Review

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

By Arnon Puitrakul - 15 เมษายน 2024

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เสียง เป็นส่วนที่สำคัญของ Content เลยก็ว่าได้ มีคนเคยบอกเราว่า ภาพถ้าไม่เ_ยมากไม่เป็นไร แต่ถ้าเสียงฟังไม่รู้เรื่อง ไม่มีใครดูนะเว้ย หลังจากนั้น เรามองหาระบบและวิธีการอัดเสียงให้ ง่าย คล่องตัว และให้คุณภาพเสียงดีที่สุด โดยมีเงื่อนไขว่า ต้องทำงานคนเดียว ลองมาหลายแบบมาก ๆ จนมาเจอ DJI Mic 2 ที่ต้องบอกเลยว่า เป็นระบบที่ทำให้การทำ Content ของเราง่ายกว่าเดิมมาก ๆ จะง่ายอย่างไร ไปอ่านได้ในรีวิวนี้เลย

แกะกล่อง

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ตัวกล่องมาในสไตล์ DJI กล่องกระดาษ พื้นขาว มีรูปสินค้า และเขียนไว้ชัดเจนว่า DJI Mic 2 ด้านล่างยังเขียนไว้ด้วยว่า Wireless Microphone กับด้านบนขวามีสติ๊กเกอร์ของ Big Camera เพราะเราซื้อจากงาน Photo Fair ของเขา ได้มา 11,000 บาทนิด ๆ เราคิดว่า ถ้ารอพวกวันตรงเดือนที่ลดราคากันฉ่ำ ๆ คิดว่าได้ราคาดีกว่านี้เยอะ รอซื้อตอนนั้นดีกว่ามั้งนะ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านข้างพิมพ์ Logo DJI สีดำเอาไว้ เหมือนกล่อง DJI Product อื่น ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านข้างอีกข้าง พิมพ์มาเป็นเว็บของ DJI อันนี้ไม่มีอะไร

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

มาที่ด้านหลังกันบ้าง มีการบ่งบอกสรรพคุณเอาไว้เสร็จ เช่น แบตเตอรี่ที่ใช้ได้ถึง 18 ชั่วโมง, ระบบการตัดเสียงรบกวน และ การอัดเสียง 32-bit Float จะเป็นยังไง เดี๋ยวเราเล่าต่อไป ด้านล่างลงมาจะเป็น อุปกรณ์ที่ใส่มาในกล่อง คนที่เคยซื้อ DJI Product มาก่อน จะรู้ว่า เขาชอบมาอุปกรณ์เสริมสิบล้านอย่างอยู่ในกล่อง ตัวนี้เราเลือกมาเป็นตัว 2 TX ทำให้มีไมค์มาให้ 2 ตัว ถ้าเราต้องการตัวส่ง และ รับอย่างละตัว เขาก็มีขายเป็นอีกชุด แต่อุปกรณ์จะไม่แน่นเท่านี้ หรือเราจะซื้อแค่ตัวไมค์อย่างเดียวก็ได้เช่นกัน

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เปิดกล่องมา เราจะพบกับกระเป๋าสีดำ ดูเผิน ๆ ก็รู้แล้วว่า เป็นกระเป๋าที่น่าจะคุณภาพดีมากแน่ ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านข้าง มีการแกะซองไว้ เป็นพวกซอง Paperwork พวกคู่มือการใช้งาน และ สติ๊กเกอร์ DJI มาให้ อันนี้เราขอข้ามไปละกัน จริง ๆ ของในกล่องมีเท่านี้เลยจริง ๆ อุปกรณ์อื่น ๆ เขาใส่มาในกระเป๋าหมด

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เอากระเป๋าออกมาจากกล่อง แค่มองก็รู้แล้วว่า มันน่าจะ Premium มาก ๆ รู้สึกว่า ยิ่ง DJI ออก Product ใหม่มาเรื่อย ๆ กระเป๋าใส่ของเขาเริ่มคุณภาพดีขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้มันเริ่มเข้าในระดับบริษัททำกระเป๋าแล้วนะ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

รู้สึกดีจนสงสัยว่า กระเป๋ามันทำจากอะไร เขามีแปะมาด้วยลองอ่านดู อ่อ Polyester หรือใยสังเคราะห์ เราคิดว่ามันน่าจะทำให้กระเป๋ามันกันพวกระอองน้ำด้วยละมั้งนะ เหมาะสำหรับการพกพาเป็นอย่างยิ่ง

