Technology

จะซื้อเลนส์กล้อง จะเอาช่วงระยะเท่าไหร่ หรืออะไรยังไง ?

By Arnon Puitrakul - 09 กันยายน 2022

จะซื้อเลนส์กล้อง จะเอาช่วงระยะเท่าไหร่ หรืออะไรยังไง ?

หลังจากตอนก่อนเรามาคุยกันเรื่องของกล้องตัวแรกกันแล้ว สำหรับคนที่ใช้งานกล้อง Compact ไม่ต้องซีเรียสเรื่องนี้เท่าไหร่ แต่สำหรับคนที่ใช้กล้องแบบที่เปลี่ยนเลนส์ได้ บทความนี้แหละ จะมาตอบคำถามให้กับทุกคนเองว่า ควรจะเอาเงินไปลงกับเลนส์แบบไหนดี ถึงจะคุ้มทุนที่สุด

ปล. แก ๆ ที่ชั้นขาย Sony ขนาดนี้ เขาไม่ได้จ่ายนะ แต่เราใช้เลยเอามาแชร์ได้เยอะ

ปล2. เราพูดถึงในแง่ของการใช้เท่านั้น ถ้าชีวิตขับเคลื่อนด้วยกิเลส ก็ข้ามไป แล้วไปเอาอย่างที่ใจอยากเถอะ

เลนส์หนึ่งตัว ควรดูอะไรบ้าง ?

ส่วนนี้สำหรับคนทั่ว ๆ ไปที่เป็นมือใหม่เลยละกัน โดยทั่ว ๆ ไป เอาง่ายสุด ๆ เลย เวลาจะกดเลนส์สักตัว เราจะดูอยู่ 2 ค่าด้วยกัน คือ ระยะเลนส์ และ ค่าความกว้างรูรับแสง (ที่ชอบเรียกค่า F อะไรกันนี่แหละ)

เริ่มที่ระยะเลนส์เป็นตัวแรก เลขยิ่งเยอะ เหมือนยิ่งซูมเข้าไปเรื่อย ๆ เช่น เลนส์ 35mm ก็จะให้ภาพที่กว้างกว่า 70mm แน่นอน แต่ 70mm จะได้ภาพที่ไกลกว่านั่นเอง มองอีกแง่คือ ถ้าแบบ เราอยู่เท่ากัน แล้วต้องการได้ภาพที่เหมือนกัน เราใช้ 70mm เราต้องเดินถอยออกตัวแบบไปเยอะกว่า 35mm แน่นอน

เลนส์ในตลาด ถ้าเราแบ่งตามความสามารถในการเปลี่ยนระยะ มันจะมีอยู่ 2 แบบคือเลนส์ซูม  หรือก็คือเลนส์ที่เราสามารถปรับค่าระยะได้ในตัว เช่น 24-70mm นั่นแปลว่า เราสามารถใช้เลนส์ตัวเดียวนี่แหละ ถ่ายได้ตั้งแต่ช่วง 24-70mm ง่าย ๆ ไปเลย

และเลนส์อีกแบบเราเรียกว่า เลนส์ฟิค หรือก็คือ มันจะฟิค (Fixed) ระยะไว้เลย เช่น 85mm อ่าวมาแล้ว อ้าว งี้เลนส์ซูมมันก็ดีกว่าสิ เพราะมันถ่ายได้หลายระยะในอันเดียว แต่เราจะบอกเลยว่า พอมันปรับระยะเลนส์ไม่ได้ นั่นแปลว่า คนที่ออกแบบชุดเลนส์ ก็สามารถออกแบบมาให้มันมีประสิทธิภาพสูงมาก ๆ  และน้ำหนัก (ส่วนใหญ่) ยังเบากว่า ตัวอย่างที่เราใช้งานก็จะเป็น Sony FE 35mm F/1.8 และ Sony FE 85 GM F/1.4

