By Arnon Puitrakul - 29 เมษายน 2024
หลังจากรอบก่อน เราซื้อ Yubikey มา เวลาผ่านไป ตอนนี้เขามีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว บอกเลยว่า ตอนที่เห็น คืออยากได้มาก ๆ จนเวลาผ่านไปชาติเศษ ในที่สุด เราได้มันมาแล้ว กับ Yubikey C Bio จะมีอะไรใหม่ อะไรสนุก ๆ พิเศษกว่าตัวอื่นอย่างไร วันนี้เราจะมารีวิวให้ได้อ่านกัน
ตามสไตล์ของ Yubico ตัว Packaging มักจะมาเป็นซองกระดาษเล็ก ๆ เขียนชื่อรุ่นไว้คือ Yubikey C Bio ที่เป็น FIDO Edition โดยถ้าเราไปหาดู ในอนาคตเขาจะมีอีกรุ่นที่หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ แต่เป็น Multiple-Protocol Edition ออกมา เลยดีละที่เขียนไว้ให้ พร้อมกับมีพลาสติกใสที่ทำให้เห็นตัวอุปกรณ์ข้างใน
เราชอบด้านหลังมาก น้อยอุปกรณ์มากที่ถ้าทำ Packaging ลักษณะนี้ แล้วจะทำรอยประมาให้เราสามารถแกะอุปกรณ์ออกมาได้อย่างง่ายดาย มันดูเป็นเรื่องเฉย ๆ สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่สำหรับระดับองค์กร มันช่วยล่นเวลาการทำงานได้มหาศาล ลองคิดว่า หากเราซื้อมาสัก 100 ตัว เราสามารถแกะมันได้อย่างง่ายดาย ไม่หงุดหงิด
เมื่อเราแกะออกมา แน่นอน เราจะพบกับ Yubikey C Bio อยู่ในกล่องอย่างดี หลัก ๆ การแกะกล่องก็มีแค่นี้เลย
ตัว Yubikey C Bio นั้นจริง ๆ จะเหมือนกับตัวปกติทุกอย่าง ทั้งเรื่องของวัสดุที่ใช้ ความแข็งแรง แน่นหนา ที่ต้องบอกเลยว่า จับแล้วรู้สึกได้ว่า มันทนทานมาก ๆ ไม่มีการเอียด ๆ ของชิ้นส่วนอะไรทั้งนั้น ด้านหน้าที่เราเห็น รูเล็ก ๆ ซ้ายสุดของรูปคือ รูสำหรับเสียบมันเข้ากับพวงกุญแจ ขยับมาด้านขวา จากเดิมจะเป็นปุ่มสำหรับกด ยืนยัน แต่อันนี้จะเป็น Fingerprint Scanner แทน และสุดท้าย ตามด้วย จุดเล็ก ๆ 2 จุด เป็นไฟสำหรับการแสดงสถานะ ทั้งสถานะการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ และ การยืนยันตัวตน
พอเป็นรุ่น C ก็คือ อุปกรณ์นี้เชื่อมต่อผ่าน Port USB-C หากเราต้องการใช้งานกับอุปกรณ์ที่เป็น USB-A เราสามารถซื้อตัวที่เป็น USB-A ซึ่งจะถูกกว่าตัว USB-C ถึง 5 USD แต่ Feature ทุกอย่างเหมือนกัน 100% หรือถ้าบางคนไม่แน่ใจ แนะนำซื้อเป็น USB-C น่าจะดีกว่า อุปกรณ์ในอนาคตน่าจะไปทางนั้นมากกว่า แล้วอาจจะหาหัวแปลงมาไม่กี่ร้อยบาทมาเสียบเพิ่มเอาได้
ด้านหลังไม่มีอะไรมาก นอกจากมีการสลักว่า Powered by Yubico กับเลข ID พร้อม QR Code ของตัวกุญแจดอกนั้น ๆ แต่ขอเบลอไว้นะ
ส่วนการใช้งานนั้นง่ายมาก ๆ เราแค่เสียบเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ เราสามารถตั้งค่าการทำงาน รวมไปถึงการจัดการลายนิ้วมือได้ผ่าน Yubico Authenticator
โดยเรายังจำเป็นต้องมีการตั้ง Pin สำหรับปลดล๊อค Key ของเราเช่นเดิม สิ่งที่ลายนิ้วมือเข้ามาช่วยคือ เป็นอีกทางเลือกสำหรับการปลดล๊อค หรือใช้กุญแจเข้าสู่ระบบเท่านั้น ตัว Yubikey Bio สามารถใส่ลายนิ้วมือได้ถึง 5 อันเลยทีเดียว ทำให้เราสามารถใส่พวกนิ้วที่เราใช้งานบ่อย ๆ เข้าไปได้
