คนอยู่ดีกินดี ออกกำลังกาย ไหงแตกเป็นมะเร็งได้
เมื่อหลายวันที่ผ่านมาเราเห็นผ่าน ๆ ในเฟสบุ๊คว่า คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ กินดีอยู่ดี สุดท้ายเป็นมะเร็งซะได้ ไหงงั้น พอเข้าไปอ่านใน Comment ก็คือ อ้าวเหรอคะ อยู่ดีขนาดนี้เป็นได้ยังไง บ้างก็ว่าเป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม บ้างก็ว่า เป็นเรื่องของวิญญาณเข้า ดวงตก ปวดหัวเลยทีเดียว วันนี้เราจะลองมาดูกันว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้
มะเร็งเกิดจากอะไร ?
ถ้าเราไปถามหลาย ๆ คน ก็อาจจะตอบว่า นี่ไง เพราะแก สูบบุหรี่เลยทำให้เป็นมะเร็ง ไม่ก็ดื่มหนัก แต่เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ตัวมะเร็งเลยมันเกิดจาก ความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายของเรา
จริง ๆ แล้ว ในตัวของเราเอง เซลล์ ก็จะมีวงจรชีวิตเป็นของตัวเอง คือการถูกสร้างขึ้นมา จนไปถึงมันทำงานตามหน้าที่ และ ก็ตายจากไป เช่นเม็ดเลือดแดง ก็จะมีอายุประมาณ 110-120 วันแถว ๆ นั้น ทำให้มันก็ต้องมีการสร้างเม็ดเลือดแดงขึ้นมาทดแทนเรื่อย ๆ นั่นเอง
แต่ปัญหาคือ เมื่อมีการสร้างเซลล์ใหม่ ก็มีโอกาสที่การสร้างอาจจะผิดพลาดบางอย่าง ทำให้โปรแกรมที่อยู่ใน DNA มันเกิดทำงานผิดพลาดขึ้นมา โดยปกติแล้ว ร่างกายของเรา เขาก็ฉลาดที่จะ Overcome ปัญหาเหล่านี้ ด้วยการมีกระบวนการในการทำ DNA Repair ก็คือการซ่อมแซม DNA ให้อยู่ในสภาพที่ถูกต้อง หรือถ้ามันซ่อมไม่ไหวแล้วก็อาจจะทำลายเซลล์อันนั้นไปเลย ก็แล้วแต่อีกว่า จะทำอย่างไร มันก็จะมีกระบวนการของมัน
ถึงธรรมชาติของคนจะอยู่มานานขนาดไหน ทุกระบบมีช่องโหว่เสมอ ทำให้บางครั้ง เมื่อมันมีความผิดพลาดเกิดขึ้น ส่วนนึงร่างกายเราอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ หรือรู้แล้วจัดการแล้ว แต่เอาไม่ลง มีแค่ลิฟท์เท่านั้นแหละที่จะเอาลง ทำให้มีเซลล์ที่ผิดปกติอยู่ในระบบของเรา โดยที่เซลล์ที่ผิดปกติพวกนี้ มันอาจจะเติบโตได้อย่างรวดเร็ว, หยุดโตไม่ได้ และ สร้างความผิดพลาดในการแบ่งเซลล์ไปอีก
ความผิดปกติตรงนั้นบางครั้ง มันก็ไม่ได้ทำอะไรเรา มันก็อยู่ของมัน (Benign) เช่นเนื้องอกทั่ว ๆ ไป แต่ความผิดปกติบางครั้ง มันเกิด แล้วสร้างความชิบหาย ด้วยการไม่คุมการเจริญเติบโต มันก็จะโตไปเรื่อย ๆ แพร่ไปเรื่อย ๆ (Metastasis) แล้วไปรุกรานอวัยวะอื่น ๆ ระบบอวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายของเราจนมันไม่สามารถทำงานได้เป็นปกตินั่นเอง
Gene แบบไหนพังแล้วน่าจะเป็นมะเร็งได้ ?