ค่าอีกค่าที่เราอยากให้ดูก็คือ ค่าความกว้างของรูรับแสง เราจะชอบบอกกันว่า ค่า F อะไรนั่น ตัวเลขนี้ดูไม่ยาก ยิ่งเลขน้อย ก็ยิ่งมีรูรับแสงที่กว้างมากขึ้น รับแสงได้เยอะมากขึ้น เป็นผลดีมาก ๆ กับการถ่ายในที่แสงน้อย แต่แน่นอนว่า ยิ่งกว้างแล้วดีขนาดนี้ ราคาก็แน่นอนว่า แพงขึ้นมาก ๆ เลยเหมือนกัน เราเทียบเอาเ_ย ๆ เลยนะคือ Sony FE 35mm F/1.8 กับ Sony FE 35mm GM F/1.4 ราคาจะอยู่ที่ 22,900 และ 49,990 บาท จะเห็นว่าห่างกัน 2 เท่าได้เลย ทั้ง ๆ ที่เป็นเลนส์ในระยะเดียวกันคือ 35mm เลย

แต่เราต้องเข้าใจอีกหน่อยว่า จริง ๆ แล้วเราจะเห็นว่า ระยะมันเท่า แล้วค่าความกว้างมันต่างกันแค่ 0.4 เท่านั้นทำไมราคามันต่างกันได้ขนาดนี้ ส่วนนึงมันก็เป็นเพราะการออกแบบ และ ผลิตที่ยากขึ้น ใช้ชิ้นเลนส์ที่คุณภาพสูงขึ้น เพื่อให้รับแสงได้เยอะขึ้นนั่นเอง ยังไม่นับเรื่องการออกแบบพิเศษหลาย ๆ อย่างเช่นใน GM ทั้งหลายเรื่อง Bokae เขาทำได้กลมขึ้นมาก เพราะม่านที่เขาใช้ครีบมันเยอะขึ้นอะไรแบบนั้น

ทั้ง 2 เรื่องที่เราเล่าไป เป็นเพียงความต่างใหญ่ ๆ ของเลนส์เท่านั้น จริง ๆ แล้วมันยังมีเรื่องมอเตอร์ที่ใช้ในการโฟกัส เรื่องของสี สไตล์ต่าง ๆ อันนี้เป็นเรื่องยิบ ๆ ละ ถ้าเราซื้อเลนส์ไปสักหน่อย น่าจะพอเห็นความต่างแล้วน่าจะพอรู้แล้วว่า อยากได้อะไร

เลือกเลนส์

จริง ๆ แล้วการเลือกเลนส์มันมีหลายวิธีมาก ๆ แต่เราจะแนะนำ 2 Step ของความชิบหายให้ดีกว่า ขั้นแรก เราจะแนะนำให้หาเลนส์ที่ช่วงกว้าง ๆ ก่อน โดยเฉพาะคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ลองใช้ไปเรื่อย ๆ แล้วเราน่าจะเจอระยะที่เราชอบ หรือใช้งานบ่อย ๆ ออกมา โดยที่เลนส์ตัวนี้ ถ้าเราไม่รู้อะไรเลย เราจะแนะนำให้ซื้อกล้องพร้อม Kit Lens มาเลย พวกนี้ส่วนใหญ่ จะให้ช่วงที่กว้างมาก ๆ ให้เราได้ทดลองมองหาจุดที่เข้ากับเรา

จากนั้น ขั้นตอนที่ 2 คือ เรารู้ช่วง อะไรที่เราชอบแล้วเราก็ไปกดช่วงนั้นแหละ เป็นเลนส์ฟิคมาเลย คุณภาพจะได้ดี ๆ หน่อย อย่างน้อย เราก็รู้แล้วว่า มันน่าจะเป็นตัวที่เราใช้งานบ่อยแน่ ๆ ซื้อมาจะได้ใช้ ไม่นอนตู้เฉย ๆ แน่นอน แล้วเลนส์ช่วงกว้างตัวเก่ายืนพื้นไว้แล้ว เราก็เอาไว้ถ่ายในสถานการณ์อื่น ๆ ได้อยู่ดี

ตรงขั้นตอนที่ 2 นี่แหละ ที่แมร่งคือความ ชิบ หาย ทาง การ เงิน อย่างแท้จริง เพราะมันจะงอกไม่มีที่สิ้นสุดนี่แหละ แรก ๆ เราก็มี 24-70mm อยู่ดี ๆ เออชอบ 35mm ได้ งั้นเอามา สักพักถ่าย ๆ ไปเห้ย 85mm เจ๋งสัส อะมาอีกตัว มันจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เชื่อเราเถอะ กล้องไม่เคยจบ

