By Arnon Puitrakul - 29 กรกฎาคม 2022
หลังจากที่เราได้ลองใช้ Synology มาพักใหญ่ ๆ แล้ว ได้ลองเล่นหลาย ๆ Feature ไปเยอะมาก ๆ เรียกได้ว่าคุ้ยยับแหละ กับเราใช้เป็น Server หลักของบริษัทเลยก็ว่าได้ และพบว่า เห้ย มันเหมาะกับกลุ่มธุรกิจมาก ๆ นะ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบาก อย่างสถานการณ์การระบาดของ COVID19 ที่ทำให้วิธีการทำงานมันเปลี่ยนไปตลอดกาล จากเดิมที่เรานั่งทำงานในออฟฟิศ ตอนนี้ เราต้องทำงานที่บ้าน หรือ เดี๋ยวนี้ อยู่ไหนก็ทำงานได้หมดแล้ว นั่นหมายถึงความยุ่งยากในการติดตั้ง จัดการ และ ดูแลระบบ ที่อาจหมายถึงภาระทางด้าน IT และตามมาด้วยเงินมหาศาล
โดยเฉพาะกลุ่ม SMB ที่อาจจะยังไม่ได้มีทีม IT ที่จะเข้ามาจัดการโดยเฉพาะ การใช้ Solution จาก Synology ก็จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะเขามี Feature ที่รองรับธุรกิจในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเก็บ แชร์ Sync และ การทำงานร่วมกันในทีม และที่สำคัญที่สุดคือ การปกป้องข้อมูลที่มีค่า
ปล. บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Synology Thailand แต่เป็นยังไงก็ยังพูดตรง ๆ อยู่นะ ถ้าไม่ดีจริง ไม่กล้ารับแน่นอนบอกเลอออ
สำหรับองค์กรขนาดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Start Up, SMB จนไปถึง Enterprise ทาง Synology ก็มี Solution ที่เหมาะสมกับธุรกิจขนาดต่าง ๆ ได้หมดเลย
ตั้งแต่ในรุ่นเริ่มต้นเองที่เป็น Plus Series ที่มี Performance สูง และ มี Capacity ในการจัดเก็บไฟล์สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก จนถึงกลางได้เลย ที่มองหา NAS เพื่อเอามาเป็นแกนหลักในการทำงานในธุรกิจ รองรับ Storage เล็กจนถึงขนาดกลาง ไปกันสูงสุดที่ 480 TB บนรุ่น DS2422+ กันไปเลย พร้อมกับ CPU ที่รองรับการทำงานพื้นฐานตั้งแต่ การเก็บไฟล์ จนไปถึงการลง Application ต่าง ๆ ทั้งใน Docker และ Virtual Machine
หรือถ้าใครรู้สึกว่า มันยังไม่พอ อยากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ก็ไปเล่นในส่วนของ XS+/XS ได้เลย พวกนี้จะมาพร้อมกับอุปกรณ์ระดับ Server Grade จริงจังมาก เช่น CPU จะเป็นกลุ่ม Intel Xeon ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Server โดยเฉพาะ ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า การทำงานจะไม่มีปัญหาแน่นอน
สูงกว่านี้ เรามองว่า เรากำลังคุยกันในระดับ Enterprise กันละพวกนี้ CPU ก็จะอลังการงานสร้างขึ้นไปอีก หรือออกแบบมาเพื่อรองรับ Storage แบบพิเศษ เช่นใน FS Series ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับพวก Flash Storage ที่มีความเร็วสูงมาก ๆ ได้ หรือจะเป็นพวกกลุ่มของ HD Series ที่ออกแบบมาเพื่อรองกับการเก็บข้อมูลแบบหนาแน่นสูง แน่นความจุต่อพื้นที่สูง ๆ ไปเลย เหมาะกับการเก็บข้อมูลปริมาณมหาศาล
