ทำไม Macbook Air M1 ยังเป็น Laptop ทรง ดี น่าซื้อในปี 2023

Macbook Air M1 เปิดตัวในช่วง Nov ปี 2020 หรือก็คือ ย้อนกลับไป ประมาณ 2 ปีได้แล้ว จนล่าสุด Macbook Air M2 ออกมาแล้ว แต่เราอยากจะบอกเลยว่า Macbook Air M1 เครื่องนั้นแหละ ก็ยังคงเป็น Laptop ที่ยังคงน่าเล่นอยู่ในปี 2023 วันนี้เราจะมาเล่า กันว่า ทำไม มันยังคงเป็นแบบนั้นอยู่

Macbook Air M1 vs M2

อย่างที่เราบอกว่า ณ วันนี้ เวลามันผ่านมานานแล้ว Apple ออก Macbook Air M2 ออกมาแล้ว ดังนั้นก่อนอื่นเลย เราขอเล่าก่อนว่า ระหว่างรุ่นเก่า และ ใหม่ มันมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง

อย่างแรก คือเรื่อง Design จากเดิมรุ่น M1 ใช้ Design เก่าที่อยู่มาอย่างยาวนานมาก ๆ แล้ว แต่ M2 เป็นรุ่นแรกที่ได้รับการ Update Design ใหม่แบบหมดจด ตามรุ่นพี่ของมันอย่าง Macbook Pro 14 และ 16 นิ้ว คือมี Notch เข้ามาที่จอ กล้อง Facetime HD 1080p จากเดิม 720p พวกลำโพง และ ไมค์ที่ดีขึ้น พร้อมกับรองรับ Port การชาร์จอย่าง Magsafe อีกด้วย

ส่วนสีก็มีการเพิ่มสี Midnight เข้ามา ที่เหมือนเป็นสีนำ้เงินเข้ม ๆ ยามค่ำคืน ที่ Reviewer หลาย ๆ เจ้าก็พบกับปัญหา Fingerprint Magnet หรือ มันเป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายมาก ๆ อาจจะเพราะมันเป็นสีเข้มแหละ เลยทำให้เห็น วิธีแก้ก็คือ ทนเอา แล้วใช้ผ้าเช็ดบ่อย ๆ ก็จะดีขึ้น

ฝั่งของ จอแสดงผล ก็ขยับขึ้นมาจาก Retina Display ที่ใช้มาอย่างยาวนาน เป็น Liquid Retina Display มาพร้อมกับความสว่างที่มากขึ้นอีก 100 nit กับสีที่ดีขึ้นอีกพอสมควร เท่าที่ลอง ๆ มาคือ ถ้าเราไม่เดินแล้วมองเทียบ ๆ กัน คนทั่ว ๆ ไป น่าจะแยกไม่ออกนะ แต่ถ้าทำงานกับเรื่องสีเยอะ ๆ มีอึ้งเหมือนกัน

และส่วนที่สำคัญ เป็น Killer Feature ของ Macbook Air คือ น้ำหนัก โดยที่ น้ำหนักของ Macbook Air M1 และ M2 จะอยู่ที่ 1.29 และ 1.24 kg ตามลำดับ ซึ่งจะเห็นว่า Macbook Air M2 จะเบากว่ารุ่นก่อนหน้า 0.05 กิโลกรัม หรือ 5 กรัมเท่านั้นเอง

อีกส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ Battery ตัวรุ่นฝั่ง M2 ก็ได้รับการปรับปรุง เปลี่ยนจาก Battery ขนาด 49.9 เป็น 52.6 Wh ถามว่า ก็ใหญ่ขึ้นจริง ๆ แหละ แต่ที่ Apple เคลมมา ก็ยังอยู่ที่ 18 ชั่วโมงเท่ากันเลย คิดว่าน่าจะเป็นเพราะ M2 มันอาจจะใช้พลังงานมากขึ้นมั้ง เลยต้องขยายขนาดของ Battery ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อให้ได้ระยะเวลาการใช้งานที่ใกล้เคียง หรือเท่า ๆ กัน

ทำให้ส่วนที่เพิ่มเข้ามาแบบเห็นชัด ๆ จริง ๆ ก็เห็นจะเป็นเรื่องของ Design ที่รับ Apple Laptop Design ในสมัยใหม่เข้ามา และ เดาว่า น่าจะทำเหมือนเดิมนี่แหละ ก็ลาก Design นี้ไปอีกนานหลายปี กับ SoC อย่าง M2 ที่ได้รับการ Upgrade ขึ้นไป

แล้ว Performance ละ ?