เลนส์ตัวเดียว เที่ยวรอบโลก

ตัวเลือกแรก สำหรับคนที่ยังไม่อยากชิบหายทางการเงินมาก ไม่อยากพกเลนส์ไปเที่ยว หรือไปถ่ายงานหลาย ๆ ตัว หยิบกล้องใส่เลนส์แล้วเยี่ยวต๊าชได้เลย เราคิดว่า อาจจะต้องมองหาเป็นเลนส์ในกลุ่มที่ซูมได้ ช่วงระยะกว้าง ๆ หน่อย

ช่วงมันจะเป็นหลักกว้าง ๆ หน่อยอย่าง 18mm ไม่ก็ 28mm แล้วไปจบที่หลักร้อยไปเลย ตัวอย่างเป็นตัวที่เราใช้ละกันคือ Sony E PZ 18-105 มม. F4 G OSS ตัวนี้คือแซ่บเลยละ เพราะมันสามารถที่จะซูมได้ตั้งแต่ 18mm ที่กว้างมาก ๆ แล้วไปได้ถึง 105mm เรียกว่า น่าจะครอบคลุมการใช้งานทั่ว ๆ ไปได้เยอะมาก ๆ แล้ว แต่หลาย ๆ คนอาจจะตกใจว่า โอ๊ะ F.4 มันจะได้เหรอ ถ่ายมาแล้วมันจะไม่มืดเหรอ แล้ว Bokeh มันจะได้เหรอ

เอาจริง ๆ เลยนะ มันได้นะ F.4 เรามองว่า ไม่แย่สำหรับการถ่ายแบบนี้เลยนะ งานทั่ว ๆ ไป สบาย ๆ ส่วนพวก Bokeh Effect อะ ต้องยอมรับว่า มันอาจจะยากหน่อย วิธีคือเราใช้ข้อดีของการมีช่วงที่แคบมาก ๆ อย่าง 105mm เราก็ซูมเข้าไปเยอะ ๆ แล้วเอาตัวแบบให้ห่างจากฉากหลังหน่อย เราก็ได้ Bokeh Effect แล้ว (ไว้เราจะมาเล่าว่า ถ่ายยังไงถึงจะได้สวย ๆ)

ของเทพ !!!!!!! เห็นแล้วหวั่นไหว อยากจะเข้าไปบายยยย

หรือในแก๊งค์พวก Full Frame ถ้าเป็นเลนส์สามัญประจำกล้อง เรายกให้เป็นเลนส์ในช่วง 24-70mm ไปเลย มีตัวเลือกเยอะมาก ๆ อย่างเราใช้ของ Sony เอง มันก็จะมี Sony FE 24-70 mm F2.8 GM ที่ราคาเดือดมาก ๆ แต่คุณภาพโหดสัส ๆ หรือลงมาอีกเลนส์ค่าย Sony เหมือนกัน ก็จะเป็น Sony Vario-Tessar T* FE 24-70 มม. F4 ZA OSS เป็นชิ้นเลนส์ Zeiss ไปเลย โหดสัส ๆ แต่ราคาก็ลงไปอีกเช่นกัน

หรือจะดอยไปนอกค่ายที่เราใช้ก็จะเป็น Sigma Lens 24-70 mm. F2.8 DG DN ( Art ) อันนี้บอกเลยว่า ถึงจะเป็นนอกค่าย แต่ก็เฟี้ยวมากเหมือนกัน โดยเฉพาะ ART Series ของ Sigma ขึ้นชื่อเรื่องความคม คมบาดตา บาดใจมาก ๆ ในราคาที่จับต้องได้ ก็ใกล้ ๆ กับ Zeiss ของ Sony แหละ