เรียกได้ว่า Synology มี Product ที่ครอบคลุมการทำงานของธุรกิจในทุก ๆ ขนาดตั้งแต่ Start up จนไปถึง SMB ที่น่าไปเล่นพวก Plus Series หรือใหญ่ขึ้นไปอีกหน่อยก็ XS+/XS และ ระดับ Enterprise ไปเล่นพวก FS,HD และ SA ได้เลย พวกนี้คือ Big Gun ของจริง ใหญ่อลังการงานสร้าง เข้ากับองค์กรแน่นอน
ทีนี้แล้วถ้า เอ๊ะ แล้วถ้า NAS ที่เราซื้อมาลงไปแล้ว ช่องเสียบมันเต็ม เราจะทำอย่างไร เราต้องซื้อ NAS ทั้งลูกใหม่มั้ยยังไงบ้าง ถ้าเป็นในภาคธุรกิจ จริง ๆ เราเข้าใจเลยว่า แรก ๆ เราอาจจะไม่ได้ต้องการพื้นที่การจัดเก็บอะไรมากมายเท่าไหร่ แต่เมื่อบริษัทเราโตขึ้นเรื่อย ๆ มันก็ต้องการการเก็บข้อมูลที่เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวด้วยเช่นกัน ทำให้ Synology เองก็จะมี Solution ในการเพิ่ม Storage อย่างเช่นพวก Expansion Unit ทั้งหลาย ซึ่งมีหลายรุ่นตามการใช้งานของเราเลยว่า เราต้องการขยายไปมากขนาดไหน เพื่อตอบรับกับการเติบโตทางธุรกิจของเราได้หมดเลย
ที่สำคัญ เมื่อก่อน เราเข้าใจว่าพวก NAS แบบนี้ราคาสูง ถ้าพูดในแง่ของเม็ดเงินที่ซื้อเข้ามา ก็ต้องยอมรับว่าสูงกว่าการประกอบ และ Deploy Server เอง แน่นอน แต่ เอาเข้าจริงแล้ว พวกนี้มันมี Cost ในการ Setup และ Maintenance ที่มากกว่าเยอะมาก เมื่อเทียบกับ Synology เองที่ทุกอย่างมันทำได้ง่ายมาก ๆ ดังนั้น เอาจริง ๆ เลย เรามองว่าในหลาย ๆ เคส โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็ก จนถึงกลาง การใช้งาน Solution ของ Synology ถูกกว่าการที่เราไป Deploy Server เองเยอะพอสมควรเลย ไหนจะเรื่อง DSM (Disk Station Manager) มาพร้อมกับ Feature ที่จะทำให้ธุรกิจลื่นไหลไม่ติดขัด เรามาดูกันดีกว่าว่า มี Feature อะไรบ้างที่ทำให้ธุรกิจเราง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก
มาที่ตัวแรกเลย ถือว่าเป็น Feature ที่ ก็เป็น NAS อะ มันก็ต้องเก็บไฟล์ได้ แต่จะเก็บไฟล์ปกติ บางที การสร้าง Share Drive อะไรกันมันก็ยากไป ไม่เหมาะกับการทำงานทั่ว ๆ ไปที่เราต้องทำงานจากข้างนอก หรือ แชร์ไฟล์ต่าง ๆ Synology Drive เข้ามาแก้ปัญหานี้ได้ทั้งหมดเลย
ตัว Synology Drive เป็น Service สำหรับการเปลี่ยน NAS ของเราให้เป็น Private Cloud ส่วนตัวของเราได้เลย ย้ำว่า Package นี้เราสามารถติดตั้งได้ฟรี ๆ เลยนะ
เราสามารถเข้าถึงไฟล์ได้จากในหน้าเว็บเอง หรือเราอาจจะสร้างพวกไฟล์เอกสารแล้วทำงานบนนั้นได้เลย นั่นแปลว่า ถ้าเราเปลี่ยนอุปกรณ์ในการทำงานอย่าง เราไปใช้งาน Desktop เครื่องอื่น เราก็สามารถ Login แล้วทำงานต่อได้เลย
นอกจากนั้น มันมี App Synology Drive สำหรับติดตั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราด้วย โดยมันทำในสิ่งที่เราว่ามันเจ๋งมาก ๆ คือ ไฟล์ทั้งหมดที่เราทำงานจะถูก Sync ทันที ไม่ต้องคอยมานั่งส่งไฟล์ที่มีการแก้ไขไปเรื่อย ๆ ให้คนในทีม เพื่อช่วยให้ Workflow การทำงานลื่นไหลมากขึ้น
หรืออีกส่วนที่เจ๋งมาก ๆ คือ Synology Office ที่ทำให้เราทำงานเอกสารได้ง่าย ๆ จากในหน้าเว็บเลย นอกจากนั้น มันยังมี Feature พวกเรื่องของการทำงานพร้อม ๆ กัน ช่วยกันพิมพ์ช่วยกันแก้ได้ทันที