เอาให้ลึกเข้าไปหน่อย โดยส่วนใหญ่แล้ว มะเร็ง จะเกิดเมื่อมันมีความผิดปกติบน 3 Gene กลุ่มใหญ่ ๆ คือ Proto-Oncogenes, Tumor Supressor Genes และ DNA Repair Genes บางครั้งเราจะเรียกกลุ่ม Gene พวกนี้ว่า Drivers of cancer
Proto-Oncogenes เป็นกลุ่มของ Gene ที่เราพบได้ตามปกตินี่แหละ แต่มันเป็น Gene ที่มักจะทำให้เกิดมะเร็งได้เมื่อมันเกิดความผิดปกติ เวลาเราจำ เราจะจำว่ามันเป็น Gene ที่ไม่แข็งแรง โดนนิดโดนหน่อย แตก ทำให้เกิดมะเร็งได้
Tumor Suppressor Genes (TSG) เป็นกลุ่ม Gene ที่ทำให้หน้าที่ในการควบคุมการเจริญเติบโต และ แบ่งตัวของเซลล์ ทำให้การเกิดความผิดปกติใน TSG ขึ้น ก็อาจจะขาดขาในการควบคุม DNA บางส่วนที่แตกอยู่แล้ว ไม่มีคนควบคุมก็แตกไปเลยนั่นเอง
DNA Repair Gene เป็นกลุ่ม Gene ที่ทำให้ที่ในการซ่อมแซม DNA ที่มีความผิดปกติ ดังนั้น เมื่อเกิดความชิบหาย ความผิดปกติใน Gene นี้ ก็อาจจะทำให้ส่วนนึงคือ กลไกในการซ่อมแซมพังไปได้เลย หรือ ทำให้เกิดความผิดปกติใน Gene อื่น ๆ มากขึ้นอีก เพราะมันเข้าใจผิดว่า อันนี้พัง ทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้พังอะไรเลย มันก็ไปซ่อมอยู่นั่นแหละ เลยทำให้เป็นอีกส่วนเกิดความผิดปกติ จนกลายเป็นมะเร็งในที่สุดได้
พันธุกรรมของเรามีผล แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
อย่างที่เราบอกว่า มะเร็ง มันเกิดจากความผิดปกติของ DNA หรือพันธุกรรมของเรา แล้วได้รับการถ่ายทอดมาให้รุ่นต่อ ๆ ไป ทำให้เวลาเราไปคัดกรองมะเร็งหลาย ๆ ชนิด เราจะโดนถามว่า มีพ่อแม่ พี่น้องเรามีประวัติการเป็นมะเร็งมั้ย นี่แหละคือเหตุผล ทำให้พันธุกรรมของเรามีผลแน่นอน
แต่ ถามว่า อ้าว แล้วถ้าเราได้รับการถ่ายทอดทางพันธุกรรมที่ทำให้เป็นมะเร็งได้แล้ว ทำไมเกิดมาแล้วไม่เป็นมะเร็งเลย ทำไมมาเจอตอนโต หรือแก่แล้วละ เราจะบอกว่ามันก็มีนะหลาย ๆ เคสที่เกิดมาแล้วเจอมะเร็งเลย แต่หลาย ๆ เคสที่เราเจอกันส่วนใหญ่ไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว
Two-Hit Hypothesis
สาเหตุที่ทำให้ถ้าเราได้รับการถ่ายทอดความผิดปกติที่เป็นมะเร็งแล้วจะไม่เป็นมะเร็ง เป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนสงสัยมาก ๆ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสมมุติฐานว่า การที่เราจะเป็นได้ เราจะต้องมี 2 จุดการเปลี่ยนแปลง ถึงจะทำให้เกิดได้
ส่วนนึงก็คือ อาจจะเกิดมาพร้อมกับความผิดปกติ 2 จุดเลย ทำให้เกิดมาแล้วเป็นมะเร็งไปเลย กับอีกเคสคือ อาจจะได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมมา มีความผิดพลาดในนั้นแหละ ถือเป็น 1st Hit แล้วได้รับการกระตุ้นบางอย่าง เลยทำให้เกิดความผิดพลาดเป็น 2nd Hit ขึ้นมา ทำให้แตกนั่นเอง
