By Arnon Puitrakul - 17 ตุลาคม 2017
“Her Love Boils Bathwater” หรือชื่อภาษาไทยว่า “60 วัน เราจะมีกันตลอดไป” เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมตั้งตารอตั้งแต่ไปเจอโปสเตอร์ก่อนหน้านั้นแล้ว กว่าจะว่างไปดูก็เหลือที่ฉายอยู่ไม่กี่ที่แล้ว เพราะโดน Fast8 ถล่มเลยต้องวิ่งจากนนทบุรีไปดูที่ Lido ก็เหนื่อยเอาการอยู่
ตัวเนื้อเรื่องพูดถึงชีวิตของหญิงสาวม่ายคนหนึ่งที่ชื่อ ฟุตาบะ ที่เป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง และถูกวินิฉัยพบว่าตัวเองนั่นเป็น มะเร็งระยะสุดท้าย และมีชีวิตอยู่ได้อีกเพียง 60 วัน ซึ่งเธอเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลือของเธอไปกับการ เตรียมสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้คนข้าง ๆ ของเธอใช้ชีวิตต่อไปได้ในขณะที่เธอจากไปแล้ว อย่างมีความสุข เริ่มตั้งแต่การสร้างความเข็มแข็งให้ลูกของเธอ, ไปตามหาสามี จนไปถึงการฟื้นฟูโรงอาบน้ำที่เป็นธุรกิจของครอบครัวเธอ และอีกสิ่งที่ให้ไปดูกันในโรงหนังกันเองนะครับ
ตัวเรื่องจะค่อย ๆ พาเราเข้าไปในโลกของเธอ โลกที่คนเรามีเวลาในการใช้ชีวิตที่เหลือน้อยลงไปทุกวินาที เพราะเธอไม่อยากจะเสียคุณค่าของชีวิต เพียงเพราะยืดชีวิตเท่าไหร่ เหมือนที่เธอได้พูดในเรื่อง ประโยคนี้ทำให้ผมตระหนักถึงหลาย ๆ เรื่องขึ้นมาในหัวเลยทีเดียว
ถึงแม้ว่าเธอรู้ว่าเธอกำลังจะจากโลกนี้ไป แต่เธอก็ยังทำให้ตัวเอง และคนรอบข้างเข้มแข็ง และกล้าที่จะเผชิญกับปัญหาต่าง ๆ ทำให้เราได้เห็นถึง รักของแม่ที่อบอุ่น และไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน
แต่ตัวหนังบางจุดค่อนข้างขาดเหตุผลมาสนับสนุนตัวมันเอง ทำให้บางทีเรานั่งดูไปก็ เอ๊ะ! ทำไมแบบนี้ละ บางปมก็ค่อย ๆ ถูกเปิดเผย และคลายออกอย่างช้า ๆ และอ่อนโยน บางตอนก็เติมมุขลงไป ตอนแรกก็ งง นะว่าตลกตรงไหน ใส่มาทำไม พอดูจบก็ถึงบางอ้อเลย นั่งน้ำตาซึมกันไป
นอกจากนั้นก็ยังสอดแทรกปัญหาทางสังคมต่าง ๆ ของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ทำให้ตัวเรื่องนั้นมีมิติมากขึ้น เช่น อิจิเมะ ที่เป็นปัญหาเรื้อรังในสังคมญี่ปุ่น ผ่านลูกของเธอที่ลูกเพื่อน ๆ แกล้งจนไม่อยากไปโรงเรียน หรือ นีท ผ่านสามีของเธอที่เก็บตัวเองอยู่ในบ้าน และมีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ
เรื่องของมุม ละภาพต่าง ๆ ทุกอย่างถูกทำออกมาได้อย่างปราณีตสไตล์หนังจากแดนพระอาทิตย์อุทัยเลย ถามว่าชอบมั้ยก็ตอบนะว่า ชอบ แต่ในบางมุมอาจจะยังไม่สามารถสื่ออารมณ์ออกมาได้ขนาดนั้น (คือ คาดหวังไว้สูงกว่านี้แหละ จริง ๆ มันก็ดี) แต่ก็ยังชอบอยู่ดี
มีตอนนึงที่ชอบมาก ๆ คือตอนสุดท้ายที่เผาฟุตาบะ เลยมันแสดงถึงความสวยงาม และเป็นบุคคลที่มอบความอบอุ่นให้กับคนรอบตัวเธอแม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายของเธอ
