Review

รีวิว Xiaomi Mijia Monitor Hanging Lamp ไฟแขวนจอคอมสุดฮิต

By Arnon Puitrakul - 16 สิงหาคม 2021

รีวิว Xiaomi Mijia Monitor Hanging Lamp ไฟแขวนจอคอมสุดฮิต

ช่วงนี้ COVID-19 กำลังระบาดเลย และหลาย ๆ คนก็จำเป็นที่จะต้อง WFH กันอย่างเนืองแน่นมาก อีกไอเท็มที่กำลังฮิตเลยคือ ไฟที่แขวนอยู่บนจอเรา แน่นอนว่ารุ่นที่หลาย ๆ คนอยากจะกดกันเหลือเกิน ก็เป็น Brand ที่ไม่ได้ไกลจากเราเท่าไหร่เลยคือ Xiaomi กับรุ่น Mija Monitor Hanging Lamp บอกเลยว่า ดูดีในราคาที่ไม่แพงเลย วันนี้เราได้ใช้มาสักพักแล้ว เราจะมารีวิวให้ดูกันว่าจะคุ้มค่ากับราคาค่าตัวของมันมั้ย

แกะกล่อง

เริ่มจากกล่องด้านหน้าก่อน สารภาพว่าเปิดออกมาแล้วคือ เห้ยดูดีเลยนะ ไม่แย่เลย เราว่าเหมือนกับกล่องของพวกอุปกรณ์แพง ๆ เลย ดูดีเลยทีเดียว ที่ตัวรูปเขาไม่ได้ปริ้นมากับกล่องเลย แต่น่าจะเป็นลักษณะของสติ๊กเกอร์เงา ๆ ทำให้มันดูเด่นขึ้นมามาก ๆ กับรูปแอบ งง นะว่า เอ๊ะ รูปอะไรฟร๊ะ แล้วอีไฟมันอยู่ตรงไหน อ่ออออ มันคือ Top View นี่เอง ฮ่า ๆ งง อยู่ตั้งนาน กับที่ด้านซ้ายล่างของกล่องจะมีอะไรเป็นภาษาจีนไม่รู้เขียนไว้อยู่อ่านไม่ออกเหมือนกัน ส่วนด้านบนขวา ก็จะเป็น Logo Xiaomi พิมพ์ไว้อย่างสวยงาม

ด้านหลังของกล่องส่วนแรกที่เห็นชัด ๆ จะเป็นพวกรูป เมื่อเราเอาไฟไปวางที่โต๊ะ เอาจริง ๆ เลยนะ วางจริง ๆ มันไม่ได้แบบนี้หรอก โต๊ะทำงานมนุษย์ทำงาน รกกว่านี้อีกฮ่า ๆ แต่เอาเถอะ และด้านล่าง เราคิดว่าน่าจะเป็นพวกรายละเอียดของตัวไฟต่าง ๆ แต่ติดที่เป็นภาษาจีน เราก็ข้ามไปเนอะ

ที่ด้านข้าง ๆ ของกล่อง ก็จะเป็นพวก Feature คร่าว ๆ ของตัวไฟนี่ แต่เป็นภาษาจีน เราก็จะข้ามไปอีกเช่นกัน ฮ่า ๆ

ที่หัวของกล่องทั้ง 2 ด้าน ก็จะเป็น Logo ของ Xiaomi พิมพ์อยู่แค่นั้นเลยโดยรวมของกล่องมันก็ดูเรียบหรูดีนะ

เมื่อเราเปิดกล่องมา เราจะเห็นของแต่ละชิ้นวางอย่างสวยงามเป็นระเบียบดูดีมาก ๆ อันนี้ชอบนะ ปกติของพวก Xiaomi มันจะไม่ได้อะไรแบบนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่มาแบบตามมีตามเกิดอะ แต่ก็เข้าได้แหละ ปกติของ Xiaomi มันไม่ได้ทำแบบ High-end เยอะเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ราคาถือว่า จับต้องได้จนน่าซื้อเลย เลยอาจจะไม่ได้ใส่ใจกับพวก Packaging มากเท่าไหร่ แต่อันนี้คือดูดีเลย