เวลาเราใช้งานจริง เช่นการใช้เป็น Passkey เราก็สามารถที่จะบันทึก Key เก็บไว้ และใช้งานได้ หรือจะตั้งค่าใช้งานเป็น 2nd Step Authentication Device เหมือนตัวปกติเลย แต่ตัวนี้ มันไม่รองรับ หากต้องการใช้งาน Feature นี้ต้องไปใช้ Yubikey 5 Series แทนเด้อ
การตอบสนองของ Fingerprint Scanner ถือว่าดีมาก ๆ แตะไปแว่บเดียว มันเข้าได้เลย ตอนแรกกังวลเหมือนกันว่า พอ Sensor อันนิดเดียวมันจะรอดมั้ย กลัวเหมือนพวกประตูบ้าน กว่าจะติดโอ้โหวววว เอาซะหมดศรัทธากับ Fingerprint Scanner แต่เจ้านี่คือ ทำให้ศรัทธามันกลับมาอีกครั้ง ฮา ๆ
แต่ข้อสังเกตของ Yubikey Bio คือ น้องไม่มี NFC ทำให้เวลาเราใช้งานกับอุปกรณ์เล็ก ๆ บางตัว มันแอบยาก เช่น บนโทรศัพท์ที่เราใช้มันเป็น Authentication Device สำหรับเข้าถึงบางบริการ ซึ่งเราคิดว่า มันน่าจะมีปัญหากับแค่ iPhone เท่านั้นแหละ ที่ต้องไปหา Adapter สำหรับแปลงมา เจ้าอื่นเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่เป็น USB-C หมดแล้ว ก็เสียบเข้าไปได้ตรง ๆ
Yubikey C Bio เป็น FIDO Key ที่เพิ่มความสะดวกขึ้นไปอีกขั้นจากการปลดล๊อคด้วย Pin Code ด้วยการรองรับการใช้ ลายนิ้วมือในการปลดล๊อคเพิ่มเข้ามา และ Sensor มันไม่ได้ไก่กา มันใช้งานได้จริง หากใครใช้งาน Passwordless Authentication บ่อย ๆ เราว่า Yubikey C Bio Series เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว แต่ถ้างบน้อย และไม่ได้อยากเล่นพวก Fingerprint Scanner ก็ไปเล่นตัว Yubikey 5 Series น่าจะตอบโจทย์มากกว่า
หลังจากผ่านไป 3 ปี ในที่สุดวันที่เรารอคอยกันก็มาถึง iPad Mini ออกรุ่นใหม่แล้วแกร แต่เอ๊ะ หน้าเดิมนิ แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และส่งผลกระทบต่อการใช้งานอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ทดลองใช้แล้วจะมารีวิวให้อ่านกัน...
หนึ่งใน Feature ใหม่ที่เปิดออกมาทั้งใน macOS Sequoia, iPadOS 18 และ iOS 18 คือ App ที่ชื่อว่า Password เป็น Password Manager ของ Apple วันนี้เราได้ทดลองใช้งานมันมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว จะมาเล่าให้อ่านกันว่าอาการมันเป็นยังไง มันทำให้ชีวิตเราเหนื่อยขึ้นได้อย่างไร...
เป็นประจำในทุก ๆ ปีที่ Apple จะเปิดตัว macOS Version ใหม่ออกมาให้ผู้ใช้ Mac ได้ Upgrade กัน ในปีนี้เอง Crack Marketing Team ก็ทำหน้าที่ของตัวเองในการออกไปหาชื่อใหม่ให้กับ macOS ในปีนี้ชื่อว่า macOS Sequoia จะมี Feature อะไรเด็ด ๆ บาง วันนี้เรารวมเอามาเล่าให้อ่านกัน...
หลังจาก Apple เปิดตัว iOS18 และ iPadOS18 วันนี้เราจะมาเล่าพวก Feature ต่าง ๆ ที่เราได้ทดลองใช้งานมาหลายวันพร้อมกับบอก Use Case การใช้งานต่าง ๆ ว่ามันเอามาทำอะไรได้บ้าง...