Year in Review 2022 สวัสดี 2023

เวลาผ่านไปไวเหมือนกันนะเนี่ย ยังแอบรู้สึกว่าเหมือนยังไม่ผ่านครึ่งปีไปดีเลย อ่อ สิ้นปีแล้วเฉยเลย มา งั้นเรามาเล่าให้อ่านกันดีกว่าว่า ที่ผ่านมาในปี 2022 มันเกิดอะไรขึ้น และมันสอนอะไรเราบ้าง

รับปริญญาสักที

มาเริ่มที่ Event ใหญ่ในปีนี้เลย คือ งานรับปริญญา หลังจากที่เมื่อปีก่อนเราเล่าให้อ่านกันไปแล้วว่า เราเรียนจบปริญญาโทแล้ว แต่เพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เลยทำให้งานรับปริญญามันเลยโดนเลื่อนไปเฉยเลย แล้วตอนที่เรียนจบเลย ทำเรื่องจบแล้ว เราทำเรื่องแบบเกือบ Deadline เลย แล้วเห็นว่า เออ ปีนั้นน่าจะจัดได้แหละ เลยไปตัดชุดเลย ปรากฏเลื่อนมาเป็นปีนี้แทน ชุดก็คือ นอนอยู่ที่บ้านปีนึงไปเลยจ๊ะ ปีนี้ก็ได้เอาออกมาใช้จริง ๆ สักที

ส่วนตัวเราเป็นคนที่ค่อนข้าง Festive มาก ๆ กับทุก ๆ เทศกาลเลยก็ว่าได้ เช่น ปีใหม่ตอนนี้เองก็คือ ประดับไฟที่บ้านจนคิดว่าเป็นงานวัดไปแล้ว กับ ระบบในบ้านไฟ Lightstrip ในบ้านเรายังทำ Automation ต้อนรับปีใหม่เลย จะเห็นว่าเป็นคนที่ชอบเทศกาลมาก ๆ

และงานรับปริญญาก็เป็นอีกเทศกาลนึงที่เราสนุกมาก ๆ ยิ่งกว่านั้นเอง เมื่อปีก่อน ๆ ตอนที่เรายังเรียนไม่จบเวลาเราไปงานรับปริญญารุ่นพี่ รุ่นน้องแล้วก็แบบ เมื่อไหร่วะ เมื่อไหร่กูจะจบ จากไปยินดีเขา ชิบหายมากดดันตัวเองอี๊กกกก แต่ปีนี้ ของกรูแล้วค่าาาาาา

งานนี้เราว่า สิ่งที่หลาย ๆ คนทำกันก็คือ การถ่ายรูป เราเองก็เช่นกัน แล้วความที่เราเคยรับตอน ป.ตรีไปแล้ว เรากลับมาดูรูป ก็จะมีความอิหยังวะ ในบางรูป หรือบางอย่างที่เราอยากถ่ายแล้วไม่ได้ถ่าย เราก็เอามาเล่นกันรอบนี้เลย ก็คือ รูปในชุดครุย มีลงได้ถึงประมาณชาติหน้าเลย จบเอก เราว่ารูปก็ยังไม่หมด

นอกจากจะจัดอะไรยากแล้ว รูปนี้คือ ไปถ่ายที่คณะแล้ว Awkward แปลก ๆ ด้วย กลาง รพ 

ทำให้เราได้พวกสกิลการจัดการร่างกาย กับ ยิ้ม มากขึ้น ปกติ เป็นคนชอบถ่ายรูป แต่ไม่ค่อยถูกถ่ายเท่าไหร่ ทำให้ไม่รู้ว่าจะต้องทำหน้า ทำท่าทางอะไรยังไง พอไปถ่ายพวกนี้เยอะ ๆ เข้า มันก็เริ่มรู้แล้วว่า มันต้องหมุนอะไรยังไง เรียกว่า เรียนรู้มากขึ้นละกัน

ยังไม่นับว่า เป็นมนุษย์ที่รู้จักคนไปทั่ว แบบไปทั่วจริง ๆ ทำให้ในเทศกาลนี้คนกลุ่มนี้ก็จะมาถ่ายรูปกับเราไปหมด แน่นอนว่า อีนี่ก็คือสนุกจัด เห้ยไม่ว่างวันนั้นไม่เป็นไร เดี๋ยวเอาชุดไปหาว่ามาวันไหนเลย อะ มัน สนุก จริง เจ้า ค่ะ