นอกจากนั้น ยังมีระบบ History ที่จะแสดงให้เราเห็นหมดเลยว่า ใครแก้อะไรไปยังไงบ้าง เหมือนกับเรามี Version Control ของเอกสาร หรือไฟล์ของเราทั้งหมดเลย ถ้าอยากได้ Version เก่ากลับมา เราก็ดึงกลับออกมาได้เลย โดยที่เราไม่ต้องมานั่งเซฟเป็นแต่ละ Version กลับมา
สำหรับองค์กรไหนที่ใช้งานพวก Microsoft Office หรือ เอกสารของ Google Suite ทั้งหลาย แน่นอนว่าใน Synology Office ก็สามารถเปิดไฟล์ที่มาจากโปรแกรมที่บอกไปด้วยเช่นกัน ทำให้การทำงานระหว่างอุปกรณ์ และ บุคคลจะลื่นไหลขึ้นมาก ๆ
หรือ ถ้าเราทำงานบนพวก Mobile Device เขาก็จะมี App Drive ที่ทำให้เราสามารถเข้าถึง Synology Drive จากที่ไหนก็ได้ที่มีอินเตอร์เน็ต หรือ จะทำงานเอกสาร ได้เหมือนกับเราเข้าบนหน้าเว็บเลย เพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานได้มหาศาลมาก ๆ
นอกจากเก็บไฟล์ได้แล้ว เรายังสามารถแปลง Synology NAS ของเราให้กลายเป็น E-Mail Server ได้ด้วยเด้อ เพราะถ้าเราเป็นองค์กร แน่นอนว่า การติดต่อบุคคลภายนอก ถ้าเราใช้ Public Email Server ทั้งหลาย มันก็น่าจะดูไม่น่าเชื่อถือเท่าไหร่ และ การที่เราจะไปเช่า Email Server ที่ต้องเสียค่าบริการไปเรื่อย ๆ ก็ไม่น่าสนุกด้วยเหมือนกัน หรือ ถ้าเรา Setup เอง ก็คือยากลืมเลย (พยายามหาทำมาแล้ว ไม่สำเร็จ ปวดหัวเป็นเดือน พอเลิก !)
Synology MailPlus คือพระเอกขี่ม้าขาวของเราเลย พอมาใช้งานแล้ว อื้อ... มัน Setup ง่ายจริง ๆ กดอยู่ไม่กี่คลิกเราได้ Email Server ที่พร้อมใช้งานมาเลย เรื่องจริง ไม่ได้โม้นะ คือทำครั้งแรก เราไม่ได้อ่าน Document อะไรเลยนะ เราทำได้เลย มันเป็น Wizard ซะเยอะ เลยทำได้ง่ายมาก ๆ
Setup ง่าย แต่ Feature ก็ไม่ได้โง่เลยนะ เพราะมันมา กับพวก Feature สำหรับการทำ Administration ต่าง ๆ เช่นพวก Quota ที่ทำให้เรากำหนดขนาดกล่องจดหมายของแต่ละบัญชีได้จนไปถึงสิทธิ์ในการส่งอีเมล์ต่าง ๆ ได้ละเอียดมาก ๆ และที่สำคัญ Feature ด้านความปลอดภัยก็ไม่เว้น มาหมดเหมือนกัน เช่นพวก Antispam ก็มีมาให้เลย และพวก Antivirus ที่มีมาให้เลย โดยที่เราไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเลย แค่เรากด Enable เท่านั้นแหละ เราก็ใช้งานได้แล้ว
เอาจริง ๆ ถ้าเราไปประกอบเอง แล้วเราหา Email Server พวกนี้เอง มันจะใช้เวลาในการ Setup พอสมควรเลย ไหนจะเรื่องของความปลอดภัยอะ ส่วนใหญ่พวก Open-Source Feature อย่างพวก Antispam เขามีมาให้ละ ไม่ยากอะไร แต่ Feature อย่าง Antivirus ที่จะสแกนหน้า Malware ใน Email ทุกฉบับก่อนเลย เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เราจะไม่ได้ส่งอะไรแปลก ๆ หรือ รับอะไรแปลก ๆ เข้ามา เป็น Security Measure ที่ดีในระดับนึงเลย ซึ่งแน่นอนว่าต้องซื้อเพิ่ม และ ติดตั้งไม่รู้ว่าจะเข้ากับ Email Server เรามั้ย บวกเป็นเงินอีกมหาศาล แต่ Synology เขามีมาให้เราเลย