เริ่มจากของชิ้นแรก หยิบมาเอ๊ะ อะไรกลม ๆ หมุนได้ด้วย มันเป็น Remote สำหรับควบคุมไฟ เอาจริง ๆ แว่บแรกคือ Surface Dial เลย หน้าตาเหมือนมาก ๆ แต่จับแว่บแรก Nahhhh ไม่เหมือน ๆ หน้าตาเหมือน แต่วัสดุไม่ได้ เดี๋ยวมาว่ากันตอนรีวิวอีกที

เมื่อเราเอา Remote ออกมา ด้านล่างจะเป็นตัวถ่านสำหรับใส่ใน Remote ติดมาให้เราเลย ก็จะเป็นถ่านขนาด AAA จำนวน 2 ก้อน

ถ้าเราเอามาดูใกล้ ๆ เห้ยยย มันเป็นถ่านยี่ห้อ Xiaomi เองเลยมี Logo ของ Xiaomi เองเลย อันนี้เราบอกเลยว่า เออแปลกดีนะ เพราะปกติ Product อื่น ๆ ที่เขาติดพวกถ่านมาให้ด้วยส่วนใหญ่จะไม่ใช่ของ Brand ตัวเอง แต่เข้าใจได้แหละว่า Xiaomi มันผลิตของข้ามจักรวาลอยู่ละ การที่ทำถ่านขายอยู่แล้ว และเอามาแถมเอง เราว่ามันก็เป็นการประหยัดต้นทุนที่ดีเลยละ

ของชิ้นต่อไปคือ คู่มือ แน่นอนว่ามันเป็นภาษาจีน และ ปกติคู่มือมันเกิด 8 บรรทัด เราไม่อ่านอยู่ละ บายจ้าาาา

ด้านล่างของคู่มือ ก็มีของอีกแล้วจ้า เป็นสาย USB สำหรับเสียบไฟเข้าให้กับตัวโคมไฟ เห็นแว่บแรกคือ เห้ยยยย ดูดีหว่ะะะะ ทำมาเป็นสายแบน วัสดุดูดีเลย ไม่แย่เลยจริง ๆ

โดยสายที่ให้มาจะเป็นสายแบบ USB-A to USB-C แต่ไม่มี Adapter มาให้เด้อ ดังนั้น ไม่เราเสียบไว้ที่คอมของเราเลย พอเราเปิดคอมเราก็เปิด หรือ เราสามารถหา Adapter ที่เราไม่ได้ใช้ แล้วเสียบก็ได้เหมือนกัน จริง ๆ มันใช้ Adapter อะไรก็ได้เลย เพราะมันกินไฟไม่เยอะเลย แค่ 5V/1A เท่านั้นเอง Adapter ส่วนใหญ่ที่เราน่าจะได้มา ยังไงก็เกิน แต่ที่อยากติสำหรับอันนี้คือ ยางที่รัดสายมา มันไม่มีความแข็งแรงเลย เราดึงเพื่อจะแกะนิดเดียวเลย มันก็ขาดแล้ว สรุปมา 2 เส้น ขาด 2 เส้นเลยจ้าาาาาาาาาา

และของชิ้นเกือบสุดท้ายที่ให้มาจะเป็นขายึดกับจอของเรา ยกออกมาครั้งแรกตกใจ หนักมาก ถ้าเราแกะกล่องใหม่ ๆ มาเลย มันจะมาพร้อมกับพวก Sticker กาวกันรอย จะใช้ก็แกะออกก่อนเด้อออ ด้านที่เราถ่ายให้ดูมันจะเป็นด้านที่เอาไว้วางอยู่บนจอ โดยที่เราจะเห็นว่ามันมีแง่งที่เป็นทองแดงอยู่ อันนั้นมันเอาไว้ให้เราเอาโคมไฟมาติด