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ปลายที่ดึงซิป เขาทำมาเป็นพลาสติกอย่างดี จับแล้วแน่นหนา รู้สึกถึงคุณภาพสุด ๆ พร้อมกด DJI Logo ลงไปด้วย

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ปกติ ถ้าเราซื้อของแล้วได้กระเป๋ามา เราคงไม่ได้คาดหวังอะไรมากจากซิป ก็คงเป็นซิปโง่ ๆ ปกติ แต่สำหรับ DJi Mic 2 ไม่ใช่แบบนั้น เขามีการทำยางบาง ๆ มาซีลกันหยดน้ำ ละอองน้ำเล็ก ๆ น้อย ๆ เข้าด้วยนะ ทำให้เราสบายใจได้ในระดับนึงเวลาเราต้องฝ่าฝนเบา ๆ หรือโดนละอองน้ำว่า อย่างน้อยโอกาสที่น้ำจะเข้าก็ลดลงแหละ แต่เราไม่ได้บอกให้เอาไปโดนน้ำ สาดน้ำใส่นะ มันไม่ได้เก่งขนาดนั้น

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เปิดกระเป๋ามา เราจะพบกับช่อง 2 ช่องใหญ่ ๆ สำหรับใส่ตัวกล่องไมค์ และ อุปกรณ์เสริม

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

อุปกรณ์เสริมตัวแรกคือสาย USB-C to USB-A สำหรับการเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ และชาร์จ อันนี้แอบไม่ชอบเท่าไหร่ที่เขาไม่ใช้ C-to-C มาเลย ทำไมต้องเอา A มาด้วย คอมพิวเตอร์เดี๋ยวนี้น่าจะต้องมี USB-C หมดแล้ว หรือไม่ก็แถมหัวแปลงมาด้วยจะดีมาก ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

และสายอีกเส้นที่มาในกระเป๋าคือสาย TRS หรือบ้าน ๆ เราชอบเรียกว่า Jack 3.5 สำหรับเสียบตัวรับเข้ากับกล้อง โดยเขาให้มาเป็นสายสั้น ๆ เดี๋ยวตอนพูดถึงการ Setup จะเข้าใจว่าทำไม แต่ประเด็นสำคัญ สายที่ให้มา บอกเลยว่า โคตรหนา โคตรแข็งแกร่ง ไม่ต้องจับ แค่มองก็รู้แล้วว่า แข็งแกร่งอย่างแน่นอน แต่ไม่มีขั้วสำหรับป้องกันเวลาสะบัดหลุดอะไรนะ แต่ส่วนตัวคิดว่า ไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ เพราะสุดท้าย เราเสียบมันเข้ากับกล้อง ไม่น่าจะมีใครสะบัดให้หลุด

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

สุดท้ายคือ Deadcat หรือบ้าน ๆ เราเรียกว่า ที่กันลม ทำให้เสียงลม มันไม่เข้าไมค์เรา โดยตัวที่เราซื้อมีไมค์ 2 ตัว ทำให้มี Deadcat ในกระเป๋าทั้งหมด 2 อันด้วยกัน

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เท่าที่ได้ลองจับ และใช้งาน รู้สึกเลยว่า Deadcat อันนี้ดีมาก ๆ มีความนุ่ม ไม่บาดผิวเวลาติดกับไมค์แล้วเหน็บกับตัว ทดลองใช้ข้าง ๆ พัดลม เรียกว่าสามารถป้องกันได้ประมาณนึงเลย

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

แต่เรื่องที่ประทับใจจากมันสุด ๆ คือ วิธีการติดเข้ากับไมค์ ตอนใช้ Wireless Mic ที่มากับ DJI Pocket 2 ให้มาเป็นขาล๊อคเล็ก ๆ 2 อัน สะกิดก็หลุดละ แต่ Deadcat อันนี้มีแง่งพลาสติกสีดำ ๆ เสียบเข้าไปในไมค์ได้เลย ทำให้มันหลุดได้ยากมาก ๆ สะบัด ๆ ยังไงก็ไม่หลุดแน่ ๆ