รูปถ่ายออกมา คนอื่นแต่งให้ไม่ถูกใจอีก ด้วยความที่เราก็ถ่ายรูป เราก็เลยจะมีฟิล ๆ แบบภาพในใจตอนที่เรายืนถ่ายอยู่แล้วแหละว่า เราอยากให้รูปมันมี Mood & Feel ประมาณไหน แล้วเราก็เอามาทำเอง ซึ่งบางครั้ง ตากล้อง อาจจะคิดไม่เหมือนเรา เลยทำเองซะเลย เอาที่เราชอบ เอาที่เราอยากได้ อย่างที่เราบอกไปว่า เราไปถ่ายเยอะมาก ๆ รูปก็คือ กองเป็นพัน ต้องมานั่งเลือก แล้วก็แต่งเองหมด

แต่งเอง ก็ไม่ได้ทำเล่น ๆ มันมาเต็มเจ้าค่ะ ทำสี ลบรอยตรงนั้นตรงนี้ รูปนึง เราว่า เราใช้เวลากับมันไม่ต่ำกว่า 15 นาทีแน่นอน ทำให้รูปออกมาได้ถูกใจมากหลาย ๆ รูปจริง ๆ เอาจริง ๆ นะ ทำแล้วเริ่มสนุก จนอยากไปรับถ่ายรูปเลย

งานไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง

นอกจากงานจะยุ่งแล้ว ยังมีตัวยุ่ง ที่ไม่ใช่ของชั้นนน ลูกน้องชั้นนน

พอเรียนจบออกมา ด้วยความที่ตอนนั้นโอกาสมันเข้ามา เราเลย เออ หยุดเรื่องเรียนต่อแล้วมาเปิดบริษัทไปก่อน และด้วยเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างทำให้บริษัทมันก็ไม่ได้เป็นไปแบบที่หวังเลย ในเรื่องของคน และ หลาย ๆ อย่างประกอบกัน

ทำให้สุดท้าย เราก็ลดขนาดมาทำเองดีกว่า น่าจะสบายใจกว่า เรียกว่า ทำเอาเราเสียศูนย์ไปอยู่หลายเดือนเหมือนกัน เพราะว่า ตอนนั้น เราก็มองไปไกลแล้วนะว่า ภาพมันจะเป็นยังไง แล้วอยู่ ๆ ภาพพวกนั้นมันก็ค่อย ๆ เปลี่ยน ค่อย ๆ หายไปเรื่อย ๆ จนภาพที่เคยคิดไว้มันไม่เหลืออยู่เลย แต่เอาเถอะ เราว่า ชีวิตมันก็แบบนี้แหละ มันก็มีล้ม ๆ ลุก ๆ นี่แหละ

พวกเรื่อง Course ต่าง ๆ ก็ต้องหยุดชั่วคราวเพราะเรื่องบริษัทตอนนั้น และ เรื่องที่เสียศูนย์ไปด้วยแหละ เลยทำให้งานหลาย ๆ อย่างที่ควรจะออกมา เช่น Course เอง เรา Plan ว่าปีนี้จะออกสัก 4-5 Course ก็ไม่ได้ออกสัก Course เลย.... ก็เรียกว่า เสียใจได้ แต่ก็ต้องลุกขึ้นมา กับเก็บเรื่องที่เกิดขึ้นไว้เป็นบทเรียนเลยละกัน เราว่าเรื่องการทำธุรกิจ มันไม่ได้เป็นเรื่องง่ายขนาดนั้น มันมีเรื่องของจังหวะเวลา คน และ โอกาสที่เข้ามาหาเรา หน้าที่ของเราก็คือ เมื่อมันเข้ามาแล้ว เราจะทำยังไงให้ของพวกนี้มันพาเราไปได้ไกลที่สุด รอดูกันละกันว่า มันจะเป็นยังไงต่อ แต่ปีหน้าสนุกแน่นอน น่าจะพอออก Course กับ Product ใหม่ ๆ ออกมา เจอกันได้