เดินถ่ายสวย ๆ ชิค ๆ

Olympus E5 Mark II + Olympus M.Zuiko Digital 17mm f/1.8

จุดนี้เราน่าจะมีเลนส์ช่วงกว้าง ๆ เลนซูม ยืนพื้นแล้ว จุดงอกจะออกละ เราอาจจะอยากได้เลนส์ที่เราเอาไปใช้เดินเล่น ถ่ายไปเรื่อย ๆ แนว Street หรือไม่ก็ออกไปเดินถ่ายรูปกับเพื่อนในสวนสวย ๆ การใช้งานประเภทพวกนี้ เราแนะนำให้มองหาเลนส์ที่มีน้ำหนักเบาที่สุดจะดีมาก เราไม่อยากแบกเลนส์เกือบโล กับกล้องออกไปเดินเล่นแน่นอน

ซึ่ง ก็อาจจะมองหาได้หมดนะ ทั้งเลนส์ฟิค และ ซูมก็ได้หมดเลย เรามองว่า ถ้าเรายังไม่เซียนมาก อาจจะเริ่มจากเลนส์ซูมก่อน แต่ช่วงอาจจะไม่ต้องยาวเท่ารอบแรกแล้ว มองหาเป็น 16-35mm เราว่ากำลังดีเลยคือ จะถ่ายวิว ก็ได้ช่วง 16mm กว้างมาก ๆ มายืนพื้น แล้วถ้าเราอยากได้ Portrait คน คนเดียว เราก็เดินเข้าใกล้แบบหน่อย สวนอะไรพวกนั้นใหญ่อยู่แล้วมีที่เดินเข้าอะไรแน่นอน  เราก็หมุนไป 35mm ได้เลย แล้ว 35mm อาจจะกว้าง เราก็เดินเข้าใกล้ ๆ แบบอีก เราก็จะได้ Bokeh Effect สวย ๆ ได้แล้วโดยที่เราไม่ต้องไปหาเลนส์ F กว้าง ๆ เลย F4 ยังเอาอยู่สบาย ๆ เลย

ตัวที่เราใช้อยู่ก็น่าจะเป็น Sony FE 35mm F1.8 เป็นอันที่เราชอบมาก ๆ ตัวนึงเลย มันเป็นช่วงที่ใกล้เคียงกับการมองเห็นเรามาก ๆ เวลาเรามองเห็นมุมดี ๆ เราแทบจะยกแล้วกดได้เลย ไม่ต้องเดินแก้อะไรเยอะ น้ำหนักมันไม่เยอะ ตัวเล็ก เวลาใส่เข้ากับกล้องแล้วมันไม่ได้ดูใหญ่เทอะทะไปหมด ยิ่งเอาไปใส่กับ Sony A6400 ยิ่งเล็กเข้าไปใหญ่เลย กับ F1.8 ก็ถือว่ากว้างมาก ๆ แล้วละ ถ่ายกลางวันก็อัด Shutter Speed ขึ้นหน่อย ยังไม่น่ากว้างขนาดต้องเอา ND Filter ช่วยหรอก ถ้าอยากได้ Bokeh โหด ๆ กลางคืน เราก็ได้ F1.8 ที่กว้างมาก ๆ ไม่กลัวแสงน้อยในเมืองเท่าไหร่

เลนส์ถ่ายเมีย ถ่ายแฟน

สำหรับสายพ่อบ้านทั้งหลายแล้ว การถ่ายคุณภรรเมีย และ แฟน ของคุณให้สวยเป็นเรื่องของความเป็นความตายเลยก็ว่าได้ หรือสำหรับเคสทั่ว ๆ ไปก็จะเป็นการถ่าย Portrait เอาจริง ๆ สำหรับเรา เราไม่ได้แคร์เรื่องระยะอะไรเท่าไหร่นะ แต่หลาย ๆ คนจะแนะนำให้ลองดูระยะ 50mm หรือ 85mm ดู มันอาจจะมีหลักการอะไรอยู่นะ แต่อันนี้ไม่รู้จริง ๆ

เท่าที่ได้ลองมา เราจะชอบระยะประมาณ 85mm ในการถ่ายมากกว่า เพราะมันจะเป็นระยะที่เราไม่ต้องเดินเยอะเท่าไหร่ เราอยู่ห่างแบบที่เราถ่ายปกติแล้วเราก็เปลี่ยนเลนส์ ยกกล้องแล้วแทบจะกดได้เลย มันน่าจะอยู่ประมาณครึ่งตัวพอดี ๆ พอระยะมันแคบ ส่วนนึง มันก็ทำให้เราโฟกัสไปที่แบบได้มากขึ้นด้วย นอกจากนั้น เรายังได้เรื่องของ Bokeh Effect ที่หลาย ๆ คนชอบได้ง่ายมาก ๆ เพราะระยะที่แคบมาก ๆ กับเลนส์พวกนี้ค่ารูรับแสง มักจะกว้างมาก ๆ เช่น F1.8 ลงไปยัน F1.0 ก็มีนะ