แต่ตัว Synology MailPlus ถ้าเราใช้งานไม่กี่ Account ก็จะไม่เสียเงินนะ เป็น Basic License ไป เช่นเราใช้ DS1621+ เขาจะมากับ Free License ให้ใช้งานได้ 5 Email Account ถ้าเราต้องการมากกว่านี้ เราสามารถติดต่อตัวแทนจำหน่ายได้เลย พวกนี้เขาจะคิดเป็น Account ไปว่าเราต้องการเท่าไหร่
และตัวนี้เรียกว่าเป็นศูนย์รวมของคนทั้งหมดในบริษัทเราเลยก็ว่าได้ เพราะการทำงานที่ราบลื่นเกิดจากสื่อสารที่ไม่ขาดตอน แน่นอนว่า Synology เองก็มี Package มาจัดในการในเรื่องนี้ด้วยเหมือนกันคือ Synology Chat ลืมการใช้ Line Group ไปได้เลย
มันมีความสามารถหลากหลายส่วนมาก ๆ แต่เรื่องที่เราชอบมาก ๆ คือการออกแบบระบบ Chat ที่ไม่ได้แค่เป็นการ Chat ระหว่างคน 1-1 แต่เรายังสามารถสร้างเป็น Channel ที่อาจจะเป็นฝ่ายต่าง ๆ หรือ เฉพาะ Project ต่าง ๆ ก็ได้หมดเลย จนไปถึงการล๊อค Channel เพื่อให้บางคนที่เกี่ยวข้องเข้าไปเท่านั้น
ซึ่งในแต่ละ Channel เราก็ยังสามารถที่จะทำงานร่วมกันได้ง่ายมาก ๆ เพราะเราสามารถทำงานร่วมกับ Synology Drive และ Synology MailPlus ได้อีกด้วย ทำให้การทำงานทำได้อย่างรวดเร็วมาก ๆ ลืมเรื่องของการส่งไฟล์ไปมาได้เลย เราแค่ Upload ไว้ใน Synology Drive ของเรา แล้วเราก็ส่งภายใน Synology Chat เท่านี้ไฟล์ของเราก็จะอยู่อย่างปลอดภัยในบริษัทของเราเองในขณะที่เราก็ใช้ไฟล์นี้กับคนอื่น ๆ ได้ง่าย ๆ อีกด้วย
พร้อมทั้งความสามารถในการค้นหาที่เราสามารถค้นหา Conversation ที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ เผื่อว่า เราจะต้องอ้างถึงที่เราเคยคุยกันก่อน หรือเป็นพวก File ต่าง ๆ ที่เราแชร์เข้ามา มีการแยกให้หมดเลยว่า เป็นพวก Conversation, Files, Links เพื่อให้เราค้นหา ได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้น
แน่นอน เพื่อการติดต่อที่ไม่ขาดตอน เขาก็มี App สำหรับบน Mobile Device ด้วย ดังนั้น ไม่ว่าเราจะอยู่ไหน เราจะทำงานในออฟฟิศ หรือ นอกออฟฟิศเราก็จะไม่พลาดทุกการติดต่อแน่นอน
แถม ๆ สำหรับคนที่เป็น Power User หน่อย เขายังรองรับพวก Webhook และ Bot ด้วยนะ ทำให้เราสามารถ Plug หลาย ๆ อย่างเข้ามาได้เยอะมาก ๆ เช่นงานของเราที่เป็นพวก Software Development เอง เราก็จะมีพวก CI/CD Bot ที่คอยเตือนการ Build และ Deploy Software ภายในด้วย
เรื่องที่ขาดไปไม่ได้เลย สำหรับการทำงานคือ การสำรองข้อมูล ยิ่งเราทำงานกับองค์กรที่ขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสที่จะเกิดปัญหาก็มีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีระบบคอมพิวเตอร์ที่ขนาดใหญ่ เช่นในองค์กรขนาดใหญ่ ๆ โอกาสที่จะมี Malware แฝงตัวเข้ามาทำลายระบบ หรือ ความเสียหายที่เกิดจาก User เองก็เกิดขึ้นได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน
วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการกับปัญหาพวกนี้คือ การทำ Backup ข้อมูลเราอย่างสม่ำเสมอ แต่สำหรับการทำงานในสเกลขนาดใหญ่ขึ้นมา เราควรจะต้องทำอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ใช้ต้นทุนในการติดตั้ง และ บำรุงรักษาที่น้อยที่สุด