หรือมองกลับกัน เราอาจจะไม่ได้มีความผิดปกติ แล้วเราอาจจะได้รับสารกระตุ้นบางอย่างทำให้เกิด 1st Hit ขึ้นมา แต่มันยังไม่ได้แตกทั้ง 2 จุด เลยยังไม่เจอ นั่นแหละมันก็ตอบพวกคำถามที่ว่า อ้าว แล้วทำไม คนที่สูบบุหรี่มันทุกวันเลย ทำไมถึงไม่เป็นอะไรเลย เมื่อเทียบกับคนที่แค่เดินผ่านทุกวันก็แตกแล้ว
ดังนั้น ถ้าเราคิดง่าย ๆ เลยนะ มันเลยมี 2 ด้านด้วยกันคือ DNA ของเรา และ สิ่งแวดล้อมที่อาจจะไปกระตุ้นอีกที ทำให้บางคนที่อาจจะออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินดีอยู่ดี กินอาหารเป็นเวลาครบ 5 หมู่ ก็อาจจะเป็นมะเร็งได้ เพราะความผิดปกติมันอยู่ใน DNA แต่ถามว่าเกิดจากการพ่อแม่ให้มามั้ย หรือได้รับสารบางอย่างไปกระตุ้น ทำให้พวกสารที่ไปกระตุ้นต่าง ๆ เราเรียกว่ามันเป็นปัจจัยเสี่ยงละกันที่ทำให้โอกาสในการเป็นมันสูงขึ้น มันไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงซะทีเดียว
เราจะป้องกันไม่ให้เราเป็นมะเร็งอย่างไร ?
เอาจริง ๆ คือมันไม่มีอะไรที่ป้องกันได้ 100% หรอก อย่างที่เราคุยกันมาว่า ส่วนนึงมาจากความผิดปกติในพันธุกรรมของเรา นั่นเราน่าจะแก้อะไรไม่ได้แล้วละ เพราะเราเกิดมาแล้ว ถ้าเชื่อเรื่องชาติหน้า ก็ตายแล้วเกิดใหม่แล้วคาดหวังว่าจะไม่มีอะไรที่น่ากลัวแล้วละมั้ง ทำให้มันเลยเหลืออีกขาคือ สิ่งแวดล้อม คนเราเลยไปเน้นในเรื่องของการได้รับสารก่อมะเร็งต่าง ๆ
ทำให้การป้องกันที่เรามักจะเจอกันคือ การทำยังไงก็ได้ ให้เราได้รับสารก่อมะเร็งให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ที่เขาบอกกันว่า งดบุหรี่ งดเหล้า และ ออกกำลังกาย อะไรนั่นแหละ เป็นการลดความเสี่ยงในขาข้างนึงของการเป็นมะเร็งได้ พอมันกันได้ด้านเดียว แล้วถ้าเรามีความผิดปกตินี้แต่เกิดอยู่แล้ว กันยังไง ถ้าเกิดสมมุติว่า ไม่มีอะไรไปกระตุ้นมันเลยนะ แล้วเกิดวันนึงเราแก่ไป อีกจุดเกิดขึ้นเพราะเราอายุเยอะแล้ว เราก็จะแตกทันที
แต่พวกการกินฉี่ การทำอะไรแปลก ๆ คือพักเลยนะ หลัก ๆ คือ ทำให้ร่างกายเราแข็งแรง กินอาหารครบ 5 หมู่ ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ งดสารที่อาจจะทำให้เกิดได้เช่น บุหรี่ และ เหล้าเบียร์ พวกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กับลดการได้รับรังสี UV อาจจะทาครีมกันแดด อย่างถูกต้อง กางร่มอะไรก็ว่ากันไป แต่ที่สำคัญ อย่าลืมเข้าไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ ยิ่งถ้ามีความเสี่ยงสูงก็ยิ่งควรตรวจบ่อยเข้าไปอีก หากเจอ จะได้เจอในระยะต้น ๆ การรักษาก็จะง่าย โอกาสหายเป็นปกติยิ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