By Arnon Puitrakul - 11 มีนาคม 2015
กลับมาอีกแล้ว อันนี้ก็ถามกันมาเยอะ นั่นคือเรื่องของ Random Class มันใช้ยังไง ทำอะไร
เรื่องที่ว่ามันเอามาทำอะไรนั้นก็ไปอ่านชื่อ Class ซะว่ามันชื่ออะไร นั่นแหละคือสิ่งที่มันทำ
ใช้ยังไง? ก่อนอื่นต้อง Import มันเข้ามาก่อน
import java.util.Random;
ทีนี้เราจะมาลอง Random Int กันแต่ก่อนอื่นเรามาสร้าง Object จากClass Random กันก่อน
Random rand = new Random ();
ในการที่เราจะ Random ค่าตัวเลขมาสักค่านึงเราจะต้องเรียก Method ชื่อ nextInt() ใน Argument จะเป็น Bound (ขอบเขต) ของมันซึ่งจะตั้งแต่ 0 ถึงที่เราป้อนลงไป แต่ถ้าไม่ใส่มันจะเอาเลขอะไรมาให้เราก็ได้
for (int i = 1;i<=20;i++)
{
System.out.println(rand.nextInt(20)+1);
}
จากโค๊ตด้านบนผมก็วนลูป 20 รอบให้มัน Generate เลขออกมา แต่สงสัยใช่มั้ยว่าทำไมต้องบวก 1 ด้วย?
เจ้านี่เป็นทริกอย่างนึง คือใน Argument เราไม่สามารถกำหนดเลขเริ่มต้นได้ว่าให้มันเริ่มที่เลขอะไร ผมเลยบวกมันเข้าไปเลยให้มันเริ่มด้วยเลขที่เราต้องการนั่นเอง เพราะฉะนั้นมันจะ Random เลขตั้งแต่ 1-21 นั่นเอง
แต่จริงๆแล้วเรา Random อย่างอื่นได้อีกโดยการเรียก Method next...() เช่น nextBoolean(), nextByte(), NextDouble(), NextLong() เป็นต้น
เรามาลองใช้มันทำอะไรสนุกกันดีกว่า เช่น จั่วไพ่เป็นต้น //เรื่องการพนันนี่มาไวเลย
ก่อนอื่นเราจะต้องรู้ว่าไพ่นั้นมี 52 ใบ เกิดจาก ตัวเลข A,2,3,4,5,6,7,8,9,J,Q,K และหน้าการ์ด นั้นคือ Clubs, Diamonds, Hearts และ Spades
เพราะฉะนั้นเราจะต้อง Random 2 อย่างนั่นคือเลขการ์ดกับหน้าการ์ด แต่ผมจะให้ผู้ใช้สามารถป้อนจำนวนไพ่ได้ด้วย
import java.util.Scanner;
import java.util.Random;
public class PlayCard
{
public static void main (String [] args)
{
Random rand = new Random();
Scanner sc = new Scanner (System.in);
System.out.print("Input Number of Card : ");
int numOfCard = sc.nextInt();
for(int i=1;i<= numOfCard;i++)
{
System.out.println(GetCardFace(rand.nextInt(3)) + " " + getCardNumber(rand.nextInt(12)+1));
}
sc.close();
}
public static String GetCardFace (int faceNumber)
{
if (faceNumber == 0) return "Clubs";
else if (faceNumber == 1) return "Diamonds";
else if (faceNumber == 2) return "Hearts";
else return "Spades";
}
public static String getCardNumber (int cardNumber)
{
if (cardNumber == 1) return "A";
else if (cardNumber == 10) return "J";
else if (cardNumber == 11) return "Q";
else if (cardNumber == 12) return "K";
else return Integer.toString(cardNumber);
}
}
มาดูที่ main กันก่อน ก่อนอื่นผมก็ให้ User กรอกจำนวนไพ่ที่ต้องการจั่วเข้ามา จากนั้นก็เข้า For Loop ตามจำนวนไพ่ที่กรอกเข้าไป แล้วในลูปก็ให้เราปริ้นไพ่ที่จั่วได้ออกมา โดยสร้าง Method ชื่อ getCardFace() ขึ้นมาเพื่อแปลงจากเลขที่สุ่มให้กลายเป็นชื่อหน้าของไพ่ และ getCardNumber() เพื่อแปลหน้าไพ่ให้เรา แล้วถามว่าทำไมตรง Random อันหลังต้องบวก 1 ด้วยล่ะ
นั่นเพราะเพื่อให้เราสะดวกมากขึ้นครับ เพราะไพ่มันไม่มีแต้ม 0 มันมีแค่ A,1,2,3,4,5,6,7,8,9,J,Q,K เพราะฉะนั้นตัวที่เราจะต้องเปลี่ยนนั่นก็มีแค่A,J,Q,K มันทำให้เราจัดการกับ Index ที่สุ่มมาได้ง่ายขึ้นนั่นเอง!
**Sources Code : **https://drive.google.com/folderview?id=0BwrPA9Miv4o2TDBESTgxcVkyR00&usp=sharing
Obsidian เป็นโปรแกรมสำหรับการจด Note ที่เรียกว่า สารพัดประโยชน์มาก ๆ เราสามารถเอามาทำอะไรได้เยอะมาก ๆ หนึ่งในสิ่งที่เราเอามาทำคือ นำมาใช้เป็นระบบสำหรับการจัดการ Todo List ในแต่ละวันของเรา ทำอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาเล่าให้อ่านกันว่า เราจัดการะบบอย่างไร...
อะ อะจ๊ะเอ๋ตัวเอง เป็นยังไงบ้างละ เมื่อหลายเดือนก่อน เราไปเล่าเรื่องกันขำ ๆ ว่า ๆ จริง ๆ แล้วพวก Loop ที่เราใช้เขียนโปรแกรมกันอยู่ มันไม่มีอยู่จริง สิ่งที่เราใช้งานกันมันพยายาม Abstract บางอย่างออกไป วันนี้เราจะมาถอดการทำงานของ Loop จริง ๆ กันว่า มันทำงานอย่างไรกันแน่ ผ่านภาษา Assembly...
นอกจากการทำให้ Application รันได้แล้ว อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันคือการวางระบบ Monitoring ที่ดี วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการ Monitor การทำงานของ MySQL ผ่านการสร้าง Dashboard บน Grafana กัน...
จากตอนที่แล้ว เราเล่าในเรื่องของการ Harden Security ของ SSH Service ของเราด้วยการปรับการตั้งค่าบางอย่างเพื่อลด Attack Surface ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ หากใครยังไม่ได้อ่านก็ย้อนกลับไปอ่านกันก่อนเด้อ วันนี้เรามาเล่าวิธีการที่มัน Advance มากขึ้น อย่างการใช้ fail2ban...