ถ้าเอาไฟมาติด แน่นอนว่า เราก็ต้องเสียบไฟผ่านขาตั้งนี้นั่นเอง ด้านหลังของขาตั้ง มันจะมี Port USB-C ให้เราเอาสายที่มาในกล่องเสียบได้เลย เพื่อเป็นการจ่ายไฟ บอกก่อนนะว่า ไฟตัวนี้ไม่มี Battery ในตัว ดังนั้น ถ้าไฟดับ หรือเราปิดปลั๊กแล้วมันก็เปิดไม่ได้เด้อออ

และมาถึง Highlight ของเราคือ ตัวโคม จะมาเป็นลักษณะแท่ง ๆ ยาว ๆ ทำจากพลาสติก จับแล้วรู้สึกว่ามันไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไหร่ งานประกอบกลาง ๆ ไม่ได้ดีมาก คือถ้าจับฐานมันแล้วมาจับตัวโคมก็คือ คนละโลกกันไปเลย แปลก ๆ เหมือนกัน

หลัก ๆ ในกล่องก็มีเท่านี้แหละ ไม่ได้มีอะไรนอกจากนั้นแล้ว เราว่าจริง ๆ มันก็เป็นเรื่องดีนะ อย่างที่เราบอกตลอดเวลา เราคิดว่า Product สมัยใหม่มันควรจะให้ของมาเฉพาะที่มันต้องใช้จริง ๆ อะไรที่มันไม่ได้ใช่ก็ขายเพิ่ม หรือให้กด Bundle แถมมาอะไรก็ว่าไปดีกว่า จะได้ไม่สร้างขยะด้วย

Xiaomi Mijia Monitor Hanging Lamp

มาดูที่ตัวหลอดกันก่อน ตัวหลอด ถ้าเราลองมองเข้าไป เราจะเห็นหลอดอยู่ 2 ชนิดคือหลอดที่เป็นสีขาว กับสีออกเหลือง ๆ ทองแดงหน่อย ๆ มันเป็นหลอดสำหรับปล่อยแสงขาว และ แสงเหลือง จริง ๆ หลักการของมันก็คือ อัตราส่วนของการเปล่งแสงขาว และ เหลืองออกมา ทำให้อุณหภูมิสีมันต่างกันนั่นเอง ถ้าเราหมุนไปทางแสงเหลืองเลย ตัวหลอดสีเหลือง ก็จะเปล่งแรงกว่าแสงขาว แต่ถ้าขาวเลย หลอดเหลืองก็คือปิดไปนั่นเองหลักการมันจะเป็นแบบนี้เลย จริง ๆ โคมไฟที่ปรับอุณหภูมิแสงได้ ก็ใช้หลักการก็คือแบบนี้แหละ

ที่ด้านหลังของโคม เราจะเห็นว่ามันมี Contact โลหะ สำหรับการติดกับตัวแท่น เพื่อให้จ่ายไฟเข้ามานั่นเอง ส่วนโลหะที่อยู่รอบ ๆ เป็นสี่เหลี่ยมเราเข้าใจว่าน่าจะเป็นแม่เหล็ก เพราะตัวฐานกับโคมมันจะติดกันด้วยแม่เหล็ก ทำให้เราสามารถถอดเข้าถอดออกได้ง่าย ๆ

ส่วนที่หัวและท้าย ก็จะเป็นการปั้ม Logo ของ Xiaomi ลงไป

และด้านหลังของโคม จะเป็นพวกรายละเอียดระบบไฟของเจ้าโคมไฟตัวนี้ เป็นภาษาจีน แต่ก็พอเข้าใจได้อยู่ว่ามันใช้ไฟ 5V/1A หรือก็คือ 5W เท่านั้น ใช้น้อยมาก ๆ เลยนะ สำหรับโคมไฟแบบนี้ แต่มันก็ยังให้แสงที่เรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานหน้าคอมนะ

