By Arnon Puitrakul - 10 มิถุนายน 2024
หลังจากรีวิวของหลายอย่างจาก Foreo ไปบอกเลยว่าใช้จริงมาตลอด หลัง ๆ เราเริ่มมาลองเปิดใจใช้ Eye Cream เลยอยากได้อะไรมานวดใต้ตาหน่อย จนมาเจอว่า Foreo ก็มีเหมือนกันนิหว่า แน่นอนว่า สอยมาเลยจ้าาาา กับ Foreo Iris 2 มาดูกันว่ามันทำอะไรได้ และ มันจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปหรือไม่
Packaging ของ Foreo ส่วนใหญ่ เหมือนกันหมดคือมีพวกถุงผ้าหุ้มมาให้เรา เอาจริง ๆ ตอนหยิบมาถ่ายรีวิว ภาพที่เห็นคือ คิดดีไม่ได้เลย เหมือนอะไรสักอย่างที่ไม่ต้องเอ่ยก็รู้ทันที
ด้านบนมี Barcode และชื่อสินค้า ให้เราเช็คก่อนนะว่า สีที่เราซื้อมามันตรงหรือไม่ โดยเราเลือกมาเป็นสี Mint ที่ออกเขียว ๆ ฟ้า ๆ สว่าง ๆ หน่อย เป็นสีเดียวกับ Foreo Bear ที่เรามี จะได้เข้าคู่กันไปเลยสวย ๆ
เอาถุงผ้าออกมา ยังหยุดคิดแย่ ๆ ไม่ได้เลย เหมือนจริงมาก โอเคเลิก ๆ ตัวกล่องมาเป็นพลาสติกเหมือนเดิม มีเขียนว่า IRIS 2 เป็น Eye Massager หรือเครื่องนวดตานะทุกคน ไม่ใช่อย่างอื่น ถึงหน้าตามันจะเหมือนก็ถือ
ด้วยความที่เราซื้อจากไทย ทำให้มีฉลากไทยด้วย ถ้าเราลองดูที่สเปกของมัน เขาบอกว่ามีน้ำหนัก 71 กรัม เราว่าพกไปไหนก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร เบามาก ๆ กับอีกอันคือรองรับมาตรฐานกันน้ำ IP68 หรือก็คือ เราสามารถใช้ในห้องน้ำได้เลยแหละ แต่เอาเข้าจริง เราก็ไม่นวดตาในห้องน้ำหรอกเนอะ แต่ถ้าใครจะเอาไปใช้ในห้องน้ำก็....... หึหึหึหึหึ
ข้างใต้กล่องเป็น พวกเลข Barcode ต่าง ๆ เราว่าจริง ๆ ลองเช็คดูดี ๆ ได้นะ เพราะเราเห็นในตลาดมีพวก Foreo ปลอมเยอะมาก แนะนำให้ซื้อผ่าน Official Store จะดีกว่านะ
ด้านบนกล่อง มีสติ๊กเกอร์ Foreo อยู่ และเราจะเห็นจากด้านขวาที่มีรอยให้เราดึงเพื่อแกะได้
เมื่อเปิดฝาออกมา เราจะพบกับตัวเครื่องวางอยู่อย่างสวยงาม
มันมีกล่องเล็ก ๆ อยู่ในนั้นด้วยนะ อย่าเอาไปทิ้งเชียว มีพวกอุปกรณ์ Bundle หลาย ๆ อย่างมาให้
เริ่มจากถุงสำหรับใส่ไปเที่ยวก่อน เป็นถุงผ้ายืดอย่างดี ดูจากภาพ คุณภาพอาจจะไม่ดี แต่พอได้ลองจับ ๆ ใช้ ๆ แล้วเห้ย ดีเฉยเลย แอบชอบมาก
เมื่อเอามาใส่จริง ถุงมันจะยาวกว่าตัวเครื่องนิดหน่อย นะ แต่ขนาดอะไรก็โอเคหมด กับ ถ้าเราอยากจะใส่ถุงในกระเป๋าเดินทางไปเที่ยว เขาจะมี Travel Mode สำหรับล๊อคอุปกรณ์ ลองคิดภาพว่าถ้าอยู่ ๆ มีเสียงสั่น ๆ ในกระเป๋า ก็คือ โอ๊วววววว แซ่บเลยนะ TSA แมร่งสนุกแน่นอน สามารถทำโดยการกดปุ่ม บวกและลบค้างไว้ สำหรับ ล๊อคและปลดล๊อค
ของอีกชิ้นที่มาในกล่องคือ สายชาร์จ มาหน้าตาเหมือนกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Foreo เลย แต่.... มันเสียบแล้วมันต้องดันเข้า มันจะไม่แน่น
