[Life Hack] Two-step Verification เปิดสักนิดเพื่อชีวิตที่ดีกว่า

ทุก ๆ วันนี้ เราใช้บริการออนไลน์หลาย ๆ บริการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น E-mail, Cloud Storage แม้กระทั่ง Contact ของเราก็เข้าไปอยู่ในโลกของอินเตอร์เน็ตหมดเลย นั่นก็หมายความว่า ถ้ามีอินเตอร์เน็ตก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้ ซึ่งแน่นอนว่าโลกของเรามันก็ไม่ได้ปลอดภัย โลกสวย เหมือนที่หลาย ๆ คนคิดกัน มันก็อาจจะมีคนที่แอบฉวยเข้ามาเพื่อขโมยข้อมูลเราไปก็ได้ ดังนั้นเราจึงจะต้องมีวิธีป้องกันตัวเองจาก ผู้ใช้คอมศาสตร์มืดเหล่านี้ให้ดี
วิธีหนึ่งในการป้องกัน Account ของเรานั้น นั่นคือ Two-step Verification ที่หลาย ๆ คนไม่ชอบเปิดกันเพราะ มันทำให้ยุ่งยากมากขึ้นเวลาเราจะ Login ครั้งนึง

Two-step Verification คืออะไร ?

โดยปกติเวลาเรา ยืนยันตัวเอง หรือ ที่เราเรียกกันว่า Login นั้นเราจะใช้สิ่งที่เรารู้อยู่แล้ว 2 อย่างนั่นคือ Username และ Password ในการ Login แต่เราจะแน่ใจได้ยังไงว่า "สิ่งที่เรารู้ (Username และ Password)" คนอื่นจะไม่รู้ บางทีอาจจะมีคนที่รู้อยู่ก็ได้ ทำให้คนอื่นที่รู้อาจจะเข้าถึง Account ของเราและขโมยข้อมูลไปก็ได้ ดังนั้นผู้ให้บริการจึงเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยที่ เราไม่รู้ แต่ เรามี นั่นคือ OTP หรือ One time password แปลเป็นไทยก็คือ Password ที่ใช้ครั้งเดียวทิ้ง มันจะ Generate แล้วส่งมาในที่ที่เรากำหนดไว้ เช่นโทรศัพท์มือถือของเรา
แต่ก็แน่นอนว่า Two-step Verification นั้นก็จะต่างกันไปตามแต่และผู้ให้บริการเป็นผู้กำหนดขึ้นมา บางเจ้าอาจจะใช้การส่ง OTP มาให้เรา หรือบางเจ้าอาจจะใช้คำถาม ที่ผู้ใช้ได้ตั้งไว้ก่อนแล้ว
สำหรับตอนนี้ ก็มีผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้าได้เปิด การใช้ Two-step Verification บ้างแล้ว เช่น Google, Apple, Dropbox,Github หรือแม้กระทั่ง Social Network ที่เราใช้กันทุกวันอย่าง Facebook
ซึ่งทั้งหมดที่ทำมานั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อตัวผู้ใช้มากขึ้น ดังนั้น เราก็ควรที่จะเปิดตัว Two-step Verification ไว้หน่อย ถึงมันอาจจะทำให้เราลำบากมากขึ้นหน่อยเวลาเราจะ Login แต่มันก็ทำให้เราเชื่อถือได้ว่า Account ของเรานั้นมีความปลอดภัยมากขึ้นในระดับหนึ่งแล้ว ฉะนั้นเปิดเถอะครับ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง

เพิ่มเติม

• ควรจะแยก Password ให้แต่ล่ะ Account ไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะกับ Account ของพวกธนาคาร และ E-mail ที่เราใช้อยู่ เพื่อความปลอดภัยของเราตัวเราเอง
• พยายามตั้ง Password ให้ยาวไว้ และ ควรที่จะมีทั้งตัวพิมพ์เล็ก และ ใหญ่สลับกัน และ อักขระพิเศษด้วยจะดีมาก ๆ จะทำให้ Password เราถูกเดายากขึ้น
• เราควรที่จะเตรียมมาตรการสำรองไว้ด้วย เพื่อเราลืม Password แต่วิธีที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุดนั่นคือเราไม่ควรที่จะจดไว้โดยตรง เพราะอาจจะทำให้คนที่หาเจอเข้าไปเปิดเลยได้ ตัวผู้ให้บริการหลาย ๆ เจ้าเขาก็จะมีวิธีต่างกันในการจัดการกับเรื่องแบบนี้ บางเจ้าอาจจะให้เราโหลด Recovery Key เก็บไว้ในเครื่อง หรือบางเจ้า อันนี้ส่วนใหญ่เลย เขาจะส่งลิงค์เพื่อ Reset Password ใหม่ผ่าน E-mail ที่เราลงทะเบียนไว้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ให้กับผู้ให้บริการเลย