By Arnon Puitrakul - 30 ธันวาคม 2024
เป็นเวลากว่า 1 เดือนเต็ม ๆ แล้วที่เราได้ใช้งาน Macbook Pro 14-inch M4 Max ในการทำงานของเรา ความเห็นเราจะเปลี่ยนจากตอนที่เรารีวิวไปตอนแรกหรือไม่วันนี้เราจะมาบอกเล่าประสบการณ์ที่เราได้ใน 1 เดือนจาก Laptop เครื่องนี้กัน
จากเครื่องเก่าอย่าง M1 Max ตอนนั้นเราพบปัญหาเรื่องระยะเวลาการใช้งาน Battery ที่สั้นมาก ๆ ตอนแรก เราก็คิดว่า เราจะเจอปัญหาแบบเดียวกัน เพราะ SoC อย่าง M4 Max ก็กินไฟมหาศาลเมื่อเทียบกับ M4 แต่เอาเข้าจริง สถานการณ์มันดีกว่าที่คิดมาก ๆ หากเราใช้งานเขียนบทความเหมือนที่กำลังเขียนตอนนี้ และเข้าเว็บอ่านนั่นนี่ แบตสามารถอยู่ได้ 8 ชั่วโมงได้โดยไม่ต้องฝืนเลย ถือว่าเป็นอะไรที่ประทับใจมากจริง ๆ
หรือกระทั่งหากเราโหลดหนัก ๆ อย่างการตัด และ Export Video บน Final Cut Pro X จริง ๆ มันก็ยังพอให้เราสามารถตัดสัก 2 ตัว ความยาวตัวละ 20-30 นาที พร้อมกับทำ Thumbnail และ Upload ลง Youtube และ Facebook ได้อยู่นะ บอกเลยว่า ถ้าเป็นเครื่อง M1 Max ตอนนั้น เราว่าทำเสร็จสักวีดีโอ แบตน่าจะเหลือประมาณ 40% ได้เลยแหละ
บางวันที่เราทำงานหลายอย่างรวม ๆ กันตั้งแต่งาน Coding ที่รัน Docker Container ประมาณ 25-30 Container พร้อมกับเปิด DataGrip และ RustRover แล้วทำงานไปด้วย สักพักไปนั่งตัดวีดีโอ และเขียน Content วนไปเรื่อย ๆ ประมาณ 12 ชั่วโมง เครื่องบอกว่า เราใช้ Battery ไปแค่ วันละ 2 Cycle เท่านั้นเอง ถือว่าดีกว่าตัวก่อนหน้าแบบเห็นได้ชัดมาก ๆ
ส่วน Energy Mode ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่น 14 นิ้ว ส่วนตัวเราทดลองปรับเป็น High Performance ดูแล้ว ก็ไม่ได้รู้สึกถึงความแตกต่างในการใช้งานอะไรสักเท่าไหร่ ทั้งความลื่นไหลในการใช้งาน และการโหลดงานหนัก ๆ อย่างการ Train Neural Network Model และ Encode Video ก็ไม่มีผลอะไร เลยไม่แน่ใจว่า เราทำอะไรผิดหรือไม่
เรารู้สึกว่า Apple พยายามให้ความสำคัญกับความเงียบมากเกินไปหน่อย เพราะเวลาเราโหลดหนัก ๆ อย่างการ Render Video อุณหภูมิมันโดดไป 105 องศา จนมัน Throttling แล้ว เครื่องมันยังดันความเร็วพัดลมไม่เท่าไหร่เลย ต้องโหลดไปสักพัก มันถึงจะเริ่มดันขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องดีสำหรับประสิทธิภาพการทำงานเท่าไหร่ และต้องอย่าลืมนะว่า เราซื้อรุ่น Pro เราคาดหวัง ประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว การตั้ง Fan Curve ลักษณะนี้ เราคิดว่าไม่เหมาะสักเท่าไหร่ วิธีการแก้ไขคือ เราสามารถโหลดโปรแกรมสำหรับควบคุมรอบพัดลมมาใช้งานได้ โดยเราจะปรับรอบสูงสุดไปล่วงหน้าเลย แล้วค่อยโยนโหลดหนัก ๆ ใส่มัน
ส่วนการทำงานเบา ๆ อย่างการเข้าเว็บ และทำงานเอกสาร อุณหภูมิมันจะคุมให้อยู่ในช่วง 50-60 องศา เราแทบไม่ค่อยเห็นช่วงเวลาที่พัดลมจะไม่ทำงานเลย มันทำงานอยู่ในรอบเบาแทบตลอดเวลา ต่างจากตอน M1 Max ที่เราเห็นช่วงที่พัดลมไม่หมุนอยู่บ่อยมาก ๆ แต่ไม่ว่าจะเดินรอบเบา หรือไม่เดินเลย เรื่องที่น่าตกใจคือ ช่วงที่มันเดินเบา 2,000 กว่ารอบ เราไม่ได้ยินเสียงพัดลมเลย ดังนั้น มันจะเปิด หรือปิดพัดลมในช่วงทำงานเบา ๆ เราก็ไม่ติดอะไรมากเท่าไหร่