DJI Mic 2

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

มาที่พระเอกของเราดีกว่า สำหรับรุ่นที่มีไมค์ 2 ตัว จะมาพร้อมกับ Charging Case ด้วย ตัวเคสนี้จับครั้งแรกที่ร้านรู้สึกได้ทันทีถึงความ Solid ของมัน จับแล้วรู้สึกถึงความแข็งแรงของมัน แต่พอลองเคาะ ๆ ดู เราคิดว่ามันน่าจะทำจากพลาสติกที่ค่อนข้างหนา แต่เขาทำผิวทราย กับทำสีด้าน ๆ มา ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังจับเหล็กอยู่

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

และส่วนที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ ของรุ่นนี้คือ การที่มีปุ่มสำหรับกดเพื่อเปิดกล่องแล้ว จากรุ่นเดิมมีผู้ใช้จำนวนมากบ่นว่า บางครั้งเวลาเราคว่ำกล่อง ฝากล่องมันชอบเปิดเอง ทำให้มีโอกาสที่ไมค์ และ ตัวรับอาจจะหล่นหายได้ มารุ่นนี้ได้รับการปรับปรุงอย่างดี ต้องกดแล้วเปิดฝา แต่ยังคงแม่เหล็ก นอกจากจะต้องกด ต้องออกแรงดันเพื่อเปิดเล็กน้อย ให้ความรู้สึกแข็งแรงมาก ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

นอกจากตัวกล่องจะเป็นกล่องสำหรับเก็บอุปกรณ์แล้ว ภายในกล่องยังมีแบตเตอรรี่สำหรับชาร์จไฟให้กับตัวไมค์ และตัวรับด้วย เมื่อเราเปิดฝา ไฟแสดงสถานะแบตของเคสจะปรากฏขึ้น มีทั้งหมด 4 จุด หากไฟติด 4 จุดคือ แบตเต็ม และค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ เมื่อเราใช้งานไป

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เมื่อเราเปิดกล่องออกมา เราจะพบกับ ตัวไมค์ และ ตัวรับ โดยที่ตัวรับจะแสดงปริมาณแบตของทั้งไมค์ และ ตัวรับเลย ชอบตรงที่บอกว่า มันบอกเวลาที่ใช้งานได้ เช่นในหน้าจอที่เห็นในภาพด้านบน คือ หากเราเอาออกมาตอนนี้เราจะสามารถใช้ได้ต่อเนื่องสูงสุด 15 ชั่วโมงนะ พอมั้ย ถ้าไม่พอก็ปล่อยกรูไป ให้กรูชาร์จต่อไปนะอะไรแบบนั้น ชอบจุดนี้จริง

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เริ่มที่ไมค์กันก่อน ในชุดที่เราซื้อมา มีทั้งหมด 2 ตัว หน้าตาเหมือนกันเป๊ะ ๆ เลยนะ ในรุ่นที่ 2 นี้ได้รับการปรับปรุง โดยไมค์สีดำ ด้านหน้าทำมาคล้าย ๆ เดิมคือมี DJI Logo แต่เปลี่ยนจากพลาสติกทึบ ๆ กลายเป็นโปร่งแสง เห็นพวกวงจรภายใน บอกเลยว่า สวยมาก ๆ น้ำหนักถือว่า มีพอสมควร แต่อยู่ในระดับที่จับแล้วรู้สึกถึงความแข็งแรงของมัน

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านข้างนึงของมัน ไล่จากขวาไปซ้าย ขวาสุด เป็นปุ่มสีแดง สำหรับการสั่งอัดหรือหยุดอัดเสียง ใช่แล้วฮะ ตัวมันสามารถอัดเสียง ทำ Internal Recording ใส่เข้าไปในตัวเองได้ด้วย ไม่ว่าจะเชื่อมต่อกับตัวรับหรือไม่ มันยังสามารถอัดเสียงเป็น Standalone เลยยังได้ เมื่อเราอัดเสร็จแล้ว เราสามารถเอาไฟล์เสียงออกมาได้จาก Port USB-C ข้าง ๆ ได้เลย เมื่อเราเสียบเข้าคอมพิวเตอร์ มันจะทำหน้าที่เหมือน Flash Drive ให้เราเอาไฟล์เสียงออกมาได้ โดยมันสามารถอัดได้สูงสุดที่ 32-Bit Floating Point ไปเลย ทำให้เรามั่นใจได้ว่า เสียงที่เราได้ หากมี Dynamic เยอะมาก ๆ เราสามารถมาแก้ไขได้ใน Post Production ได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว และสุดท้ายซ้ายสุดเป็นไฟแสดงสถานะการอัดเสียง หากมีการอัดลง Memory ของตัวไมค์ จะกระพริบไฟสีแดงนั่นเอง

