Review

ไปดูมาแล้วกับ In This Corner of the world

By Arnon Puitrakul - 17 ตุลาคม 2017

ไปดูมาแล้วกับ In This Corner of the world

“In This Corner of the World” หรือชื่อภาษาไทยว่า แค่วาดฝันในโลกสวย เป็น Animation ที่ฉายต่อจาก Your Name เลย เอาความจริงคือ ไม่รู้มาก่อนเลยว่าเรื่องนี้จะมาเข้าฉาย จนวันนึงเปิดผ่านโรงหนัง แล้วเห็นมันเข้าฉายเลยรีบจองตั๋วดูวันนั้นเลย

เรื่องย่อ

In This Corner of the World เป็น Animation ที่ดัดแปลงมาจากหนังสือการ์ตูนของ ฟูมิโยะ โควโนะ นักเขียนการ์ตูนที่ผ่านรางวัลมามากมาย และกำกับโดย สุนาโอะ คาตาบุจิ เล่าถึงเรื่องราวชีวิตของ ซึสุ หญิงสาวชาวฮิโรชิม่า ที่เป็นคนมองโลกในแง่ดี เปิ่น ๆ หน่อย และชอบวาดรูปเป็นชีวิตจิตใจ

โดยตัว Animation เล่าตั้งแต่ช่วงเด็ก ๆ ประมาณประถมจนได้ถูกจับคลุมถุงชน ไปแต่งงาน กับ โฮโจ ชูซาคุ ที่เสมียนประจำกองทัพเรือ และต้องเข้าไปอยู่บ้านต่างเมือง และต้องปรนนิบัติครอบครัวสามีทุกอย่าง ตั้งแต่ ซักผ้า ทำอาหาร ทำความสะอาด หรือแม้แต่ไปตักน้ำ

จนกระทั่งสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็คืบคลานเข้ามาใกล้แผ่นดินญี่ปุ่นเข้าเรื่อย ๆ เธอผู้ซึ่งเป็นช้างเท้าหลังก็ยังได้รับผลกระทบจากสงคราม ทั้งภาวะขาดแคลนอาหารที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนถึงเหตุการณ์ที่ชาวญี่ปุ่นจำได้เป็นอย่างดีคือ เหตุการณ์ระเบิดนิวเคลียร์ที่ฮิโรชิม่า และความสูญเสียคนที่เธอรักผ่านสงคราม

แต่ตัวเรื่องก็ยังไม่ได้เน้นให้เราเห็นภาพที่น่าหดหู่สักเท่าไหร่ แต่เป็นภาพที่ทำให้เราเห็นว่า คนสมัยนั้นยอมรับ ปรับตัว เปลี่ยนวิถีชีวิต ช่วยเหลือกัน เพื่อความอยู่รอดได้อย่างดี

ส่วนตัวผมมองว่านี่เป็นอีกจุดหนึ่งเลยที่ถึงแม้ว่า ญี่ปุ่นจะโดนทิ้งระเบิด แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ก็กลายเป็นประเทศที่มีความเจริญได้ขนาดนั้น เพราะเขาเริ่มรู้จักที่จะ ยอมรับ ว่าตัวเองเสียหายมากขนาดไหน และพยายามที่จะไม่ให้มันเกิดซ้ำอีก แทนที่จะเหยียบย่ำอยู่กับความโศกเศร้า และโทษกันไปมาเรื่อย ๆ

เนื้อเรื่อง

ถ้าเราสังเกตุดี ๆ เราจะเห็นว่าหนังสงครามส่วนใหญ่มักเล่าถึง “ผู้ชนะ” ซะเป็นส่วนใหญ่ ประมาณว่า ต่อสู้เพื่อปลดแหกอิสภาพอะไรทำนองนี้ แต่พอมาในเรื่องนี้กลับกันเลย เพราะเป็นการเล่าถึงความสูญเสียจากสงคราม ที่สร้างโดยญี่ปุ่นซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นผู้ก่อสงครามโลกครั้งที่ 2

การเล่าเรื่องที่มาในแบบฉบับของตระกูลหนังญี่ปุ่น ที่ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปละเมียดละไม แต่กลับไม่น่าเบื่อ ดูได้เรื่อย ๆ ไม่เครียดเพราะมีการสอดแทรกมุขตลก ๆ ความเปิ่น ๆ ของซึสุ และสะเทือนใจและประทับใจรุนแรงมากเมื่อดูจบ เหมือนส่วนผสมที่เข้ากันอย่างลงตัว ไม่เค็มไป หวานไป หรือเปรี้ยวไป มันพอดี อุมามิมาก

