iPhone ไม่แถม Adapter ทำไมถึงเป็นเรื่องดี แล้วซื้อตัวไหนดี
หลังจาก iPhone 14 ได้วางขายกันไปแล้ว และแน่นอนในประเทศไทยเรารอบนี้ก็ได้เป็นประเทศในกลุ่ม Tier 1 ที่ได้ขายเป็นกลุ่มประเทศแรกกันไปแล้ว หลังจากมีคนปากมากหลุดปากไปเมื่อหลายปีก่อน แต่เรื่องที่หลาย ๆ คนเถียงกันในช่วงนี้ นอกจากการเปลี่ยน iPhone ทุกปีไม่ใช่คนรวยแล้ว เรื่องการเปลี่ยน ไม่แถม Adapter มันก็เป็นอีกประเด็นที่เราจะเอามาคุยกันในวันนี้กัน
ทำไม Apple ถึงเลิกแถม Adapter ?
จริง ๆ เรื่องนี้ เราต้องย้อนกลับไปช่วงประมาณปี 2020 ตอนนั้น Apple ประกาศว่าจะเลิกแถมที่ชาร์จ และ หูฟัง เพื่อลดขยะ สั้น ๆ แค่นั้นเลย
ทำให้ก็มีบางส่วนที่ออกมาเห็นด้วยกับไอเดียนี้ อย่าง Anker ผู้ผลิตหัวชาร์จที่เราใช้กัน ก็ออกมาบอกว่า การที่ Apple เลือกทำแบบนี้ส่งผลดีต่อบริษัท Anker มาก ก็แหงแหละ เขาต้องมาซื้อของแกไง มันจะไม่ดีได้ยังไงละ แต่ก็มีคนที่ออกมาไม่เห็นด้วยเหมือนกันด้วยเหตุผลที่ว่า มันเป็นการยัดเยียดให้เราต้องไปหาซื้อหัวชาร์จเองรึเปล่าอะไรแบบนั้น อันนี้ก็แล้วแต่เราจะอยู่ข้างไหนแล้วละ
ความเห็นของเรา
ส่วนตัวเรา เรามองว่า การไม่แถม Adapter มาในกล่องเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ส่วนนึง เราต้องยอมรับว่า คนส่วนใหญ่เอาจริง ๆ มีพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์ไปที่เปลี่ยนไปมาก ๆ เมื่อก่อน เราอาจจะใช้จนมันพังไปเลย ซึ่งนั่นใช้เวลานานหลายปี แต่ตอนนี้เราล่อ 1-2 ปีเปลี่ยนกันรอบนึงแล้ว แต่พวกอุปกรณ์สำหรับชาร์จต่าง ๆ มันไม่ได้พังเร็วอะไรขนาดนั้น มันใช้งานได้ต่อยาว ๆ และ Interface ของการเชื่อมต่อก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมาก เช่นจาก USB-A เป็น USB-C ที่แน่นอนว่า ถ้าเราหาสายที่รองรับ ก็ Backward Compatible อีกด้วย
ทำให้หลาย ๆ คนซื้อโทรศัพท์มาใหม่ ก็สามารถเอาสายชาร์จเก่ามาเสียบกับเครื่องใหม่ได้เลย นั่นแปลว่า สายและ Adapter ที่มาในกล่องก็จะนอนกล่องอยู่แบบนั้นแหละ ไม่ได้เป็นแค่กับโทรศัพท์เท่านั้นนะ อย่าง Laptop เรา Macbook Pro พวกสายชาร์จอะไรเราก็ยังอยู่ในกล่องไม่ได้แกะเลยด้วยซ้ำ การไม่แถมก็เป็นการลดขยะได้จริง ๆ แหละ
แต่อีกเหตุผลที่เรายังไม่ค่อยเห็นหลาย ๆ คนออกมาพูดกันคือ พฤติกรรมการใช้ Smart Device ของเรามันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว คือ เราคนนึง ถือ Device มากกว่า 1 Device ถ้าเรายังทำเหมือนเดิมอยู่นั่นแปลว่า เราจะมี Adapter หลายอันมาก ๆ เช่นเราเอง เรามี โทรศัพท์, Tablet 2 เครื่อง, Laptop 1 เครื่อง และ นาฬิกาอีก 1 เรือนด้วยกัน นั่นแปลว่า เราจะต้องมี Adapter ทั้งหมด 5 อันเลยนะ พกพานี่คือ เราต้องพกปลั๊กพ่วงด้วยมั้ยเนี่ยหะ !