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านข้างอีกข้าง เป็นส่วนสำหรับการเชื่อมต่อกันบ้าง ด้านบนสุดเป็นไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อ หากเป็นสีเขียวคือ กำลังเชื่อมต่อกับตัวรับ และ Feature เด็ดของเจ้านี่เลยคือ ตัวมันสามารถใช้งาน โดยไม่มีตัวรับ แต่เชื่อมต่อไปที่โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ที่รองรับ Bluetooth ได้ด้วย

โดยเราสามารถสลับระหว่างการเชื่อมต่อไปที่ตัวรับ และผ่าน Bluetooth ได้โดยการกดปุ่มบันทึกเสียงค้างไว้ 3 วินาที ไฟแสดงสถานะการเชื่อมต่อจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีฟ้า และเราสามารถเปิด Pairing Mode ได้โดยการกดปุ่มเชื่อมต่อปุ่มด้านบนสุดรูปโซ่ของรูปค้างเอาไว้ นั่นทำให้เราสามารถซื้อตัวไมค์อันนี้อันเดียว และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ของเราก็ได้เช่นกัน หรือใครที่มี DJI Action 4 และ DJI Osmo Pocket 3 ก็สามารถเอาตัวรับนี้เชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์เพื่อเป็นไมค์บันทึกเสียงได้เช่นกัน

อีก Feature สำคัญคือ เมื่อเรากดปุ่มเปิดทีนึง มันจะเป็นการเปิดปิด Noise Cancelling Mode โดยเมื่อเราเปิดไฟจะเปลี่ยนเป็นสีออกเหลือง ๆ ส้ม ๆ แทน มันเหมาะกับเวลาเราไปอัดในที่ ๆ แออัดเสียงรบกวนเยอะ ๆ เช่นริมถนน หรือในงานแฟร์ทั้งหลาย นอกจากนั้น ส่วนตัวเราไม่ชอบเท่าไหร่ ถ้าอัดมาแล้วพัง ค่อยมาแก้ใน Post เอาละกัน

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ข้างใต้ไมค์จะเห็นว่ามีขั้วทองแดง 4 Pin อยู่สำหรับการเชื่อมต่อกับเคส เพื่อการชาร์จ และยังเป็นแม่เหล็ก ทำให้เวลาเราใส่ลงไปในเคส เราไม่ต้องกลัวเลยว่า มันจะไม่เข้าล๊อค ไม่ชาร์จ อารมณ์มันคล้ายกับ Airpods ที่แค่หย่อนลงไปก็เรียบร้อย เป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลยทีเดียว

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

มาถึงด้านหลังกันบ้าง เป็นส่วนที่เอาไว้ใช้ติดกับตัวเรา ปกติไมค์ไร้สาย เราจะต้องหนีบไว้กับเสื้อของเรา แต่มันจะชอบมีปัญหาบางที ไมค์มันมีน้ำหนัก เสื้อมันบาง ทำให้มันห้อยโตงเตงออกมาไม่สวย ดูไม่เรียบร้อย ซึ่งใน DJI Mic 2 เขายังคงตัวเลือกของการหนีบไว้อยู่ แต่อีกตัวเลือกน่าสนใจมาก ๆ เราจะเห็น DJI Logo อยู่ในภาพ อันนั้นมันคือ แผ่นแม่เหล็กที่เราสามารถดึงออกมา ซ่อนมันไว้ใต้เสื้อ แล้วเอาด้านหลังของไมค์แปะเข้าไป มันจะแปะเป็นแม่เหล็กได้เลย ทำให้เราสามารถแปะไมค์ของเราไว้ตรงไหนของตัวก็ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่า ตรงนั้นมันหนีบได้มั้ย เช่นเราใส่เสื้อยืด เราอยากแปะไมค์ไว้ตรงกลางเสื้อก็ย่อมทำได้ หรือเราเองจะชอบใช้ซ่อนไมค์ไว้ตรงขอบ ๆ เสื้อเชิ้ต มันจะมองไม่ค่อยเห็น ดูเรียบร้อย และยังได้เสียงดีอีก ประกอบกับ แม่เหล็กที่ให้มา แน่นมาก ๆๆๆๆๆ กอ.ไก่ล้านตัว เราว่าแปะไว้ เต้นเบเบ้ 3 วัน 3 คืน ยังไม่น่าหลุดได้