นอกจากนั้นยังสอดแทรกวัฒธรรมในสมัยนั้น ทั้งเรื่องของการคลุมถุงชน ความเป็นใหญ่ของผู้ชายที่มีผู้หญิงเป็นช้างเท้าหลัง ซึ่งตัวเรื่องเองก็ทำออกมาให้ เรียบง่ายและสวยงาม

ผ่านทั้งเวลาที่สนุกสนาน มีความสุข อบอุ่น และความสูญเสียจากเมืองที่ถูกทิ้งระเบิดจนเหลือแค่ซากแห่งความทรงจำ นั่นทำให้เธอได้เข้าใจถึงความโหดร้ายของโลกใบนี้ โลกช่างมืดมนไปหมด แต่สามีและครอบครัวเธอเองก็ยังคงอยู่เคียงข้าง และพร้อมสู้เพื่อผ่านเวลาที่ยากลำบากไปด้วยกัน

เรียกได้ว่ามันสอนอะไรหลาย ๆ อย่างให้เรา ตั้งแต่ภัยสงครามที่เป็นตัวหลักที่ต้องการจะสื่อ ในขณะเดียวกันก็เป็นเรื่องของการใช้ชีวิต ที่สอนให้ทุกคนมีความสุข มีความหวัง แม้เราไม่เหลืออะไรเลยก็ตาม

ภาพและเพลง

การเป็นหนังที่เล่าเกี่ยวกับสงครามลายเส้นมันจะแข็งหน่อย ๆ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความรุนแรง แต่กับเรื่องนี้นั้นไม่ใช่เลย กลายเป็นลายเส้นที่อ่อนโยน ใช้สีที่คล้ายกับสีน้ำ ไม่ฉูดฉาด แต่ไม่ได้ละเมียดขนาดของชินไค แต่ทำให้ดูแล้วรู้สึก งดงามและสบายตา เหมือนกับเราดูภาพวาดสีน้ำ เปี่ยมไปด้วยจิตนาการที่ทลักจอออกมา ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เธอวาดภาพกระต่ายในน้ำ หรือแม้แต่ฉากตอนที่ระเบิดลง

ในฝั่งของเพลงเองผมชอบมาก ๆ เพราะทำออกมาได้ เบา ให้บรรยากาศแบบโลกสดใส เข้ากับภาพที่นุ่มนวลเลยเป็นเหมือนอีกส่วนผสมที่เข้ากันของเรื่องนี้ โดยเฉพาะเพลงตอน End Credit ที่ทำออกมาได้จุกแบบไม่รู้จะพูดยังไงมาก ๆ มันฟังแล้วนิ่ม ๆ นะ แต่พอฟังไปเรื่อย ๆ มันจะรู้สึก จุกหน่อย ๆ

In This Corner of the World เป็นเรื่องที่ดีเรื่องนึง

In This Corner of the World เป็น Animation ที่ผมดูจบแล้วก็ยังยืนยิ้มอยู่ที่มุมปากเบา ๆ กับแทบไม่เคยคิดจะตรบมือหลังจบเลย แต่เรื่องนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมอยากจะตรบมือให้ขนาดนี้ ชอบความมองโลกในแง่ดีจนหยดสุดท้ายของนางจริง ๆ ถึงแม้ว่าจะสูญเสียไปมากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ยังมีความอบอุ่น และความเข้าใจจากครอบครัวอยู่เสมอ

ความหวังคือสิ่งเดียวที่ทำให้ทุกคนมีชีวิตต่อไปได้ ในวันที่ไม่เหลืออะไร

จริง ๆ ผมเคยอ่านประวัติศาสตร์เรื่องของระเบิดที่ฮิโรชิม่ามาแล้วละ พอมาดูเรื่องนี้ก็ทำให้เรา เข้าใจ และรับรู้ในอีกแง่มุมหนึ่งของสงคราม จึงทำให้อดคิดไม่ได้เลยว่า คนญี่ปุ่นแบกรับความเจ็บปวด ความสูญเสียนี้ได้ยังไง