สำหรับของเราเองเลนส์ในกลุ่มนี้ที่เราใช้ เอาตัวดี ๆ ไปเลยเป็น Sony FE 85mm F1.4 GM ไปเลย เรียกว่าตัวดุไปเลย ก็คือเรื่อง Performance ความอลังเราว่า GM Lens ของ Sony มันไม่มีที่กังขาแล้วละ ความคมขั้นสุดยอด Bokeh กลมดิ๊ก แต่แลกมากับราคาอันเดือด ๆ เลยก็ว่าได้

แต่เรื่องนึงที่เรารู้สึกจากการใช้เลนส์ช่วง 50mm และ 85mm คือ เราไม่สามารถ Create มุมใหม่ ๆ ได้เยอะเท่าไหร่ เพราะมันแคบนี่แหละ ส่วนนึงอาจจะเป็นเพราะเราถ่ายพวกนี้ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ เราจะถนัดใช้ 35mm มากกว่า เช่น เราอยากถ่ายเสยขึ้น ให้ขาดูยาว เรารู้สึกว่า เรากด 85mm ไปมันแห้ง ๆ ยังไม่พอใจเท่าไหร่ ต้องฝึกอีกเยอะ

สาย Landscape

Sony A6400 + Sony E PZ 18-105mm F4 G OSS (Original)

อันนี้แหละ ถนัดเราเลย พวกนี้จะเน้นการถ่ายบรรยากาศ การเก็บบรรยากาศของพื้นที่เยอะ ๆ ดังนั้น เลนส์ที่เราแนะนำจริง ๆ จะเป็นเลนส์ที่ระยะตัวเลขน้อย ๆ หน่อย อย่างช่วง 16-35mm เาว่ากำลังดีเลย เป็นช่วงที่เดินอร่อย เดินมันส์มาก กดวิวได้เรื่อย ๆ เลย ถ้าเราไปเดินตามพวกตามสวนเก็บบรรยากาศคนวิ่ง ๆ ต้นไม้ที่อยู่ในสวน เราว่า ใช่เลย

ส่วนเลนส์พวกนี้ เราเฉย ๆ เรื่องค่า F เลยนะ F4 เราก็เฉย ๆ แล้วละ เพราะเอาเข้าจริงแล้วเราถ่ายในที่ ๆ มีแสงเยอะอยู่แล้ว เผลอ ๆ เราจะทำให้ F แคบลงด้วยซ้ำ เพื่อให้เราเก็บทุกระยะให้คมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

เลนส์ที่เราใช้ในกลุ่มนี้จะเป็น Sony Vario-Tessar T* FE 16-35 มม. F4 ZA OSS เป็น Zeiss อีกแล้ว แมร่งของดีจริง ตัว Body ก็ดีนะเป็นโลหะ ความคงทนโอเคเลย แต่ข้อเสียของเลนส์ตัวนี้คือ น้ำหนัก ล้วน ๆ เรามองว่า น้ำหนักมันแอบเยอะไปหน่อย โดยเฉพาะ ถ้าเราต้องเดินหาที่ถ่ายเยอะ มันจะเมื่อยคอมาก ๆ ในการห้อยไป

แต่ถ้าใครบอกว่า โอเค เราเป็นสายล่าช้าง อยากออกไปล่าทางช้างเผือกพวกนี้เราจะแนะนำเลนส์ที่กว้างเหมือนกัน แต่พวกนี้เราจะต้องกด F ให้กว้างมาก ๆ เพราะเราจะต้องเก็บแสงจากดาวที่มันลิบหรี่มาก ๆ ทำให้เราไม่ต้องดัน ISO สูงเมื่อเทียบกับ F ที่แคบกว่านั่นเอง ตัวอย่างพวก Sony FE 14mm F1.8 GM