รับบทนาง Content Creator อยู่แหละ

พอเราเสียศูนย์จากเรื่องบริษัทอะไรหลาย ๆ อย่าง เราก็เอาเวลามาลงกับเว็บ arnondora ที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่มากขึ้น จะสังเกตว่า ช่วงหลัง ๆ เราลง Content เป็นเวลามากขึ้น ทุกวันจันทร์ พุธ และ ศุกร์ เวลา 4 โมงเย็น ก็ไปติดตามได้นะ ฮ่า ๆ

ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีนะ ที่เราสามารถลง Content เป็นเวลาได้แล้ว เป็นเรื่องที่เราพยายามทำมาหลายปีมาก ๆ แต่ก็ล้มเหลว ปีนี้เป็นปีแรกเลย ที่ทำได้เลย รู้สึกดีใจมาก ๆ อาการพวก Content หมด หรือหมดไฟกับเรื่องนี้ ปีนี้กลายเป็นว่า เราไม่เจอเลยด้วยซ้ำ

มันกลายเป็นว่า เราสนุกกับการเขียน Content มาก ๆ จนทำให้ได้ Sponsor เข้ามาหลาย ๆ เจ้าอย่างที่ทุกคนเห็นในบทความรีวิวต่าง ๆ ต้องขอขอบคุณ Sponsor ทุกท่านเลยที่ให้ความไว้วางใจให้เรามารีวิวสินค้าของทุกคน

พอมีลูกค้าเข้า ทำให้เราเลยมีเวลามานั่งวิเคราะห์เรื่องของ Content ว่า แบบที่เราเขียนอยู่มันโอเค หรือ ไม่โอเดตรงไหน ทำให้หลาย ๆ ครั้ง เราว่า น่าจะสังเกตกันได้ว่า รูปแบบของ Content เราจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ นั่นคือ เรากำลังทดลองอยู่ว่า แบบไหนดี แบบไหนไม่ดีอะไรแบบนั้น แอบสนุกกับการทดลองอะไรแบบนี้นะ จากเดิมที่วิธีการเขียนของเราจะเดิม ๆ มันก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปทำให้เราสามารถเขียนได้หลาย ๆ รูปแบบมากขึ้น ถ้าชอบหรือไม่ชอบแบบไหนลอง Comment มาบอกกันหน่อย เผื่อจะได้ลองปรับ ๆ

ในปีหน้าก็เหมือนเดิมฮะ เราก็จะมี Content สนุก ๆ เข้ามาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ไปลองอะไรใหม่ ๆ เรียนรู้เรื่องใหม่ ๆ ไปด้วยกันทุก ๆ วัน

Better Well-being, Sleep Well

จากปีก่อน เราบอกว่า ปีนี้เราอยากจะจัดการเรื่อง Work Life Balance ให้ดีขึ้นหน่อย ปีนี้เราบอกเลยว่า เป็นปีที่เราว่า เราจัดการเรื่องพวกนี้ดีมาก ๆ เลยนะ อาจจะเพราะงานมันไม่ได้เยอะด้วยมั้ง ทำให้เราไปโฟกัส กับเรื่องของการพักผ่อนได้มากขึ้น ได้นอนดีขึ้น

สิ่งที่มันตามมา ที่เราเห็นได้อย่างชัดเจนเลยคือ เราว่าเราทำงานได้มากขึ้น ไอเดียต่าง ๆ มันพุ่งกระชูดอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างที่เราบอกไปเรื่องที่เราไม่รู้สึกว่า หมดไฟกับการทำ Content เลย เราไม่รู้นะว่า มันเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ด้วยมั้ย

แต่มันก็มีช่วงที่บริษัทมันมีปัญหานั่นแหละ ที่แอบเครียดมาก ๆ รู้ตัวเลยว่าเครียดมาก ๆ จนนอนไม่หลับ บางคืนคือไม่ได้นอนจริง ๆ ก็ลองไปหลาย ๆ วิธีในการจัดการความเครียด ส่วนนึงเป็นเพราะเราเป็นพวก Perfectionist ด้วยแหละ พอเรามีภาพในหัวแล้วมันพังทลายเราจะไม่ชอบมาก ๆ หรือเรื่องง่าย ๆ อย่างการทำตาม Schedule ถ้าเกิดแบบมีเหตุการณ์อะไรสักอย่าง หรือใครสักคนทำให้มันไม่ได้เป็นไปตาม Schedule นั้นเราจะหงุดหงิดมาก แล้วมาเจอแบบ Long-Term Goal ของเรามันพังในไม่กี่ปี ก็คือ แบบ โหยยยย เดือดอยู่เหมือนกัน