ตัวภาพที่ทำออกมาได้สวย นุ่มนวล และเหมือนสีน้ำ ทำให้เรารู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของผู้เขียน จนจิตนาการมันเอ่อล้นทะลักจอออกมาเลย จากสิ่งที่เล่ามาทั้งหมดนี้ผมให้อยู่ที่ 9.5/10 จากเรื่องที่สอดแทรกวิถีชีวิตของชาวญี่ปุ่นสมัยนั้นได้อย่างดี พร้อมทั้งสอดแทรกมุขตลก และความเปิ่นตลอดเรื่องทำให้ไม่เครียด

นอกจากนั้นยังนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งของสงครามได้อย่างดีเลยด้วย จะตัดที่บางครั้งมันจะมีในบางจุดที่อาจจะยังไม่ได้เล่ามา ถ้าคนสังเกตุหน่อยก็จะเอ๊ะใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้บอกในเรื่องเลยทำให้คาใจหนักมาก

สรุป

เป็นอีกเรื่องที่ผมแนะนำให้ไปหาดูเลยครับ มาอ่านที่ผมรีวิวอาจจะไม่ได้ฟิลลิ่งเต็ม ๆ เท่าไหร่ แต่ถ้าไปดูรับรองว่า มันจะอินอยู่ในใจลึก ๆ แน่นอนครับ

Read Next...

รีวิว Fendi x Devialet Mania เมื่อแบรนด์แฟชั่น จับมือกับ แบรนด์เครื่องเสียง

รีวิว Fendi x Devialet Mania เมื่อแบรนด์แฟชั่น จับมือกับ แบรนด์เครื่องเสียง

หลังจากสั่งไปหลายเดือน วันนี้เราก็ได้มันมาแล้วกับ ลำโพงพกพาจาก Devialet รุ่น Mania แต่มันไม่ใช่ตัวปกติ เป็นตัวที่ไปร่วมมือกับ Fendi ออกมาเป็นลำโพง Limited ที่ตอนนี้ในไทยมีเพียง 5 ตัวเท่านั้น และตอนนี้มันอยู่กับเราแล้ว จะเป็นยังไงไปดูได้ในรีวิวนี้เลย...

รีวิว Foreo Iris 2 เครื่องนวดตาสุดฟิน ที่หน้าตาเหมือน....

รีวิว Foreo Iris 2 เครื่องนวดตาสุดฟิน ที่หน้าตาเหมือน....

หลังจากรีวิวของหลายอย่างจาก Foreo ไปบอกเลยว่าใช้จริงมาตลอด หลัง ๆ เราเริ่มมาลองเปิดใจใช้ Eye Cream เลยอยากได้อะไรมานวดใต้ตาหน่อย จนมาเจอว่า Foreo ก็มีเหมือนกันนิหว่า แน่นอนว่า สอยมาเลยจ้าาาา กับ Foreo Iris 2 มาดูกันว่ามันทำอะไรได้ และ มันจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่...

รีวิว iPad Pro M4 13-inch หลังใช้งาน 1 อาทิตย์มันเป็นยังไงสิ๊

รีวิว iPad Pro M4 13-inch หลังใช้งาน 1 อาทิตย์มันเป็นยังไงสิ๊

ตอนก่อนเรารีวิว iPad Pro M4 13-inch ภาคแกะกล่องเรียบร้อยละ ตอนนี้เราได้เอามาใช้งานกว่า 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้เราเห็นข้อสังเกตเยอะมาก ๆ วันนี้เราจะมาเล่าข้อสังเกตเหล่านี้ สำหรับใครที่จะซื้อ จะได้เอามาเป็นข้อมูลสำหรับพิจารณา...

รีวิว iPad Pro M4 13-inch สุดยอด Tablet สำหรับ Pro ทิพย์ (ภาค Hardware)

รีวิว iPad Pro M4 13-inch สุดยอด Tablet สำหรับ Pro ทิพย์ (ภาค Hardware)

หลังจากเราร่ำร้อง บ่นอยู่นานมาก ๆ ตั้งแต่ปีก่อนว่า เมื่อไหร่ iPad Pro จะออกสักที จะซื้อ วันนี้ครับทุกคน แมร่งมาสักที ประเทศไทยเรามันก็เข้าช้ามาก และการรอคอยของเราก็เป็นผลแล้ว วันนี้ iPad Pro M4 ก็เดินทางมาถึงบ้านเราสักที วันนี้เราจะรีวิวในฝั่งของ Hardware กันก่อน...