Setting Up

การ Setup ใช้งานนั้นง่ายแสนง่ายมาก ๆ เราก็เอาโคมติดผ่านแม่เหล็กเข้ากับตัวฐานให้เรียบร้อย จากนั้น เอาที่ประกอบแล้ววางบนหน้าจอได้เลย โดยที่เราไม่ต้องกลัวนะว่า จอของเราจะเป็นรอย เพราะที่ฐานส่วนที่สัมผัสกับตัวจอมันจะเป็นยาง ไม่มีอะไรคม ๆ ทำให้จอเราเป็นรอยแน่นอน จากนั้นเราก็เอาสาย USB-C ที่มาในกล่องเสียบเข้าไป และปลายอีกด้าน เราก็จ่ายไฟให้มันอาจจะเป็นผ่าน USB-A ในคอมพิวเตอร์ของเราก็ได้ หรือจะเป็นเอา Adapter มาต่อแล้วเสียบปลั๊กก็ได้

แต่เราแนะนำให้เสียบผ่าน Adapter จะดีกว่า เพราะถ้าเราเสียบผ่านคอม แล้วเราปิดคอมอยู่ แต่เราต้องการจะใช้งานพื้นที่ตรงนั้น เราจะได้เปิดเพื่อใช้งานได้โดยที่ไม่ต้องเปิดคอมนั่นเอง ไฟจะได้ใช้ประโยชน์ได้มากกว่านั้น

ส่วนตัวก้อนกลม ๆ ที่เราบอกว่าเป็น Remote ถ้าเราหงายก้นมันขึ้นมาดู เราจะเห็นว่ามันมีสัญลักษณ์รูป Lock/Unlock อยู่ให้เราหมุนฝาหลังไปที่ Unlock แล้วแกะฝาออกมาได้เลย

เปิดออกมา เราจะเจอกับช่องสำหรับใส่ถ่าน AAA ทั้งหมด 2 ก้อนด้วยกัน เราก็เอาถ่านที่เขาแถมมาให้นี่ละใส่ลงไปเลย ถ้าหมดก็ไปหาซื้อใหม่ ถ่าน AAA ไม่ได้หาซื้อยากเลย ก็ถือว่าดีเลยละ ที่ไม่เอาถ่านแปลก ๆ มา แต่เราว่าถ้าทำเป็น Battery มาน่าจะพีคกว่านี้อีก เท่านี้โคมไฟของเราก็พร้อมใช้งานแล้ว ตัว Remote เราก็ไม่จำเป็นที่จะต้อง Pair อะไรทั้งสิ้น เพราะมันทำให้เราหมดแล้ว

การใช้งาน

หลัก ๆ การใช้งานของโคมไฟตัวนี้คือ เราเปิดเพื่อให้แสงสว่างที่เพียงพอกับการใช้หน้าจอของเราเลย ปกติ เราอาจจะใช้ไฟที่อยู่บนฝ้า ซึ่งบางที มันอาจจะให้แสงที่ไม่เพียงพอกับเราทำให้เราใช้งานไปนาน ๆ แล้วจะปวดตาได้ ทำให้มาถึงปัญหาแรกของโคมตัวนี้เลยคือ แล้วแสงเท่าไหร่ละถึงจะเพียงพอ เอาจริง ๆ เลยนะ เราก็ไม่รู้เหมือนกัน ฮ่า ๆ เราก็ปรับให้เรารู้สึกสบายตา

ความสว่างของไฟจริง ๆ เราว่ามันก็ทำได้ดี เพียงพอต่อการใช้งานได้เลย แม้กระทั่งการปรับลงให้สว่างน้อยที่สุด มันก็ทำได้พอดีเลย ถึงแม้กว่าเราจะปิดไฟห้องมืดเลย แล้วเปิดแค่โคมที่จอใช้งาน เราก็ยังสามารถใช้งานได้สบาย ๆ เลย

แต่ที่เป็น Gimmick ของ Xiaomi Mijia Monitor Hanging Lamp คือ การที่มันมี Remote มาให้เราสามารถปรับไฟได้ง่าย ๆ ทำมาบอกเลยว่า สวยนะเอาจริง ๆ ดูดีเลย โดยสิ่งที่เราทำกับมันได้คือการหมุน และ กด ถ้าเราหมุนเฉย ๆ มันจะเป็นการปรับความสว่าง แต่ถ้าเรา กดด้วย หมุนด้วย มันจะเป็นการปรับอุณหภูมิสี ถ้าเรากดเฉย ๆ มันจะเป็นการ เปิด/ปิด และสุดท้าย ถ้าเรากดค้างไว้มันจะเป็นการเข้า Computer Mode

