หนึ่งที่ดีมาก ๆ ผมได้เขียนเล่าประสบการณ์ไปใน Blog แล้วล่ะ ลองเข้าไปอ่านกันได้ที่ ลิงค์นี้ ได้เลย

และแน่นอนว่าสนุกขนาดนี้ มีหรือที่จะไม่เปิดอีกคอร์ส แต่รอกันหน่อยนะ ช่วงนี้มันช่วงที่ยุ่งมาก ๆ ของชีวิตเลยฮ่า ๆ สัญญาว่าจะรีบกลับมาสอนให้เร็วที่สุด

เด็ดกว่านั้นคือ ปี 3 เทอม 2 เป็นช่วงที่เราจะต้องเลือก Track ในการเรียน ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คิด และคิดมาเป็นเทอมแล้วละ และตอนเลือกคณะจะมีเหมือน Suggestion มาให้ว่าเราน่าจะเลือกอะไร โดยดูตามเกรดจากวิชาที่เกี่ยวข้อง ซึ่งแน่นอนว่า Database นำโด่งขึ้นมา แต่คิดว่าเราจะเลือกใช่มั้ย ฮ่า ๆ ไม่ !! ไปเลือก Computer Science แทน เพราะไม่อยากจะเสียเงินไปเรียนในสิ่งที่ถนัดอยู่แล้ว สุดท้ายก็หนีไม่พ้น ดันบังคับเรียนกับ Database Track ซะนี่ (ร้องไห้ไป !)

ยอมรับเลยนะว่า ตอนปี 1,2 ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือก่อนสอบเลย เพราะว่ามีเพื่อนติว หรือไม่ก็อ่านมันพร้อมเพื่อนเลย แต่พอมาปี 3 มันก็จะมีวิชา Track เข้ามา ซึ่งไม่ใช่เพื่อนทุกคนในกลุ่มที่จะเรียน Track เดียวกัน ทำให้เรียนด้วยกันน้อยลง จากเมื่อก่อนที่พึ่งเพื่อน ช่วยอ่านหนังสือ ตอนนี้กลับกลายเป็นว่า ต้องอ่านเอง TT เลยทำให้ต้องอ่านหนังสือเองมากขึ้น

และแล้วก็จบแล้วปี 3 เย้ ๆๆ ปาดเลือด ปาดน้ำตา รัว ๆ แต่รวม ๆ แล้วมันก็สนุกดีนะ เปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับตัวเอง ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ สนุก ๆ ขอบคุณเพื่อน ๆ ที่ช่วย ๆ กันมาถึงตอนนี้ และเราก็เบลอหน้า !!!!!! ขำแบบสะใจมาก !! แล้วเจอกันใหม่ปี 4 ปีสุดท้าย หวังว่าจะมีความหรรษามากขึ้นไปอีก ปีหน้าก็ได้เปลี่ยนสี Strap เป็นสีฟ้า ที่อยากได้มาตั้งแต่ปี 1 แล้วฮ่า ๆ

ปล. 1 อ่านแล้วไม่ต้อง งง MUICT จะมีการเปลี่ยน Strap (หรือที่ห้อยบัตรนั่นแหละ) กันทุกปี ก็จะเรียงสีตามปี ตั้งแต่ สีเหลือง สีชมพู สีเขียว และสีฟ้าผู้แก่สุด

ปล. 2 อ่านรีวิวชีวิตความบรรลัยใน ปี 1 และ ปี 2 ได้ตามลิงค์เลย

Read Next...

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะเนี่ย ยังแอบรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ผ่านครึ่งปีไปดีเลย อ่อ สิ้นปีแล้วเฉยเลย มา งั้นเรามาเล่าให้อ่านกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาในปี 2022 มันเกิดอะไรขึ้น และมันสอนอะไรเราบ้าง...

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

ผ่านไปอีกปีแล้วกับปี 2021 ที่น่าจะเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับใครหลาย ๆ คน เราเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หลาย ๆ อย่างที่ Plan ไว้ก็ต้องเปลี่ยนหมด หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ก็หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีขึ้นเนอะ ~...

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องมาเขียน Year in Review อีกครั้ง ประโยคที่ว่า จะหมดปี 2020 แล้วคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ละมั่ง ปีก่อน ๆ อาจจะบอกว่า เออ ใช่แหละ แต่ปีนี้คือเป็นปีที่หนักมากสำหรับหลาย ๆ คนรวมถึงเราด้วย...

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

Productive Series: To-Do List ทำดี มีเวลาว่างเพิ่มขึ้นเยอะ

หลังจากตอนที่แล้ว เราพูดถึงเรื่องของการจัดการไฟล์ใน Digital ของเราไปแล้ว วันนี้เราลองมาเปลี่ยนไปดูอีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน และ ช่วยทำให้ชีวิตเรามีเวลาออกไปหายใจได้มากขึ้น อย่างการทำ To-Do List กันดีกว่า...