My Life

อีก 1 ปีในมหิดลศาลายา จบปี 1 แล้วเฮ้! ลอกคราบความเป็น Freshman สู่การเป็น Sophomore

By Arnon Puitrakul - 22 พฤษภาคม 2015

อีก 1 ปีในมหิดลศาลายา จบปี 1 แล้วเฮ้! ลอกคราบความเป็น Freshman สู่การเป็น Sophomore

ถ้าใครได้อ่านหน้า about:me ของผมก็น่าจะรู้ว่าผมเขียนอยู่มหาวิทยาลัยมหิดล วันนี้ผมก็สอบ Final สุดท้ายของปี 1 เรียบร้อยแล้ว หมดแล้วความเป็น Freshman ปีหน้าก็กลายเป็นพี่ๆแล้ว เศร้าแท้ TT วันนี้ผมอยากจะมาเล่าว่า 1 ปีของผมใน มหิดล ศาลายา นั้นมีอะไรบ้าง
ส่วนตัวแล้ว ผมเรียนคณะ ICT ซึ่งเป็นคณะที่ ไม่ได้เรียนรวมกับคนอื่น เพราะว่าเรียนเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้ไม่ค่อยได้คุยกับคณะอื่นเท่าไหร่ (น่าเศร้าแท้ TT) ไม่ได้เรียน MUGE วิชาในตำนานด้วยนะ เศร้าหนักเลย ซึ่งที่ว่ามาก็เป็นเหตุผลที่ทำให้เราไม่ค่อยรู้จักคนนอกคณะเท่าไหร่ แต่นั่นก็ไม่แย่เท่าไหร่นะ เพราะพี่ๆในคณะก็น่ารักดี เหมือนพี่เหมือนน้องจริงๆ ก็ดีมากเลยล่ะ
เช้าๆเวลาปั่นจักก้า (จักรยาน) ไปเรียน เทอมแรกเลย ตื่นไวเวอร์!! ไปนั่งกินข้าวเช้าอยู่ MLC ชิว ๆ ตอนนี้เหรอ ปกติเรียนเช้าสุดคือ 9 โมง ตื่น 7 โมงครึ่ง ออกจากหอ 8.30 ทุกวัน! เข้าเรียน 8.45 คนล่ะเรื่องกับตอนแรกๆเลยทีเดียว ยิ่งเรียนก็ยิ่งขี้เกียจสินะ
การบ้านก็เช่นกันเยอะเวอร์! แรกๆมันก็เยอะด้วยปริมาณ แต่เหมือนพอมาขึ้นเทอมใหม่ ดูมันน้อยลงนะ แต่เราใช้เวลาทำนานมากขึ้นเรื่อยๆ และมันก็คงจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆยิ่งเราขึ้นไปสูงๆไปด้วยเช่นกัน!! ไม่ไหวเหมือนกันนะ!!
ตอน ม.ปลาย ก็ได้ไปแข่งอะไรหลายๆอย่าง เข้ามหาลัยมีรึจะเรียนเฉยๆ ไม่มีทาง ปีนี้ก็ไปแข่งเขียนโปรแกรม ACM-ICPC (ปีหน้าก็จะลงอีก ใครลงก็มาเจอกัน!!) ได้แข่งจนถึงรอบ Asia เลยแหละ!! ตื่นเต้นเวอร์!! ตอนนั้นก็ต้องขอบคุณเพื่อนในทีมที่เขียนให้มาขนาดนี้น้าา อิอิ ไม่ขอเอยชื่อล่ะกัน

DSC_0514
ถ้าใครไม่รู้จัก ACM-ICPC มันก็เป็นการแข่งเขียนโปรแกรมระดับโลกเลยทีเดียว มีครั้งแรกเมื่อนานมาแล้ว ก็แข่งมาทุกๆปีจนถึงตอนนี้ เราก็ต้องจับทีมกัน 3 คน ตั้งชื่อทีม ทีมผมชื่อ Reducto แต่ก็ต้องใส่ชื่อ มหาลัยกับคณะตัวเองด้วยเลยกลายเป็น MUICT_Reducto ไปเฉยเลย! แต่ก็เท่ดี แล้วให้ 3 คนมานั่ง Solve ปัญหาแล้วเขียนออกมาเป็นโปรแกรม ซึ่งก็อย่างที่บอกว่า ระดับโลก ฉะนั้นปัญหาที่เอามาให้แก้ก็ตามนั้นเลยครับ ยากโคตรๆ เอาเป็นว่า รอบสุดท้าย ยังไม่เคยมีทีมคนไทยล้วนเข้าไปได้เลย

พอเรียนๆไปก็ต้องสอบ ช่วงสอบนี่แหละ Peak สุดแล้วล่ะในช่วง 1 ปีนี้เลย เพราะเราจะอ่านหนังสือกันอย่างบ้าคลั่ง เมื่อตอนเทอมแรก อ่านหนังสือเร็วมาก 3 อาทิตย์ก่อนสอบก็เริ่มแล้ว แต่พอมาเทอม 2 เหลือแค่อาทิตย์เดียวก่อนสอบ ค่อยมาเริ่มอ่าน ซึ่งถ้าใครที่กำลังเรียนมหาลัยหรือจบไปแล้วก็จะรู้ว่า เนื้อหามันโคตรจะเยอะเลย ถ้าน้องๆ ม.ปลาย ไม่รู้ว่ามันเยอะแค่ไหนนะครับ น้องเอาเนื้อหา ม.ปลายของน้องทั้งหมดอะครับ มาอัดอยู่ในเวลาแค่ 1 คาบ- 2 คาบอะครับ คิดดูล่ะกันมันจะอึกอัดแค่ไหน! ฉะนั้นการอ่านก่อนสอบอาทิตย์เดียว นี่แบบเหมือนอัฉริยะข้ามคืนจริงๆ สถานที่ ที่ฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้นห้องสมุด ไปคลุกกันตั้งแต่เช้ายันเย็น! ที่แจ๋มกว่านั้นคือ ที่มหิดลช่วง Midterm ห้องสมุดจะปิด 4 ทุ่ม (มั่งจำไม่ได้) ส่วนช่วง Final จะปิดเที่ยงคืน!! ดึกๆนี่แหละเวลาอ่านหนังสือเลย จาก Final ที่พึ่งหมดไป ใช้เวลาอยู่ในห้องสมุดมากกว่าหอตัวเองอีกนะบอกเลย