เราเลยเอาสายชาร์จของอุปกรณ์อื่น ๆ มาดูเทียบ ด้านซ้ายคือ สายที่มากับ IRIS 2 และอันขวาคืออันที่เราใช้กับ Luna และ Bear ได้ทุกตัว ดูเผิ่น ๆ มันอาจจะเสียบได้เหมือนกัน จริง ๆ ถ้าเราเอาสายของอันอื่นเสียบมันก็เข้า แต่เราจะต้องเอามือดันเอาไว้ แต่กลับกัน ถ้าเราเอาสายที่มากับ IRIS 2 เสียบอุปกรณ์ตัวอื่นมันก็ได้ เราคิดว่าเป็นที่ขนาดของฉนวนที่จับด้วยละมั้ง
หลัก ๆ ในกล่องจะมีเท่านี้เลย ตามสไตล์ของ Foreo มากับแค่ของที่ใช้งานเท่านั้นแหละ ดังนั้นการแกะกล่องมันจึงไม่มีอะไรให้เราสังเกตเท่าไหร่
Foreo IRIS 2 เป็นเครื่องนวดตาจาก Foreo เอง สิ่งที่มันทำได้ง่าย ๆ คือ สั่น โดย T-Sonic ที่เป็นเอกลักษณ์ที่อยู่ในเครื่องของ Foreo แทบทุกตัว ประกอบกับตรงหัวมันจะขยับไปมา เหมือนเรากำลังนวด ๆ ตาอยู่ ทำให้เราผ่อนคลายสุด ๆ แต่ในแง่ของผลที่เราเห็นได้ Foreo เคลมว่า มันช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตา ทำให้ลดตีนกา และ ร่องตื้น ๆ ได้ถึง 43% และลดรอยดำใต้ตาได้ 70% เลยทีเดียว เอาจริง ๆ อย่าไปเชื่อมากเลย มันเป็นการทดสอบจากผู้ผลิตเอง ความน่าเชื่อถือมันไม่เท่าพวกการทดสอบในงานวิจัยแบบ Peer-Review เท่าไหร่
ตรงข้อด้านบน หากดูจากภาพมันน่าจะแข็ง ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันเป็นยางเหมือนส่วนอื่น ๆ มันมีลักษณะอ่อน ๆ เราสามารถเอามือบีบ ๆ ได้เลย ทำให้เวลาเราเปิดเครื่องมันมาโดนหน้าเรามันจะเหมือนเอาอะไรนุ่ม ๆ มากด ๆ นวด ๆ บริเวณใต้ตาของเรา
ตัวเครื่องจะมีปุ่มสำหรับการควบคุมอยู่ทั้งหมด 3 ปุ่มด้วยกันคือ บวก และ ลบ ที่อยู่ด้านบน และล่างสำหรับการเพิ่มลดความสั่นของตัวเครื่อง และตรงกลางเป็นปุ่มสำหรับเปิดปิด หากเรากดครั้งแรก เครื่องมันจะเริ่มมาด้วยโหมดที่มีการนวด และสั่น แต่ถ้าเรากดอีกครั้ง มันจะเหลือแค่การนวด กดอีกครั้งก็จะปิด ทำได้แค่นั้นเลย
ด้านหลังของตัวเครื่อง มีรูสำหรับเสียบชาร์จไฟเข้า แต่เราไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้านะ เพราะตัวมันกันน้ำอยู่แล้ว แค่ว่า หากเราล้างเครื่องด้วยน้ำ ก่อนจะเอาไปเสียบชาร์จ แนะนำให้รอให้เครื่องแห้งก่อนจะดีกว่า
ด้านล่างของเครื่อง จะเป็นไฟแสดงสถานะ เหมือนอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Foreo ถ้าใช้อุปกรณ์อื่น ๆ อยู่แล้ว ก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรเยอะ เช่น หากเราเสียบไฟชาร์จ มันจะเป็นไฟ Fade ไปเรื่อย ๆ จนมันเต็มมันจะเป็นไฟขาวนิ่ง ๆ หรือถ้าเรากดปุ่มมันจะกระพริบครั้งเดียว และถ้าแบตหมด ใช้ไปมันจะหยุดแล้วไฟมันจะกระพริบ 3 ครั้ว
สำหรับการใช้งาน ไม่ยากเลย เราแค่เปิดเครื่องแล้วเอามานวด ๆ บริเวณใต้ตา หรือบริเวณจุด Drain น้ำเหลือง ผลการใช้งาน อย่างที่บอก เราไม่อยากให้หวังอะไรมาก นอกจากเรื่องความสบาย ส่วนตัวเราจะใช้เป็นเครื่องสำหรับนวดหลังจากทา Eye Cream ไปแล้ว