ถ้าเราจำกันได้ตอนที่ Macbook Air M1 ออกมา มันเป็น Leap Generation Forward เลยก็ว่าได้ มันเป็นการเปลี่ยนที่ก้าวกระโดดมาก ๆ ขนาดว่า เปลี่ยนจากรุ่นก่อนหน้าที่เป็น Intel ก็น่าจะพา Performance ไปหลัก ๆ เท่าเลย เพราะมันเป็นการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมครั้งยิ่งใหญ่ และ Apple ทำได้ดีมาก ๆ ทั้งเรื่องของตัว SoC เอง และ การประชาสัมพันธ์

แต่สำหรับ M2 เอง ก็ถือว่าเป็นรุ่นถัดมาของ M1 ที่ไม่ได้มีการปรับปรุงเรื่องของสถาปัตยกรรมอะไรมากนัก ทำให้ก็ยังคง Performance ใกล้ ๆ กับของเดิม ประสิทธิภาพของ CPU ดีขึ้นประมาณ 20% และ GPU เกือบ ๆ 60%

ทำให้ถ้าเราใช้งานกันทั่ว ๆ ไปจริง ๆ โดยตัว M1 มันแรงมาก ๆ อยู่แล้ว ความสามารถในการรองรับ การทำงานทั่ว ๆ ไป เช่นการพิมพ์งาน เข้าเว็บ และการตอบแชทต่าง ๆ เรียกว่า เพียงพอแบบเหลือถึงชาติหน้าได้เลย มันแรงมาก ๆ จริง ๆ การเปิดงานอะไรพวกนี้ ก็คือเร็วแรงมาก ๆ หรืออย่างเรา เมื่อก่อนก็ใช้งาน เอามาตัดวีดีโอ 4K จากกล้อง Sony A6400 ผ่าน Final Cut ก็ยังเอาอยู่ แค่ว่า อาจจะใช้เวลา Render สักหน่อย แต่การทำงานเรียกว่าลื่นเลย

แต่ถ้าเราบอกว่า งานของเรา ทำพวก Graphic เยอะ ๆ เลย เราว่าการได้ประสิทธิภาพ GPU ดีขึ้นถึง 60% เป็นตัวเลขที่น่าสนใจอยู่นะ เช่น การทดสอบบางตัว ในการ Render 3D Scene ต่าง ๆ โดดกันเรียกว่า เท่าตัวเลย นั่นแปลว่า ถ้าเราทำงานพวกนี้จริง ๆ มันช่วยให้เรามีเวลาเพิ่มขึ้นเท่าตัวในการไปทำงานอย่างอื่นได้เยอะมาก ๆ

นอกจากนั้น สายวีดีโอเอง อันนี้น่าสนใจ เพราะใน M2 เพิ่ม Media Engine มา ทำให้ทำงานให้สามารถทำงานกับวีดีโอได้ลื่นขึ้นแบบ เห็นได้ชัดมาก ๆ Media Engine มันช่วยเราได้เยอะจริง ๆ จากเดิมที่ใน M1 Series จะอยู่แค่บน M1 Pro และ Max เท่านั้น รอบนี้เอามาใส่ใน M2 ปกติด้วยเลย ผนวกกับพลังของ GPU ที่เพิ่มขึ้น ก็น่าจะทำให้เป็น Powerhouse ย่อม ๆ ได้เลยนะ

แล้วเราควรซื้อตัวไหนดี ?

อ่านมาขนาดนี้ คิดว่าเราจะแนะนำ Macbook Air M2 แน่ ๆ ใช่มั้ย จะบอกว่าก็ไม่เสมอไป เราขอแยกออกเป็น 2 เคสใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ กลุ่มคนใช้งานทั่ว ๆ ไป เช่นการพิมพ์เอกสาร ดูวีดีโอ พวกงานที่ไม่ได้กินแรงเครื่องเท่าไหร่ และ กลุ่มคนใช้งานแบบหนักหน่วง

สำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไป และไม่ได้สนใจเรื่อง Design ใหม่อะไรขนาดนั้นเน้น Get things done ล้วน ๆ เราว่า Macbook Air M1 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ สเปก ก็แรงเกินงานที่ทำไปไกลแล้ว ราคาถูกกว่าอย่างน้อยก็ 11,000 บาท เมื่อเราซื้อจาก Apple เอาเงินไปลงอย่างอื่นได้อีกเยอะ หรือ ถ้าเราไม่แคร์เรื่องมือสองมาก เราอาจจะได้เครื่องที่ CTO มาเช่น RAM 16 GB หรือ SSD ประมาณ  1 TB ในราคาที่ถูกกว่า การซื้อตรงกับ Apple แล้วอาจจะยังเหลือ Apple Care คือยิ่งดีเลย ทำให้เราประหยัดไปมากกว่าเดิมเยอะมาก ๆ แต่มันก็นะ ถ้าใครดูเครื่องไม่เป็นเราว่า ไปซื้อมือ 1 ดีกว่า

แต่ถ้าเราบอกว่า เราเน้นการทำงาน Graphic เยอะจริง ๆ เราว่า การลงทุนเพิ่มอีก 11,000 บาทเริ่มต้น แล้วทำให้เราทำงานเสร็จเร็วขึ้นเท่าตัว เราว่า ก็เป็นอะไรที่น่าลงทุนมาก ๆ เพราะถ้าเราคิดไว ๆ มันก็คือ เราทำงานได้มากกว่าเดิมเท่าตัว เงินที่เราควรจะได้ อย่างน้อยที่สุด มันก็มากกว่าเดิมแน่นอน อาจจะไม่ได้เป็นเท่าตัวตามปริมาณงานที่เครื่องสามารถทำได้

มีกลุ่มนึงที่ ไม่ต้องคิดเลย เอา Macbook Air M2 แน่นอนคือ อยากได้ Design ใหม่ อันนั้นไม่มีตัวเลือกละ จบเลย