กับอีกรูปแบบที่เราเห็นคนเล่นกันเยอะ แต่ไม่เคยใช้เองเหมือนกันคือพวกกลุ่ม Super-Tele ทั้งหลาย เช่น 200-700mm เช่นเราอาจจะถ่ายจากยอดเขานึงไปอีกยอดนึง หรือที่ชัด ๆ เลยคือพวก Cityscape บางแบบที่เราเอาเลนส์ช่วงยาว ๆ แบบนี้มาเพื่อ ดึงระยะ Background เพราะยิ่งเลนส์มันยาวขึ้น เวลาเราถ่ายออกมา ระยะ Background มันจะดูตื้นขึ้น กล่าวคือ ตึกข้างหลังที่มันห่าง ๆ กันมันจะดูชิด ๆ กันหน่อย ทำให้จุดโฟกัสสายตาเวลาเราดูรูปมันจะไปอยู่ที่ตึก หรือส่วนที่เราต้องการได้ง่าย พวกกลุ่มนี้เรามองว่า ไม่น่าจะมาอ่านพวกนี้แล้วละ เขารู้แล้วว่าเขาต้องการอะไรแล้ว

จัดเซ็ตกันเถอะ !

เลนส์ทั้งหมดที่เราเล่าไป น่าจะพอครอบคลุมการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้วละ ไม่นับพวกที่ถ่าย Macro หรือพวกไปดูนก ถ่ายกีฬา อะไรพวกนั้นมันจะมีเลนส์ช่วงที่คนปกติไม่ใช้กันเท่าไหร่ เป็นกิจกรรมที่คนทั่ว ๆ ไปไม่ได้ทำกันบ่อย เราข้ามไปละกันนะ

ทีนี้ถ้าเราบอกว่า เรามีเลนส์แล้ว เราอยากจะออกไปข้างนอก เราจะจัดเซ็ต เอาเลนส์ตัวไหนไปบ้างดี อันนี้ส่วนตัวเรามองว่า ขึ้นกับประสบการณ์ และ บรีฟ ของเราเลยว่า เราอยากจะถ่ายแบบไหน เรายกตัวอย่าง ช่วงนี้ของตัวเองเลยคือ ไปถ่ายรูปรับปริญญาละกัน

อย่างแรก การไปถ่ายพวกนี้เดินเยอะ และร้อนมาก ๆ ของมันก็เยอะอยู่แล้ว ทำให้ Requirement แรกคือ เอาไปให้เบา และ น้อยที่สุด โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว รูปพวกนี้ส่วนใหญ่ เราจะคุยกันอยู่ที่ตัวบัณฑิตซะเยอะ อาจจะมีกลุ่มเพื่อน ๆ ก็อาจจะหลายคนหน่อย หรืออาจจะถ่ายบัณฑิตคนเดียว มีคนเข้ามา Portrait มาละ

ทำให้เลนส์ตัวแรกเลยที่เราหยิบไปแน่ ๆ คือเลนส์ถ่ายคนพวก 50mm และ 85mm หยิบไปแน่ ๆ เราเห็นตากล้องบางคนก็ล่อ 105mm เลย เก่งชิบหาย !

อีกสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ น่าจะเป็นการถ่ายพร้อมกันหลาย ๆ คน ถ่ายเป็นกลุ่ม การใช้เลนส์ช่วง 50,85 และ 105mm น่าจะไม่ไหวแน่ ๆ ถอยยาวเลยนะ ทำให้เราอาจจะต้องติดเลนส์ที่กว้างหน่อยไปอีกตัว อาจจะเป็นช่วง 35mm เราก็ชอบ แต่เพื่อความปลอดภัยเราจะเอา 24-70mm ไปมันจะง่ายกว่า เพราะคุณภาพมันก็ได้ ช่วงมันก็มี 24 ที่ถ่ายกลุ่มใหญ่ ๆ ได้ แล้วสเกลลงไปได้เรื่อย ๆ จนก่อนถึง 85mm ที่ตอนนั้นเราก็จะเปลี่ยนเลนส์แล้ว