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

แต่ข้อเสียคือ ชิ้นแม่เหล็กมันมีขนาดเล็กมาก ๆ หากเราเอาไมค์ออก แม่เหล็กที่ไม่ได้ยึดกับเสื้อเรามันจะหลุด แล้วหล่นลงมา หากเอาเสื้อใส่ในกางเกงมันก็พอจะเอาออกง่าย ๆ แหละ แค่มันน่าเกลียดนิดหน่อย แต่ถ้าไม่ มันหล่นได้เลย เล็กอีก หล่นหายอีก ชิบหายการช่างได้เลย เรามองว่ามันเป็นไอเดียที่ดี แต่ยังไม่สุด อันที่สุดคือ Insta360 อันนั้น เขาคิดมาดีจริง เป็นแม่เหล็กลักษณะเดียวกัน แต่ทำเป็นสร้อยคอมาเลย แค่ห้อยแม่เหล็ก เอาไมค์แปะ พอดึงไมค์ออก ก็ถอดสร้อยคอคืน จบ สวย ไม่หายด้วย หวังว่าจะเป็นไอเดียให้ DJI แก้ในรุ่นหน้า

ส่วนด้านบนเป็น Microphone คุณภาพสูงมาก ๆ สำหรับรับเสียง และยังมีรูสำหรับเสียบ Deadcat สำหรับการใช้ Built-in Microphone หรือเราสามารถเสียบ Lavalier Microphone เข้าไปได้ด้วยเช่นกัน เพื่อเพิ่มความเรียบร้อยในการใช้งาน ทำให้ไมค์ตัวนี้มีความยืดหยุ่นสูงมาก ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ตัวรับ สวยมาก ๆ เขามีขนาดเล็ก และเบามาก ๆ ด้านหน้าเป็นหน้าจอ เห็นจอเล็ก ๆ นึกว่าแค่แสดงผล แต่มันเป็นหน้าจอสัมผัสนะ ทำให้เราควบคุมการทำงานของไมค์ได้ง่ายกว่าเดิมมาก ๆ และยังมี Knob สีแดง ๆ เพื่อช่วยให้เราเลื่อนไปยังตัวเลือก หรือจัดการไมค์ของเราได้สะดวกขึ้น

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

โดยเราสามารถ Mount ติดกับ Cold Shoe ของกล้องเราเท่านั้น ไม่มีตัวเลือกการหนีบกับอะไรทั้งสิ้น หาก Setup ของเรามีการเสียบอุปกรณ์อื่นเข้า Hot Shoe ของกล้องแล้ว จะเริ่มลำบากละ อาจจะต้องหา Rig บวกกับ Shoe Extension มาใส่มั้ย หรือยังไง

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

จุดที่เราชอบมาก ๆ ของการ Mount เข้ากับ Cold Shoe ของกล้องคือ มันสามารถเป็น Second Monitor ในการ Monitor เสียงได้เลย หากเราใช้กล้องถ่ายตัวเอง เราสามารถหันหน้าจอออกมาทางเลนส์ให้เรามองเห็นได้ หรือถ้าเราถ่ายคนอื่น เราสามารถหันเข้าหาคนถ่ายเพื่อ Monitor เสียงได้

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เมื่อเราเสียบตัวรับเข้ากับกล้อง หน้าจอของตัวรับ จะแสดงผลเป็น Volume ของไมค์ทั้งสอง รวมไปถึงปริมาณแบตอีกด้วย ด้านบนสุดจะเป็นการตั้งค่า เช่นตัว M คือ Manual คือเราตั้งค่า Gain เองเป็น +9 ข้าง ๆ กัน พร้อมกับแสดงความชัดของสัญญาณตัวส่งทั้งสองอีกด้วย และเรายังสามารถใช้ Knob กด หมุน เพื่อเปลี่ยนการตั้งค่าได้อย่างรวดเร็วได้อีก ทำให้เราค่อนข้างคล่องตัวในการทำงานมาก ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ด้านบนเขายังทำออกมาสวยมากคือ มีการเซาะร่องเป็น DJI Logo แล้วถมสีขาวเข้าไป คือเท่จริงอะไรจริง