พอเรามีอุปกรณ์มากขึ้น พวก Adapter ต่าง ๆ ก็ออกเป็นแบบที่หัวปลั๊กเดียว แต่เราเสียบได้หลาย ๆ อุปกรณ์ เช่น Omega 200W GaN Charger (ด้านซ้าย) และ ZMI HA835 (ด้านขวา) ที่เราเคยรีวิวไป จะเห็นว่า หัวนึงมันสามารถเสียบได้หลาย ๆ อุปกรณ์มาก ๆ
ตรงนี้แหละคือความดีงามของมัน พอหลาย ๆ คนมีรายการของอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ Combination ในการเลือกลักษณะการชาร์จมันจะเยอะขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว ทำให้เอาจริง ๆ นะ ผู้ผลิตอุปกรณ์อย่าง Apple และ Samsung ก็จะไปตรัสรู้ไม่ได้ทั้งหมดหรอกว่าลูกค้าเขาใช้อุปกรณ์อะไรบ้าง
ทำให้เป็นโอกาสของผู้ผลิต Adapter ต่าง ๆ ที่จะผลิต Adapter ออกมาหลาย ๆ Configuration ให้ผู้ซื้อเลือกตัวที่เหมาะกว่า เช่น ต้องการ USB-C ทั้งหมดเลย แต่ไม่ต้องการเยอะก็มี หรือ อยากได้เป็น USB-A หมดชาร์จช้าแต่หลาย ๆ รูเขาก็มีหมด
Adapter ตัวไหนน่าใช้งานบ้าง
ในเมื่อ iPhone ไม่แถม Adapter มาให้เราแล้ว ถามว่า แล้ว Adapter ตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง วันนี้เราเลยจะหยิบเป็นเคสที่หลาย ๆ คนน่าจะเจอกันเป็น 2 เคสด้วยกัน
เคสแรก คือ เราไม่ได้ใช้อุปกรณ์อื่นเลย เราต้องการที่ชาร์จที่ชาร์จ iPhone เราได้อย่างรวดเร็ว รองรับ Apple Fast Charge ในเมื่อเราชาร์จแค่ iPhone ละ งั้นเรามองหาที่ชาร์จขนาดเล็ก ๆ น้ำหนักเบา ๆ พกพาง่าย ๆ ดีกว่า เราแนะนำเป็น Anker Nano 3 น่าจะมีขนาดเล็กที่สุดแล้ว ให้กำลังสูงสุดที่ 30W ไปเลย ก็คือ ใครใช้ Macbook Air อยู่ เอามาใช้งานได้สบาย ๆ เลยนะ
เคสที่ 2 เราเริ่มมีอุปกรณ์หลาย ๆ ตัวมากขึ้น เช่น เราอาจจะมี iPhone, iPad และ Apple Watch ไปเลย เราจะต้องการ Adapter ที่มีหลายหัวมากขึ้นหน่อย และเราอาจจะยังต้องการ Fast Charge ในบางอุปกรณ์อยู่ ทำให้เราแนะนำเป็น ZMI HA835 ที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้านี้ โดยที่มันสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 65W เราอาจจะเอามาเสียบ iPad เป็นช่องชาร์จเร็ว และที่เหลือเราอาจจะเอามาเสียบกับ iPhone และ Apple Watch ไปก็ได้เหมือนกัน หรือถ้าใครมี Macbook ก็สามารถเอามาเสียบได้ด้วย โดยเรามองว่าได้ยัน Macbook Pro 14-inch เลย ที่สำคัญราคาไม่แรงด้วยแค่หลักร้อยเท่านั้น
นอกจากนั้น มันก็จะเป็นเคสที่โหด ๆ หน่อยละ เช่น เราอาจจะใช้ Macbook Pro 16-inch ที่กินไฟเยอะมาก ๆ แล้วต้องการ Adapter อันเดียวชาร์จ อุปกรณ์เราทั้งหมดพร้อม ๆ กันไปเลยพวกนั้น ก็ต้องยอมเสียเรื่องน้ำหนักเบา แล้วไปเล่นเรื่องกำลังไฟที่จ่ายได้ เช่นอันที่เราใช้งานอยู่ก็จะเป็น Omega 200W GaN Charger จะเป็นตัวที่เราเอาไปเที่ยว หรือออกไปค้างคืนเลย เรียกว่า ตัวเดียวอยู่ แต่หนักมาก ๆ หรือจะเป็นกลุ่มที่ใช้อุปกรณ์เยอะจริง ๆ เช่น อาจจะมี iPad 5 เครื่อง แล้วต้องชาร์จพร้อม ๆ กันมันก็จะมีพวก Docking Solution อยู่เหมือนกัน ต้องดูตามการใช้งานของเราเป็นหลัก
สรุป
การยกเลิกการแถม Adapter ของ Apple ก็อ้างเรื่องของการรักษ์สิ่งแวดล้อมไป เราเดาว่าหลาย ๆ Brand ก็เห็นด้วย มองเห็นไปในทางเดียวกันในอนาคตแน่ ๆ ทำให้ Trend การหาซื้อ Adapter ก็น่าจะเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อย ๆ เป็นเงาตามตัวไป ส่วนตัวเราก็เห็นด้วยกับเรื่องนี้โดยเฉพาะ Trend การใช้อุปกรณ์ที่เปลี่ยนไปที่มันเอื้อกับการให้เราไปหาซื้อ Adapter เองน่าจะเหมาะสมกว่าอย่างที่เราได้เล่าไป แล้วทุกคนคิดเห็นยังไง มาพูดคุยกันได้