เครียดอยู่หลายเดือน สิ่งที่ตลกคือ บทมันจะหายคือมันหายจริง ๆ นะ เหมือนพอเราอยู่ในโพรงนั้นสักพัก รู้สึกได้ว่า เอ๊ะ นี่กูอะไรเนี่ย เรื่องแค่นี้คือ Down เลยเหรอวะ เลยแบบเอาแรงตรงนั้นแหละ ลุกกลับขึ้นมาได้ เออ งง ไปเลย จริง ๆ เราว่า อาจจะเป็นเพราะเรามี Mindset แปลก ๆ ว่า ทั้งชีวิตนี้เราไม่เคยเลือกอะไรง่าย ๆ เลย แล้วที่ผ่าน ๆ มา มันก็ทำได้ตลอดนะ เออ เดี๋ยวก็ทำได้ เดี๋ยวก็ผ่านไปได้ เสียใจได้ เสียใจเสร็จแล้วก็ต้องลุกขึ้นมาต่อนะเว้ย ฟิล ๆ แบบนั้น เลยเป็นคนที่พูดว่าทำไม่ได้ แต่คำนี้มันไม่ได้ทำให้เราท้อหายไปเลย แต่มันฟิล ๆ แบบ พักหน่อย เดี๋ยวก็ทำได้

นั่ง ๆ คิดอยู่นะ ถ้าเราเป็นพวกตัวละครในเรื่อง Psycho-Pass นะ เราว่า เราก็น่าจะอยู่รอดได้แหละ มันก็มีจังหวะที่เครียด แต่มันก็ฟื้นได้แบบ งง ๆ แปลก ๆ แต่ก็อะ เออ ดีหวะ

ปีหน้าทำอะไรต่อดี ?

เราว่า สิ่งที่เราเก่งมาก ๆ คือ เรารู้ตัวแล้วว่า ทั้งชีวิตนี้เราอยากทำอะไร มี Long-Term Goal คืออะไร ทำให้สิ่งที่เราจะทำก็คือ ปูทางไปยังตรงที่เราคิดไว้นี่แหละ อาจจะไม่ได้ในช่วงเวลานี้ แต่ก็สักวันจะได้แหละมั้งนะ ฮ่า ๆ

ทำให้ในปีหน้า เรื่องแรกเลยคือ เราอยากให้เว็บนี้มันไปไกลมากกว่านี้อีก มี Content เยอะขึ้น มีคุณภาพมากขึ้น มีความสนุกมากขึ้น โดยที่ยังไม่ทิ้งความเป็นเราไป อันหลังนี่แหละสำคัญมาก ๆ เพราะเว็บนี้มันก็เกิดจากเราเอง เขียนในแบบของเราเอง เลยไม่อยากเสียจุดสำคัญตรงนี้ไป

เรื่องของงานเอง เราว่า เรากลับมาเต็ม ๆ ละ หลังจากเสียศูนย์ ก็อาจจะได้เห็น Product ใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ พร้อมกับ Course ที่วางแผนว่าจะทำตั้งแต่ปีนี้แต่ก็ล้ม พับหยุดชั่วคราวไปก็จะกลับมาในปีนี้แน่นอน รอกันได้เลย เห็นหลายคนเรียกร้องกันเข้ามาเยอะมาก ๆ

อีกเรื่องที่เข้ามาคือ การเรียนต่อ พอเกิดเหตุการณ์กับบริษัทอะไรหลาย ๆ อย่างเลยทำให้เราคิดว่า เราอยากจะกลับไป Routing คล้าย ๆ เดิมคือการไปเรียนต่อเอกเลยนี่แหละ คือกลัวหมดแรงเรียนแค่นั้นแหละ เลยคิดว่าปีนี้ก็อาจจะเริ่มหาที่เรียน แล้วก็เตรียมสอบอะไรหลาย ๆ อย่างให้เรียบร้อย ปีนี้ถ้าบริษัทมันเคลียร์ได้ ปีหน้าก็จะได้ไปเรียน ไปสร้างเวรสร้างกรรมใหม่สักที