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

มาที่ด้านหลังกันบ้าง ทางซ้ายมือสุด เราจะเห็นช่องเสียบ USB-C สำหรับการชาร์จแบต ซึ่งเอาเข้าจริง ปกติเราก็คงจะชาร์จผ่านเคส ที่มันจะใช้ Pin ทั้ง 4 ด้านขวาสุดของรูปในการชาร์จอยู่ดี แต่ ๆๆๆ มันยังมีของซ่อนอยู่ตรงกลางอีกด้วย

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ตัวแผ่นมันสามารถเลื่อนออกมาได้ คล้าย ๆ ที่มีใน DJI Osmo Pocket เลย

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

และภายในเคส จะมีของอีก 2 ชิ้นด้วยกันคือ หัวแปลงสำหรับเป็น USB-C และ Lightning

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

โดยเราแค่เอาหัวแปลงนั้นสไลด์เข้าไปในช่องที่มันกำหนด เราก็สามารถเชื่อมต่อตัวรับ เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เลย เช่นในภาพด้านบน เราเสียบหัว Lightning เข้าไป ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อโดยตรงกับอุปกรณ์ที่มี Lightning

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ตัวอย่างเช่น เราเสียบเข้ากับ iPhone 14 Pro มันจะมี Prompt ขึ้นมาก่อนว่า แน่ใจมั้ยว่า เราจะเชื่อมต่อ เราแค่แตะ Confirm

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เท่านี้เราสามารถใช้ไมค์จาก DJI Mic 2 ในการรับเสียงเข้าไปในการอัดวีดีโอ และการอัดเสียงได้แล้ว ข้อแตกต่างระหว่างการเสียบตัวรับ และ ต่อไมค์โดยตรงผ่าน Bluetooth คือ หากเราเสียบตัวรับเข้าไป เราจะสามารถใช้ไมค์ 2 ตัวได้ ในกรณีเช่นเราไปสัมภาษณ์มีพิธีกร และ ผู้ถูกสัมภาษณ์ เราก็สามารถใช้ไมค์ทั้งสองได้ แต่ถ้าเป็น Bluetooth มันจะเชื่อมต่อได้เพียงตัวเดียวเท่านั้น ลักษณะนี้จะเหมือนกับการเชื่อมต่อบนอุปกรณ์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน เช่น DJI Action 4 และ DJI Osmo Pocket 3

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

พีคกว่านั้น เรายังสามารถเชื่อมต่อมันเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ด้วย ในตัวอย่างนี้ เราเชื่อมต่อกับ Macbook Pro ผ่าน Thunderbolt Dock

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

ภายในหน้าต่าง Audio Input มันก็จะ Detect ตัวรับขึ้นมาเป็นเหมือน Microphone ปกติให้เราได้เลย เราชอบใช้เวลาต้องการทำ Video Conference ที่ค่อนข้างสำคัญมาก ๆ เช่นการสัมภาษณ์งาน หรือประชุมกับลูกค้าสำคัญ ๆ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

โดยคุณภาพเสียงที่มันส่งเข้ามา จะได้อยู่ที่ 2ch 48kHz/24-bit Integer เท่านั้น ก็ถือว่าสูงมาก ๆ แล้วสำหรับการใช้งาน แต่เอ๊ะ เราบอกว่า มันสามารถอัดเสียงได้ที่ 32-Bit Float นิ ก็จริงแหละ แต่มันเป็นแค่เฉพาะ Internal Recording เท่านั้น หรือก็คือ เราจะต้องอัดเสียงโดยตรงผ่านตัวไมค์ และค่อยเอาไฟล์จากไมค์ทีละตัว แอบรู้สึกว่ายากไปหน่อยนะ คือ เราเสียบเสียงเข้ากล้องปกติ ไปดึงไฟล์เสียงจากไมค์แต่ละตัวมา และ Sync เสียงอีกทีใน Post แอบยุ่งยากเหมือนกัน

Feature อื่น ๆ ที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

อย่างแรกที่เราพูดถึงหลายรอบแล้วคือ การอัดเสียงแบบ 32-Bit Float มันทำให้เสียงที่อัดลงไปมีคุณภาพสูงขึ้น เหมือนเราถ่าย RAW File บนภาพเลย ทำให้เวลาเราไปทำงานต่อบน Post เราสามารถทำงานได้ยืนหยุ่นมากขึ้น เช่น อาจจะมีการตะโกน และ ASMR เราก็ยังสามารถดึงเสียงที่เบา ๆ หรือดังมาก ๆ นั้นกลับมาในระดับที่ต้องการได้มากกว่าการอัดแบบทั่ว ๆ ไปพอสมควร