ซึ่งแน่นอนว่าพูดมาขนาดนี้ Synology มี Solution มาให้เราแน่นอน ฮ่า ๆ นั่นคือ Active Backup for Business เราสามารถติดตั้งจาก Package Manager ได้ฟรี ๆ เลย ความเจ๋งของมันก็คือ การรองรับการ Backup ที่หลากหลายมาก ๆ เช่น การ Backup Synology NAS กันเองก็ทำได้ หรือจะเป็นพวกอุปกรณ์อย่าง Physical Server ทั้งยวงก็ไม่พลาด และอื่น ๆ เช่น Vitrual Machine จนไปถึงพวกการทำ rsync ที่ปกติต้อง Setup ผ่าน Command Line ตอนนี้คือ เราทำผ่าน Interface ได้ง่าย ๆ เลย
จากทั้งหมดที่เราเล่ามาทำให้ Active Backup เป็น Package สำหรับการ Backup ที่เรามองว่ามันสมบูรณ์มาก ๆ เลยนะ เพราะมันครอบคลุมการทำงานส่วนใหญ่ เรามองว่า 90% ของเคสที่เราจะเจอได้แล้ว อีก 10% น่าจะเป็นพวกการ Setup Server ประหลาด ๆ นั่นอีกเรื่อง ไว้เราจะมาเล่าเรื่องของการ Backup ข้อมูลกับ Synology ให้อ่านอีกทีแบบละเอียด ๆ เลย
ทั้งหมดนี่ ก็คือ 3 เกลอ จาก Synology ที่จะทำให้ธุรกิจของเราง่าย ราบรื่นมากขึ้นสุด ๆ และที่สำคัญ มีความเป็นส่วนตัวสูง ตั้งแต่ การเก็บ และ แชร์ไฟล์อย่างรวดเร็วด้วย Synology Drive การติดต่อด้วยอีเมลที่ทำให้เป็นเรื่องง่ายอย่าง Synology MailPlus และ ศูนย์รวมการสื่อสารอย่าง Synology Chat และเราจะบอกว่า จริง ๆ แล้ว Synology เขาก็ยังมี Solution อีกเยอะ มี Package ให้เราติดตั้งได้อีกเยอะมาก ๆ ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ สำหรับภาคธุรกิจที่มองหาระบบสำหรับการจัดเก็บข้อมูล
NAS คืออะไร: https://sy.to/wze4e
คู่มือการเลือกซื้อ NAS: https://sy.to/nlxfc
คำว่า Zero-Trust น่าจะเป็นคำที่น่าจะเคยผ่านหูผ่านตามาไม่มากก็น้อย หลายคนบอกว่า มันเป็นทางออกสำหรับการบริหาร และจัดการ IT Resource สำหรับการทำงานในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ วันนี้เราจะมาเล่าให้อ่านกันว่า มันคืออะไร และ ทำไมหลาย ๆ คนคิดว่า มันเป็นเส้นทางที่ดีที่เราจะมูฟออนกันไปทางนั้น...
หลังจากเราลงรีวิว NAS ไป มีคนถามเข้ามาเยอะมากว่า ถ้าเราไม่อยากซื้อเครื่อง NAS สำเร็จรูป เราจะสามารถใช้เครื่องคอมเก่าที่ไม่ได้ใช้แล้วมาเป็นเครื่อง NAS ได้อย่างไรบ้าง มีอุปกรณ์ หรืออะไรที่เราจะต้องติดตั้งเพิ่มเติม วันนี้เราจะมาเล่าให้อ่านกัน...
เมื่อปีก่อน เรารีวิว Adapter 100W จาก UGreen ที่เคยคิดว่ามันเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา พกพาง่ายที่สุดไปแล้ว ผ่านมาปีนึง เรามาเจออีกตัวที่มันดียิ่งกว่าจากฝั่ง Ugreen เช่นเดียวกันในซีรีย์ Nexode Pro วันนี้เรากดมาใช้เอง 2 ตัวคือขนาด 65W และ 100W จะเป็นอย่างไร อ่านได้ในบทความนี้เลย...
ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อนนานมาก ๆ แล้ว ตำรวจไทยได้จับกุมเจ้าของเว็บ AlphaBay ขายของผิดกฏหมายรายใหญ่ ซึ่งเว็บนั้นมันอยู่ใน Dark Web ที่จำเป็นต้องเข้าถึงผ่าน Tor Network วันนี้เราจะมาเล่าให้อ่านกันว่า มันทำงานอย่างไร และทำไมการตามตัวในนั้นถึงเป็นเรื่องยากกัน...