จากสเปก หน้าจอของ Macbook Pro มันได้ความสว่างใน SDR เพิ่มขึ้นมาอีก 400 nits เป็น 1,000 nits ที่ตอนแรก เราก็คิดว่ามันจะได้ใช้จริง ๆ เหรอ สุดท้าย เราก็จะเปิดอยู่ประมาณครึ่ง ๆ แถว ๆ นั้น แต่สุดท้าย ด้วยลักษณะการใช้งานของเราที่อยู่ในห้องสว่างมาก ๆ อีก 400 nits ที่เพิ่มเข้ามา ช่วยเราได้เยอะมาก ๆ โดยเฉพาะเวลาที่เรานั่งทำ Colour Grading งานวีดีโอ และความสว่างระดับ 1,000 nits ที่เคลมมา มันสูงมาก เราคิดว่า มันน่าจะทำได้สักพัก พอมันร้อนมันน่าจะลดความสว่างลงไป ปรากฏว่า ไม่ใช่แฮะ เราใช้งานต่อเนื่อง 6 ชั่วโมง มันดูเหมือจะไม่ลดลงเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ความสว่างเยอะมันก็มีข้อเสียเหมือนกัน ด้วยความเคยชินจากเครื่องเก่า ที่เรามักจะเปิดแสงเต็มตลอดเวลา มาในเครื่องนี้ เราก็ทำแบบนั้นเหมือนกัน ใช้ไปใช้มาไปสักชั่วโมงกว่า ๆ แสบตาเฉยเลย เรื่องนี้ เราว่าต้องโทษตัวเองแล้วละ
หน้าจอแบบ Nano-Texture ที่ตอนแรก เราคิดว่า ถ้าใครไม่ได้ไปใช้งานในที่แสงเยอะ ไม่น่าจะคุ้มเท่าไหร่ เราก็ยังคงยืนยันคำพูดนี้เหมือนเดิม แต่เรื่องที่เราพึ่งมารู้สึกคือพอมันเป็นจอด้าน ๆ จอสกปรกน้อยลงกว่าเดิมเยอะ ทำให้ใช้งานไปแล้วไม่รำคาญตา แต่กลับกัน เรารู้สึกว่า มันทำความสะอาดยากกว่าเดิม ส่วนนึงคือ เราไม่กล้าเช็ดแรง หรือลงน้ำยาด้วยแหละ มันเลยทำให้ทำความสะอาดยากกว่าเดิม
แต่เหนือสิ่งอื่นใด ขุมพลังที่ขับเคลื่อน Laptop เครื่องนี้คือ M4 Max ตั้งแต่เราใช้งานมา เราซัดมันเต็มที่เลย เราโยน Workflow ใหม่ ๆ ที่ M1 Max มันทำไม่ได้ โอเคแหละมันอาจจะมีช้า หรือตะกุกตะกักกุ๊ก ๆ บ้าง แต่ M4 Max มันเป็นไปได้ เช่นเมื่อไม่กี่อาทิตย์หลังจากเครื่องถึงมือ เรามีโอกาสเอา M4 Max ไปออก Field ทดสอบ Software สำหรับการทำ Downstream Analysis ตัวใหม่ที่เราเขียนขึ้นมา ที่ต้องบอกมันว่า มันกินเครื่องดุมาก ๆ ตอนพัฒนาเราเคยทดสอบกับ M1 Max ไปปรากฏว่ามันไม่ทันจริง ๆ เครื่องไม่ไหว แต่พอวันนั้นเราเอาไปรันกับ M4 Max โดยไม่ได้คาดหวังอะไร มันเอาอยู่เฉย เลยทำให้เราประทับในการทำงานมาก ๆ เราถึงกับพูดออกมาเลยว่า มันเป็นอนาคตของการทำ Mobile Genome Analysis System ได้เลยแหละ ไม่ต้องหา Internet เร็ว ๆ เพื่อ Upload ขึ้นไปทำงานบน Cloud แล้ว
ในฝั่งการทำงานทางด้าน AI เราทำงานสร้าง Model ขนาดใหญ่มาก ๆ บน Tensorflow และ In-House Library ที่เขียนจากภาษา C มันทำงานได้เร็วกว่าเดิมอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งการ Training ด้วย Prelim Dataset (เป็น Dataset ที่ซอยออกจาก Dataset จริง สำหรับการทดสอบบน Development Env เท่านั้น เพราะของจริงมันใหญ่มากจนต้องใช้ Cluster หรือ HPC ขนาดใหญ่ในการ Train) และ การ Inference เรื่องนี้ เราคิดว่า น่าจะมาจากประสิทธิภาพของ GPU ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาก เมื่อเทียบกับ M1 Max