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

อีกจุดที่ ทำให้เราชอบมาก ๆ คือ มันมี Recommend Camera Settings ให้ด้วย คือ เวลาเราเสียบ TRS เข้ากับกล้อง ที่ตัวรับ มันก็มีการตั้งค่า Gain ก่อนส่งไปที่กล้อง และที่ตัวกล้องเองก็มีการตั้งค่า Gain อีก ปกติ เราจะต้อง Balance Gain ทั้งสองจุด เพื่อให้เสียงที่ได้มันอยู่ในระดับที่พอดี ๆ แต่ใน DJI Mic 2 เขาอำนวยความสะดวกให้เรา โดยการเก็บค่า Gain และการตั้งค่าต่าง ๆ ที่เหมาะสมกับกล้องแต่ละรุ่นเลย

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

เมื่อเรากดเข้าไป เราจะต้องเลือก Brand และรุ่นของกล้อง เช่น ในที่นี้เราเสียบเข้ากับ Sony A7M4 เราก็แค่เลือกไป จากนั้น เราไปเลือก Gain ของกล้องให้เป็น 1 เท่านี้ เสียงที่เราอัดเข้าไปในกล้อง ก็จะอยู่ในระดับที่พอดีเองเลย ถามว่าถ้ามันไม่มี Feature นี้ทำเองได้มั้ย ก็ตอบเลยว่า ได้ แค่ว่ามันต้องมานั่งหาแหละ

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

และสุดท้าย คิดว่า Microphone หลาย ๆ ตัวมีติดมาให้แล้วคือ Low Cut Filter ที่จะตัดเสียงย่านต่ำออก พวกเสียงหึ่ม ๆ เสียงจากเครื่องยนต์ทั้งหลายออกไป อย่างที่บอกจาก Noise Cancelling คือ เราไม่ชอบการใช้ Filter เสียง ณ ตอนที่อัดเท่าไหร่ เราชอบเอามาแก้ Post มากกว่า เพราะการตัด Low Cut ในไมค์ตัวนี้ เราไม่สามารถเลือกระดับที่ต้องการจะตัดได้ มันอาจจะไปเกยกับย่านเสียงพูดของเรา ทำให้เสียงพูดขาดมิติจนมันไม่น่าฟัง

นอกจากนั้นยังมีอีกหลาย ๆ Feature ที่อำนวยความสะดวกในการทำงาน เช่น การปิดตัวรับ เมื่อกล้องปิด ทำให้ตัวรับไม่ Drain Battery ไปเรื่อย ๆ และเมื่อเราเปิดกล้องอีกครั้ง ตัวรับก็จะเปิดตามด้วยเช่นเดียวกัน เท่านี้ลดโอกาสที่เราจะลืมเปิดตัวรับจนเสียงไม่เข้าได้แล้ว

คุณภาพเสียง และคุณภาพชีวิต

คลิปนี้เป็นคลิปที่เราอัดโดยใช้ DJI Mic 2 ทั้งหมด โดยไม่ได้มีการปรับเสียงอะไรทั้งสิ้น เสียงที่ได้ออกมา เรียกว่า ถูกใจเรามาก ๆ เราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย นอกจากเสียบ TRS เข้ากล้อง แปะไมค์กับตัวแล้วเริ่มอัดได้เลย จากเดิมที่เราใช้ Rode Wireless Go รุ่นแรก กว่าจะกดเปิดตัวรับ และตัวส่ง กว่าจะเสียบ หนีบกับสายคล้อง เอาไมค์มาหนีบกับตัวเองอีก อ้าวห้อยอีกใช้เสร็จต้องมานั่งชาร์จอีก การมาใช้ DJI Mic 2 สำหรับเราเป็นการล่นเวลาไปได้คลิปนึงอาจจะถึง 10 นาทีได้เลย

Sony Stereo Lavalier Microphone
Look what I found on sony.com.th/en/

หรือถ้าเราไม่ชอบไมค์ที่มันติดมากับตัวมันเอง เราก็แค่เสียบ Lavalier Microphone เข้าไป เราทดลองเอาไมค์ของ Sony รุ่น EVM-LV1 เสียบเข้าไป ตัวนี้เป็น Stereo Lavalier นะ แต่พอเสียบเข้าไปมันรับเสียงเป็น Mono ปกติ แต่คุณภาพเสียงที่ได้ ก็ดีขึ้นเยอะ อาจจะเพราะมันหนีบใกล้ปากมากขึ้น เลยทำให้รับเสียงพูดได้ชัดเจนมากกว่า เสียงแอร์ที่เป็นเบื้องหลัง ก็เบาลงอย่างเห็นได้ชัด