กับช่วงกว้าง ๆ อย่าง 24mm เราก็สามารถเอามาเล่นกับบัณฑิตคนเดียว เป็นพวกรูปที่เล่นกับสถานที่หน่อย เอาตัวคนใส่เข้าไปเพื่อการเล่าเรื่องหน่อย การใช้ช่วงเลนส์ที่กว้าง ก็จะช่วยเรื่องนั้นได้ดีมาก ๆ

บางคนอาจจะเอา Flash ไปด้วย แต่เอาเถอะ เราไม่ใช่สายนั้นเลยข้ามไปละกัน ใครใคร่ใช้ก็ใช้ไป ด้วยจำนวนเลนส์เพียง 2 ตัว แต่เราได้ช่วงตั้งแต่ 24-85 mm ไปเลย รองรับการถ่ายรูปที่น่าจะเกิดขึ้นได้เกิน 90% แล้วละ สบาย ๆ แทบจะไม่ต้องแก้สถานการณ์ Workaround ในการถ่ายเยอะละ เวลาถือ เราก็อาจจะเอากระเป๋าเล็ก ๆ สักใบ เอาเลนส์ใส่กล้องไว้ตัวนึงแล้วอีกตัวไว้เปลี่ยน พอละง่าย ๆ

สรุป

ทั้งหมดที่เราเล่ามา เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นเท่านั้นนะ ใครที่ใช้ไม่เหมือนกันอย่าเอาชั้นไปแขวนนะ เพราะเอาจริง ๆ แล้ว เราเองก็เอาเลนส์ 35mm มาถ่าย Portrait อยู่นะ มันขึ้นกับเทคนิค และความถนัดส่วนตัวแล้วละ การถ่ายรูปมันเป็นเรื่องของศิลป์ซะเยอะ ขึ้นกับเราจะเล่าเรื่องอะไรมากกว่า ก็เรียกว่า ขอให้ได้ ขอให้โดนเลนส์ละกันเด้อ สวัสดี

Read Next...

Apple M4 รุ่นไหนเหมาะกับใคร

Apple M4 รุ่นไหนเหมาะกับใคร

หลังจากเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน Apple ออก Mac รัว ๆ ตั้งแต่ Mac Mini, iMac และ Macbook Pro ที่ใช้ M4 กันไปแล้ว มีหลายคนถามเราเข้ามาว่า เราควรจะเลือก M4 ตัวไหนดีถึงจะเหมาะกับเรา...

Cloudflare Access ของดีขนาดนี้ ฟรีได้ไงวะ

Cloudflare Access ของดีขนาดนี้ ฟรีได้ไงวะ

จากตอนก่อน เราเล่าเรื่องการ Host Website จากบ้านของเราอย่างปลอดภัยด้วย Cloudflare Tunnel ไปแล้ว แต่ Product ด้าน Zero-Trust ของนางยังไม่หมด วันนี้เราจะมาเล่าอีกหนึ่งขาที่จะช่วยปกป้อง Infrastructure และ Application ต่าง ๆ ของเราด้วย Cloudflare Access กัน...

Mainframe Computer คืออะไร ? มันยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย ?

Mainframe Computer คืออะไร ? มันยังมีชีวิตอยู่ใช่มั้ย ?

ทุกคนเคยได้ยินคำว่า Mainframe Computer กันมั้ย เคยสงสัยกันมั้ยว่า มันต่างจากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันทั่ว ๆ ไปอย่างไรละ และ Mainframe ยังจำเป็นอยู่มั้ย มันได้ตายจากโลกนี้ไปหรือยัง วันนี้เรามาหาคำตอบไปด้วยกันเลย...

Infrastructure as Code คืออะไร ทำไมถึงสำคัญมากในปัจจุบัน

Infrastructure as Code คืออะไร ทำไมถึงสำคัญมากในปัจจุบัน

เคยมั้ยเวลา Deploy โปรแกรมสักตัว เราจะต้องมานั่ง Provision Infrastructure ไหนจะ VM และ Settings อื่น ๆ อีกมากมาย มันจะดีกว่ามั้ยถ้าเรามีเครื่องมือบางอย่างที่จะ Automate งานที่น่าเบื่อเหล่านี้ออกไป และลดความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้น วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ Infrastructure as Code กัน...