สอบเสร็จทีนี่แบบ อยากจะโยนชีทเล่น วันนี้สอบ Final สุดท้ายเสร็จเลยจัดซะเลย หน้าก็มึนๆเพราะพึ่งโดนวิชา Digital มานะ โอเคนะ กำลังมึนสุดๆ การตอบสนองช้ามาก แต่วิชานี้ ผมก็ยกให้มันเป็น The ของ The ในปีแรกจริงๆ อาจจะเพราะว่าผมได้โปรแกรมมิ่งมาก่อนแล้วมั่งเลยรู้สึกว่าโปรแกรมมิ่งไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่มันมากลายเป็นวิชานี้แทนซะงั้น...


สำหรับ Freshman แล้วก็ต้อง ไทด์ ใช่มั้ยครับ ปี 1 เป็นปีที่ เราจะต้องผูกไทด์ หรือ ผู้หญิง (ที่มหิดลนะ) ก็ต้องผูกโบว์ไทด์ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเข้ามาปีแรกก็จะถูกบังคับให้ใส่ไป แต่คณะผมก็ไม่ได้มีใครบังคับให้ใส่นะ ซึ่งก็ดี แต่ตอนสอบปี 1 ก็ต้องใส่ ฉะนั้นวันที่ใส่ก็จะถ่ายรูปกันเยอะหน่อย อิอิ เพราะไม่ค่อยได้ผูก จบปี 1 แล้วถอดไทด์ซะเลย อิอิ

ถ้าเปรียบชีวิต 1 ปีที่ผ่านมา ผมก็คงเปรียบมันเหมือนกับ ผู้หญิงคนนึง แรกๆเราอาจจะยังรู้จักไม่ได้เท่าไหร่ อาจจะหลงๆกันบ้าง หาไม่เจอบ้าง แต่พออยู่ๆไปเราก็เริ่มรู้จักกันมากขึ้นจนกลายเป็นความผูกพัน เธอให้ทั้งความรู้และมิตรภาพกับเรา ถึงแม้ว่าบางทีเราก็ทะเลาะกันบ้าง ดีกันบ้าง แต่สุดท้ายแล้วเราก็ดีกันจนได้
และก็จบแล้วกับการเป็น Freshman มหิดล 1 ปีในศาลายาอาจจะเจอเรื่องร้ายบ้าง ดีถมเถ แต่พอย้อนกลับมาดูแล้วมันก็สนุกดีนะ การันตีได้เลยว่ามหาลัยนี้ให้อะไรมากกว่าความรู้ จริงๆ ไว้เจอกันใหม่ปี 2 จะเป็นพี่แล้วเฮ้ๆๆ เปลี่ยน Strap เพิ่มอายุ! หวังว่าปีหน้าจะมีอะไรสนุกๆเหมือนปีนี้นะ ไม่ได้ไปไหนนะอยู่ศาลายาเหมือนเดิม 4 ปี ไปก่อนล่ะสวัสดีครับ

Read Next...

Year In Review 2023 สวัสดี 2024

Year In Review 2023 สวัสดี 2024

แปลกมากเลยนะ เรารู้สึกว่ายังเหมือนต้นปีอยู่เลย เวลาผ่านไปแปบเดียว กลายเป็นจะหมดปีซะแล้ว เรียกว่าเป็นปีที่ทำอะไรเยอะมาก มีการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ เรื่องเยอะมาก เรื่องหลาย ๆ เรื่องที่เราปูมาตั้งแต่ปีก่อน มันค่อย ๆ งอกเงยมาเรื่อย ๆ วันนี้เรามาถอดบทเรียนให้อ่านกันว่าเราได้อะไรจากมัน และมันสอนอะไรกับเราบ้าง...

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

Year in Review 2022 สวัสดี 2023

เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะเนี่ย ยังแอบรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ผ่านครึ่งปีไปดีเลย อ่อ สิ้นปีแล้วเฉยเลย มา งั้นเรามาเล่าให้อ่านกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาในปี 2022 มันเกิดอะไรขึ้น และมันสอนอะไรเราบ้าง...

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

Year in Review 2021 สวัสดี 2022

ผ่านไปอีกปีแล้วกับปี 2021 ที่น่าจะเป็นเวลาที่ยากลำบากสำหรับใครหลาย ๆ คน เราเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ หลาย ๆ อย่างที่ Plan ไว้ก็ต้องเปลี่ยนหมด หน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว ก็หวังว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ดีขึ้นเนอะ ~...

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

Year in Review 2020 สวัสดี 2021

และแล้วก็ถึงเวลาที่ต้องมาเขียน Year in Review อีกครั้ง ประโยคที่ว่า จะหมดปี 2020 แล้วคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้ละมั่ง ปีก่อน ๆ อาจจะบอกว่า เออ ใช่แหละ แต่ปีนี้คือเป็นปีที่หนักมากสำหรับหลาย ๆ คนรวมถึงเราด้วย...