ในคู่มือบอกว่า Computer Mode มันจะเป็นการปรับไฟแบบที่พยายามที่จะตัดแสงสีฟ้าออกจากหน้าจอโดยไฟที่มันให้ออกมามันจะเป็นสีเหลืองนวล ๆ หน่อย สว่างพอตัวเลย ถ้าใช้งานช่วงกลางวัน เปิดม่านอะไรหน่อย เราว่าพอดีเลย แต่ถ้าเราใช้งานในห้องมืด ๆ อาจจะต้องลดความสว่างลงหน่อยก็จะดีกว่านี้เยอะเลย

แต่สำหรับใครที่ใช้ Keybaord ที่มี RGB หรืออยากจะโชว์ไฟ ก็อาจจะต้องหดหู่เล็ก ๆ เพราะถ้าเราเปิดโคมไฟ แล้วมันจะมากินแสงไฟที่ได้จาก Keyboard เกือบหมดเลย กับของเราเอง Keychron K8 ที่ตัว Keycap มันเป็นสีเข้ม แล้วพอเจอกับไฟจากโคมอีก ทำให้พวกตัวหนังสือมันจะมองไม่ค่อยเห็นเท่าไหร่ สำหรับคนที่อาจจะยังต้องมองแป้นเราว่าก็ทำให้ปวดหัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็นะ ได้แหละ

ส่วนตัวเราว่าการใช้งานมันโอเคเลยนะ ทำออกมาได้ดูดีมาก ๆ ติดอย่างเดียว เราว่ามันน่าจะมีพวก Light Sensor หรือพวก Proximity Sensor สำหรับการวัดแสงเพื่อปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และเอาไว้ตรวจจับการเคลื่อนไหวแล้วเปิดอัตโนมัติ อาจจะชินกับความ Dyson แหละดูออก นอกจากนั้น ถ้าเราใช้การควบคุมผ่าน App ได้เราว่ามันน่าจะว้าวมาก ๆ เลยนะ ทำ Feature อะไรได้อีกเยอะมาก ๆ เลยนะ

โคมไฟกับการแต่งรูป

เกือบลืมไปเลย เราว่าอีกคำถามที่น่าจะถามกันคือ ถ้าเราใช้ไฟพวกนี้มันจะทำให้จอเราสีเพี้ยนมั้ย เราต้องตอบเลยว่า เพี้ยน แน่นอน ทำให้เวลาเราทำงานที่เราต้องทำพวกสีต่าง ๆ เราจะปิดไปเลยไม่ใช้ แล้วพอทำเสร็จ เราค่อยกลับมาเปิด แต่ถ้าอยากได้ไฟที่เปิดตอนเราทำงานพวกนี้จริง ๆ เราแนะนำไปเล่นพวกไฟที่ราคาสูงกว่านี้เลยพวก Dyson อันนั้นมันจะมี Mode Precision ที่มันจะทำให้สีที่เราได้ออกมาจากจอหรือพื้นที่ตรงนั้นมันไม่เพี้ยนมาก 99% ตรงได้เลย