สรุป

รีวิว DJI Mic 2 ไมค์สำหรับ Content Creator ที่ดีที่สุดในตอนนี้

DJI Mic 2 เป็นไมค์ที่ได้รับการปรับปรุงจากรุ่นแรก ตามเสียงตอบรับของผู้ใช้เยอะมากจริง ๆ เราชอบ DJI ในจุดนี้มาก ๆ จนมาถึงในรุ่นที่ 2 นี้ มันทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่รู้ว่าเราจะต้องการอะไรจาก Wireless Microphone System แบบนี้อีกแล้ว มันทำให้การทำงานของเราง่ายขึ้น เร็วขึ้น ยืดหยุ่นใช้กับได้หลายอุปกรณ์ทั้งกล้อง และโทรศัพท์ และ มั่นใจได้มากขึ้นมาก ๆ พร้อมทั้งคุณภาพเสียงที่ได้ก็ยังดีอยู่ ทั้งหมดที่เราว่ามา มันอยู่ใน Form Factor ในกระเป๋าที่มีขนาดแค่ฝ่ามือเราเท่านั้น เราจะพกไปถ่ายงานนอกสถานที่ก็ง่าย สำหรับ Feature ขนาดนี้ในราคา 12,500 บาท เราคิดว่า เห้ยไม่แย่นะ ไม่ได้บอกว่าถูก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าแพง รู้สึกคุ้มค่า ทำให้เป็นไมค์ที่เราหลงรัก และ ชอบมาก ๆ จริง ๆ ให้ไปเลย 10 10 10

Read Next...

รีวิว Apple Password Manager จากเรื่องง่าย ทำให้ทุกอย่างยาก

รีวิว Apple Password Manager จากเรื่องง่าย ทำให้ทุกอย่างยาก

หนึ่งใน Feature ใหม่ที่เปิดออกมาทั้งใน macOS Sequoia, iPadOS 18 และ iOS 18 คือ App ที่ชื่อว่า Password เป็น Password Manager ของ Apple วันนี้เราได้ทดลองใช้งานมันมาประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว จะมาเล่าให้อ่านกันว่าอาการมันเป็นยังไง มันทำให้ชีวิตเราเหนื่อยขึ้นได้อย่างไร...

รีวิว macOS Sequoia การอัพเดทที่ทำให้ Ecosystem แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

รีวิว macOS Sequoia การอัพเดทที่ทำให้ Ecosystem แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

เป็นประจำในทุก ๆ ปีที่ Apple จะเปิดตัว macOS Version ใหม่ออกมาให้ผู้ใช้ Mac ได้ Upgrade กัน ในปีนี้เอง Crack Marketing Team ก็ทำหน้าที่ของตัวเองในการออกไปหาชื่อใหม่ให้กับ macOS ในปีนี้ชื่อว่า macOS Sequoia จะมี Feature อะไรเด็ด ๆ บาง วันนี้เรารวมเอามาเล่าให้อ่านกัน...

รีวิว iOS 18 การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่

รีวิว iOS 18 การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยแต่ยิ่งใหญ่

หลังจาก Apple เปิดตัว iOS18 และ iPadOS18 วันนี้เราจะมาเล่าพวก Feature ต่าง ๆ ที่เราได้ทดลองใช้งานมาหลายวันพร้อมกับบอก Use Case การใช้งานต่าง ๆ ว่ามันเอามาทำอะไรได้บ้าง...

รีวิว iPhone 16 Pro Max รุ่นใหม่ มีอะไรใหม่นะ?

รีวิว iPhone 16 Pro Max รุ่นใหม่ มีอะไรใหม่นะ?

อีกหนึ่งรีวิวที่หลาย ๆ คนถามเข้ามากันเยอะมาก นั่นคือ รีวิวของ iPhone 16 Pro Max วันนี้เราได้เครื่องมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมารีวิวประสบการณ์การใช้งาน จับข้อสังเกตต่าง ๆ รวมไปถึงตอบคำถามที่สำคัญว่า iPhone รุ่นนี้เหมาะกับใคร...