“Her Love Boils Bathwater” ดูตัวอย่างผิว ๆ คิดว่ามันเป็นหนังดราม่าเรื่องหนึ่งที่แม่ที่กำลังจะจากโลกนี้เตรียมทุกสิ่งให้คนรอบ ๆ ตัวของเธอ แต่พอได้ดูจริง ๆ มันเป็นมากกว่านั้น มันทำให้เราเห็น ความรักของแม่ที่อบอุ่น รักที่ไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน และยังสอดแทรกปัญหาของสังคมญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว และสมจริงมาก ๆ จนเชื่อเลยว่าคนญี่ปุ่นนั้นใช้ชีวิตอยู่กับปัญหานี้ในทุก ๆ วัน ที่ค่อย ๆ ถูกคลายโดยความรัก และความอบอุ่นจากฟุตาบะ ทีละนิด ๆ
เรื่องนี้ผมให้อยู่ที่ 8/10 จากเนื้อเรื่องที่ไม่ได้สดใหม่ แต่มันแฝงไปด้วยข้อคิดต่าง ๆ มากมายและการทำให้เห็นถึงความรักของแม่ที่มากมายจนไม่สามารถจะบรรยายได้ แต่ตัดไปในเรื่องของความสมเหตุสมผลในบางฉากที่หายไป ทำให้บางทีเราก็มี งง บ้างนิดหน่อยในการดูครั้งแรก ตัดอีกเรื่องกับมุมกล้องที่อาจจะยังสื่ออารมณ์ได้ไม่หมด ดูทื่อไปนิดนั่นแหละ ก็ตัดไปอีกนะ
เป็นหนังอีกเรื่องที่ผมอยากให้ทุกคนได้ไปดูกันเลย ด้วยความที่เป็นหนังที่สอนอะไรเราในหลาย ๆ เรื่องมาก ๆ และมันก็ทำให้หัวใจเราอุ่นขึ้นมา ด้วยความอบอุ่นจากคุณแม่ฟุตาบะหลังจากเรื่องจบ และจะบอกว่า เรื่องนี้ไม่ได้นั่งร้องไห้ทิชชู่ 10 ม้วนเลยนะ ไม่ได้ดราม่าอะไรแบบนั้น แค่ดูแล้วรู้สึกน้ำตาซึม ๆ ไปกับความอบอุ่นของฟุตาบะ เสียดายที่รอบฉายน้อยไปหน่อย แต่วิ่งไปดูก็คุ้มอยู่ แต่คุ้มอย่างรุนแรง แนะนำให้ไปดูเลยส์
เวลามันผ่านไปเร็วมาก ๆ เรายังจำวันที่ Macbook Pro M1 Max ของเรามาส่งที่บ้านได้อยู่เลยว่า เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เวลาผ่านไป 3 ปี หมดประกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมาเล่ากันว่า สภาพตอนนี้มันเป็นอย่างไร และยังจะสามารถใช้ได้อีกนานหรือไม่...
ไหน ๆ Apple Watch เข้าเลขสองหลักกันแล้ว มีหรือเราจะพลาด เพื่อเป็นการฉลองก็เลยจัดมาเลยเรือนนึง เป็น Apple Watch เรือนที่ 3 ของเราละ ผ่านมา 10 Series จะมีอะไรใหม่ ใส่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมารีวิวเล่าให้อ่านกัน...
จาก Part ที่แล้วเราเล่าไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังขาดประเด็นสำคัญนั่นคือ Performance ของ M4 Max ว่า มันเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือทำให้การทำงานของเราเร็วขึ้นได้อย่างไร วันนี้จะเน้น Benchmark และพยายามมาหาสาเหตุกันว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นกัน...
หลังจาก Apple Transition ไปสู่ Apple Silicon มาจนถึงจุดที่การเปลี่ยนผ่านเสร็จสิ้น เราก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไรกับ Apple Silicon อีกเลย จนกระทั่งตอนที่ M4 ออกนี่แหละ ที่เราคิดว่า มันถึงจุดที่ใช่ละ ฤกษ์มันมาแล้ว ก็จัดเลยสิครับ มาดูกันว่าฤกษ์มันจะตรงอย่างที่เราคิดหรือไม่...