สรุป

Xiaomi Mijia Monitor Hanging Lamp เป็นโคมไฟสำหรับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้ได้เลยเหมาะกับการ WFH ในช่วงนี้เลย ที่เราต้องอยู่กับหน้าจอคอมกันทั้งวัน แล้วไม่ได้ไปไหนด้วย แต่สิ่งที่ตัวโคมไฟนี้ไม่เหมือนกับตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาดเราว่าเป็นเรื่องของ Remote ที่ทำให้การควบคุมไฟมันทำได้ง่าย และ บอกเลยว่าที่ปรับมันดูดีจริง ๆ เข้ากับโต๊ะทำงานเราได้เป็นอย่างดี พร้อมเข้าสู่วงการจัดโต๊ะทำงานอย่างเต็มภาคภูมิมาก ๆ แต่สิ่งที่เป็น Ultimate Goal ของเรากับโคมไฟนี้เลยคือ การลดอาการล้าของตาจากการใช้งาน อันนี้เห็นผลชัด ๆ เลยว่า เราปวดตาน้อยลงเยอะมาก ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับไฟทั้งหมดมั้ย แต่มันก็ช่วยได้เยอะมาก ๆ เลยละ แต่มันจะไม่เหมาะกับคนที่ใช้พวก Ultra-Wide Screen ขนาด iMac เป็นจออัตรา 16:9 ปกติ ไฟมันยังยาวไม่ถึงเลย ถ้าเราโดดไป 21:9 หรือมากกว่านั้น เราว่ามันจะสั้นไป หรือคนที่เล่นพวก Multi-Monitor อาจจะต้องกดหลาย ๆ อันหน่อยฮ่า ๆ กับถ้าเป็นแบบนั้นเราว่ามันจะดีมาก ๆ ถ้าเราสามารถทำให้ไฟทุกตัว Sync กันได้หมดเลย กดที่ Remote อันเดียวแต่เปิดทั้ง 3 อันเลยอะไรแบบนั้นจะดีมาก ๆ เลยละ ฝาก Xiaomi ไปทำมา ฮ่า ๆๆๆๆๆ อ่อ สุดท้ายรีวิวก็ต้องมีราคาเด้อออ เรากดมาอยู่ที่ 1,279 บาท เข้าไปดูได้ในลิงค์นี้เลย https://www.lazada.co.th/products/i1964714912-s6263934350.html

Read Next...

รีวิว iPad Mini Gen 7 หน้าเดิม แรงขึ้นรองรับ Apple Intelligence แล้วนะ

รีวิว iPad Mini Gen 7 หน้าเดิม แรงขึ้นรองรับ Apple Intelligence แล้วนะ

หลังจากผ่านไป 3 ปี ในที่สุดวันที่เรารอคอยกันก็มาถึง iPad Mini ออกรุ่นใหม่แล้วแกร แต่เอ๊ะ หน้าเดิมนิ แล้วมันมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง และส่งผลกระทบต่อการใช้งานอย่างไรบ้าง วันนี้เราได้ทดลองใช้แล้วจะมารีวิวให้อ่านกัน...

รีวิว Apple Password Manager จากเรื่องง่าย ทำให้ทุกอย่างยาก

รีวิว Apple Password Manager จากเรื่องง่าย ทำให้ทุกอย่างยาก

หนึ่งใน Feature ใหม่ที่เปิดออกมาทั้งใน macOS Sequoia, iPadOS 18 และ iOS 18 คือ App ที่ชื่อว่า Password เป็น Password Manager ของ Apple วันนี้เราได้ทดลองใช้งานมันมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว จะมาเล่าให้อ่านกันว่าอาการมันเป็นยังไง มันทำให้ชีวิตเราเหนื่อยขึ้นได้อย่างไร...

รีวิว macOS Sequoia การอัพเดทที่ทำให้ Ecosystem แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

รีวิว macOS Sequoia การอัพเดทที่ทำให้ Ecosystem แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เป็นประจำในทุก ๆ ปีที่ Apple จะเปิดตัว macOS Version ใหม่ออกมาให้ผู้ใช้ Mac ได้ Upgrade กัน ในปีนี้เอง Crack Marketing Team ก็ทำหน้าที่ของตัวเองในการออกไปหาชื่อใหม่ให้กับ macOS ในปีนี้ชื่อว่า macOS Sequoia จะมี Feature อะไรเด็ด ๆ บาง วันนี้เรารวมเอามาเล่าให้อ่านกัน...

รีวิว iOS 18 การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่

รีวิว iOS 18 การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่

หลังจาก Apple เปิดตัว iOS18 และ iPadOS18 วันนี้เราจะมาเล่าพวก Feature ต่าง ๆ ที่เราได้ทดลองใช้งานมาหลายวันพร้อมกับบอก Use Case การใช้งานต่าง ๆ ว่ามันเอามาทำอะไรได้บ้าง...