สั้น ๆ นะ ชั้น ควร หยุด แดก ขอบคุณค่าาาาาาา

และเรื่องชีวิตเอง เราก็ว่า ปีหน้า เราอยากจะไปโฟกัสเรื่องของการออกกำลังกาย และ การกินให้มากขึ้น อยากลดน้ำหนัก เพราะตอนนี้บอกเลยว่า อ้วนแล้ว จากเมื่อก่อนเป็นคนผอมนะ กลายเป็นออกหน้า ออกพุงแล้วค่าาา ไม่ได้แล้วปะ เลยว่าจะลองออกกำลังกายให้บ่อยขึ้นกว่าเดิมหน่อย อาจจะเริ่มจากเดินอะไรพวกนั้นก่อน จริง ๆ แอบคิดถึงไปเดินวิ่งมาราธอนแล้วนะ อยากลองสักครั้งในชีวิตเหมือนกัน เราว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการออกกำลังกายที่ดีละมั้งนะ

สรุป : ปีแห่งการล้ม ๆ ลุก ๆ ติดลูป

ต้องยอมรับเลยว่า ปีนี้เป็นปีแรกเลยนะ ที่รู้สึกว่า มันมีจังหวะช๊อตฟีลเยอะมาก ๆ ทำให้ภาพที่คิดไว้มันหายไปในพริบตา ปัญหาที่เข้ามาหลาย ๆ เรื่อง ยอมรับเลยว่า เป็นจุดที่เราไม่โอเคมาก ๆ ทำเอาน๊อตหลุดมาเยอะมาก ๆ อาจจะเพราะเราขาดประสบการณ์ด้วยแหละ เลยทำให้ดีลเรื่องพวกนี้ได้ไม่ดีเท่าไหร่ ส่งผลไปเรื่องของสุขภาพในหลาย ๆ เรื่องอยู่เหมือนกัน แล้วมันเกิดแบบนี้วน ๆ อยู่หลายรอบมาก ๆ นึกว่าติด Infinity Loop ซะแล้ว แต่เอาเถอะ ตอนนี้เราว่า เราน่าจะเริ่ม Move on จากปัญหาหลาย ๆ อย่างมากขึ้น ปีหน้า ก็มาลองกันใหม่ ดูว่า เวลา โอกาส และ ชีวิตของเราจะพาเราไปเจอกับเรื่องบ้าอะไรอีก เรื่องพวกนี้วันนี้ที่เราเจอมันอาจจะทำให้เราท้อ จนบางครั้งแมร่งกลัวไปเลย แต่เชื่อเถอะ เวลาผ่านไปหลังจากนี้ เรากลับมามองมันอีกครั้ง เราก็คงจะมองว่า เห้ย เรื่องแค่นี้เองแหละ มันผ่านไปได้แน่นอน ไม่งั้นปัญหาที่ผ่านมาเราจะผ่านมันมาได้ยังไง ตอนนั้น เราก็ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์เหมือนกัน แต่เราก็รอดมาถึงวันนี้ได้นิหว่า แล้วทำไมรอบนี้ที่ฟิล ๆ เดียวกันเราจะไม่ได้วะ สู้เขาสิวะอีหญิง

และสุดท้ายเหมือนกับ Year in Review ของเราทุกปีคือ เราแนะนำให้ทุกคนลองรีวิวปีนี้ของเรากันว่า เราเจออะไรมาบ้าง มันทำให้เราเรียนรู้อะไรจากมัน และ ปีหน้าเราจะทำอะไร เป็นเหมือนกับการ Recap ปีนี้ย่อ ๆ เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ และ ปรับปรุงให้ดีขึ้นไปอีกในปีหน้า กับมันเป็นเหมือนสมุดบันทึกความเป็นเราในแต่ละปี เมื่อเราย้อนกลับมาอ่าน มันก็จะเห็นว่า เราเก่งขึ้น เราโตขึ้นไปในทุก ๆ ปี และสุดท้าย ก็สวัสดีปีใหม่ต้อนรับปี 2023 กันด้วยนะครับ