ส่วนการทำงานด้านวีดีโอ เราเองไม่ได้รู้สึกอะไรมากเท่าไหร่ น่าจะเป็นเพราะ Timeline มันไม่ซับซ้อนมาก เรามีแค่ Colour Grading เพลง และ Effect ต่าง ๆ เท่านั้นเอง เวลา Render มัน GPU โหลดอยู่ราว ๆ 50-60% เท่านั้น เราเดาว่า มันน่าจะไปตันอยู่ที่ Media Encoder ว่า มันน่าจะทำได้เร็วแค่นี้ ส่วนเวลาในการ Render มันก็จริงแหละที่เร็วกว่าเดิม แต่เวลาที่ได้เพิ่มขึ้นมา มันไม่ได้ทำให้การทำงานเราเปลี่ยนเท่าไหร่ คือเราไม่ได้บอกว่ามันช้านะ มันเร็วชิบหาย แต่เทียบกับเครื่องเก่ามันต่างกันไม่เยอะมาก จนไม่รู้สึกว่ามันมีประโยชน์เท่าไหร่
โดยรวม เราประทับใจกับความเร็วในการทำงานที่เราได้เพิ่มขึ้นมา เทียบกับ M1 Max เวลาที่เราได้เพิ่มขึ้นมาในงานส่วนใหญ่ของเรา มันเยอะพอที่จะทำให้เครื่อง ๆ นี้คืนทุนได้เร็วขึ้นอย่างน่าประทับใจเลยละ
ผ่านไปกว่า 1 เดือนหลังจากการใช้งานอย่างหนักทุกวัน นี่แหละคนรักงาน 2024 ของจริง เราโยนโหลดขนาดใหญ่ ๆ ให้มันเยอะมาก ๆ มันมีบ่น ๆ บ้างแต่เทียบกับเครื่องเดิม M1 Max ที่ทำไม่ได้เลย ทำให้มันเป็น SoC Generation แรกที่เราจะกล้าแนะนำให้คนเปลี่ยนนับตั้งแต่ตอนที่ M1 Series ออกมา ยิ่งใช้ เรายิ่งตกใจในความสามารถของมันมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนตอนที่เราใช้ Macbook Air M1 แล้วทึ่งกับระยะการใช้งาน Battery โดยสรุป ถ้าถือ M1 Series และ มีโหลดงานหนัก ๆ การอัพเกรดมาเป็น M4 Series ถือว่าเป็นการลงทุนที่ไม่เลวเท่าไหร่เลย
เป็นเวลากว่า 1 เดือนเต็ม ๆ แล้วที่เราได้ใช้งาน Macbook Pro 14-inch M4 Max ในการทำงานของเรา ความเห็นเราจะเปลี่ยนจากตอนที่เรารีวิวไปตอนแรกหรือไม่วันนี้เราจะมาบอกเล่าประสบการณ์ที่เราได้ใน 1 เดือนจาก Laptop เครื่องนี้กัน...
เวลามันผ่านไปเร็วมาก ๆ เรายังจำวันที่ Macbook Pro M1 Max ของเรามาส่งที่บ้านได้อยู่เลยว่า เรารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เวลาผ่านไป 3 ปี หมดประกันเรียบร้อยแล้ว วันนี้เราจะมาเล่ากันว่า สภาพตอนนี้มันเป็นอย่างไร และยังจะสามารถใช้ได้อีกนานหรือไม่...
ไหน ๆ Apple Watch เข้าเลขสองหลักกันแล้ว มีหรือเราจะพลาด เพื่อเป็นการฉลองก็เลยจัดมาเลยเรือนนึง เป็น Apple Watch เรือนที่ 3 ของเราละ ผ่านมา 10 Series จะมีอะไรใหม่ ใส่แล้วเป็นอย่างไร วันนี้เราจะมารีวิวเล่าให้อ่านกัน...
จาก Part ที่แล้วเราเล่าไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่ยังขาดประเด็นสำคัญนั่นคือ Performance ของ M4 Max ว่า มันเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงาน หรือทำให้การทำงานของเราเร็วขึ้นได้อย่างไร วันนี้จะเน้น Benchmark และพยายามมาหาสาเหตุกันว่า ทำไมมันถึงเป็นแบบนั้นกัน...