เช่นเราใช้ La Mer The Eye Concentrate เราใช้ Applicator ตุ้มเหล็ก ทา ๆ วน ๆ นวดปกติไปก่อน รอให้มันซึม ๆ แล้วเราค่อยใช้ IRIS 2 นวด ๆ ต่ออีกที จนกว่าครีมจะซึมหมด หรือถ้าเรามีขั้นตอนการทาต่ออีก เราสามารถทาทุกขั้นตอนให้จบ แล้วเราค่อนเอา IRIS 2 มานวดบริเวณใต้ตา และ วน ๆ จนถึงคิ้วได้เลย แต่ไม่ต้องกดไปแรงนะ แค่บาง ๆ เบา ๆ ให้รู้สึกเหมือนเอานิ้วไปกด ๆ เบา ๆ มันจะทำให้เรารู้สึกสบายมาก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ชอบสุด ๆ ยิ่งใช้กับแผ่น Mask ใต้ตาของมัน จะมีความเย็น ๆ จาก Hydrogel แล้วเอาเครื่องมานวด ๆ ฟินสุด ๆ
อีกจุดที่เราชอบเอามานวด เราจะเอามานวดบริเวณขมับ ทำให้เหมือนเอามือที่อ่อนโยนมานวด ๆ ขมับเบา ๆ ทำให้เราสบายสุด ๆ
Foreo IRIS 2 เป็นเครื่องนวดดวงตาที่ เรียบง่ายมาก ๆ แกเกิดมานวดตา ก็นวดตาไป จริง ๆ มันจะดีมาก ๆ หากเครื่องมันสามารถทำความเย็นเหมือนเราเอา ลูกตุ้มเหล็กเย็น ๆ มานวด มันน่าจะลดอาการบวมลงได้ กับ รู้สึกสบายมากขึ้น แต่ถามว่า มันจำเป็นมั้ย เราคิดว่า ไม่จำเป็น หากเรามีเงินเพื่อซื้อ Foreo สักชิ้น IRIS ไม่ใช่อุปกรณ์ที่เราจะแนะนำเท่าไหร่ ด้วยราคาค่าตัวของมัน ถึงจะลดแล้วเหลือ 4,000 กว่าบาท เราเองก็ยังมองว่า มันไม่คุ้มมากขนาดนั้น แต่ถ้าใครมีอุปกรณ์ของ Foreo อย่างอื่นอยู่แล้ว อยากได้อะไรเพิ่มเข้าไป เราว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ ตัวนึงเลยทีเดียว ทำให้การทา Skin Care ของเราสบาย สนุกขึ้นเยอะมาก
สำหรับช่องทางการสั่งซื้อ เราแนะนำให้ไปซื้อใน Foreo Official Store ใน Shopee เลย ยิ่งถ้ารอพวก Double อย่าง 10.10 หรือ 11.11 คือมันลดฉ่ำมาก ๆ เหมือนไม่อยากขายในช่วงเวลาปกติ
เวลามันผ่านไปเร็วมาก ๆ เรายังจำวันที่ Macbook Pro M1 Max ของเรามาส่งที่บ้านได้อยู่เลยว่า เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เวลาผ่านไป 3 ปี หมดประกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมาเล่ากันว่า สภาพตอนนี้มันเป็นอย่างไร และยังจะสามารถใช้ได้อีกนานหรือไม่...
ไหน ๆ Apple Watch เข้าเลขสองหลักกันแล้ว มีหรือเราจะพลาด เพื่อเป็นการฉลองก็เลยจัดมาเลยเรือนนึง เป็น Apple Watch เรือนที่ 3 ของเราละ ผ่านมา 10 Series จะมีอะไรใหม่ ใส่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมารีวิวเล่าให้อ่านกัน...
จาก Part ที่แล้วเราเล่าไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังขาดประเด็นสำคัญนั่นคือ Performance ของ M4 Max ว่า มันเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือทำให้การทำงานของเราเร็วขึ้นได้อย่างไร วันนี้จะเน้น Benchmark และพยายามมาหาสาเหตุกันว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นกัน...
หลังจาก Apple Transition ไปสู่ Apple Silicon มาจนถึงจุดที่การเปลี่ยนผ่านเสร็จสิ้น เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับ Apple Silicon อีกเลย จนกระทั่งตอนที่ M4 ออกนี่แหละ ที่เราคิดว่า มันถึงจุดที่ใช่ละ ฤกษ์มันมาแล้ว ก็จัดเลยสิครับ มาดูกันว่าฤกษ์มันจะตรงอย่างที่เราคิดหรือไม่...