AI คืออะไร ?

Artificial Intelligence หรือ AI ถือว่าเป็น Talk of The Town เป็น Buzz Word เป็นมันทุกอย่างในช่วงนี้ คือถ้าใครออก Product อะไรมาแล้วไม่พูดคำนี้ออกมา ก็จะขายไม่ออกเลย เราก็แบบ วอท เดอะ แฮก

เรารู้สึกเลยว่า มันใช้กันพร่ำเพื่อเกินไปจริง ๆ นะ จนบางที มันก็นะ ดูแล้วไม่น่าเชื่อถือสำหรับเรา แต่มันกลายเป็นตัวสร้างความ ว้าว และ ความน่าเชื่อถือของเขาไปซะงั้น เออ อิ ชั้น งง มาก เจ้า ค่ะ

วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่า จริง ๆ แล้ว AI มันคืออะไรกันแน่

AI คืออะไร ?

จริง ๆ แล้ว AI หรือ Artificial Intelligence มันไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่อะไรเลย เพราะมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1956 แล้ว แต่ที่มันพึ่งมาบูมระเบิดเทิดเทิง ก็เพราะ จำนวนข้อมูลที่เรามีเยอะขึ้น (ส่วนที่เยอะที่สุดก็น่าจะเป็น UGC หรือ User Generated Content), พลังการประมวลผลที่เยอะขึ้น และ Algorithm ที่ดีขึ้น เลยทำให้บูมขึ้นมา

AI จริง ๆ แล้วมันก็คือ ศาสตร์นึงที่พยายาม ที่จะเลียนแบบ ความฉลาด ขึ้นมา เหมือนที่เราเด็ก ๆ เราไม่รู้อะไรเลย แต่พอเห็นพ่อแม่เราทำอะไรบางอย่าง เราก็พยายามที่จะเลียนแบบแล้วทำตาม ต่างจากเครื่องเมื่อก่อนที่มันไม่สามารถคิดเองได้ เราต้องโปรแกรมมันอย่างเดียว พูดง่าย ๆ คือ เราพยายามสอนให้เครื่องคิดได้เหมือนคน

AI เอามาทำอะไรบ้าง ?

AI ถามว่าเอามาทำอะไรบ้าง เอาแบบ ไม่โม้เหม็น ก็ถือว่ามีเยอะมากเลยทีเดียว ไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องของคอมพิวเตอร์อย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อนละ เพราะมันถูกนำไปใช้กับหลายแวดวงมาก ๆ เช่น การแพทย์ที่ มีการเอาพวก Computer Vision และ Deep Learning มาใช้ในการประเมินเคส และ Pathology ต่าง ๆ เยอะแยะมากมาย

หรือถ้าเอาที่มันดังมาก ๆ ก็คือพวก Self-Driving Car ที่เราชอบบอกว่ารถขับเองอะไรนั่นแหละ เบื้องหลังของมันก็คือ AI ที่ต้องเรียนรู้ว่า รถขับยังไง ต้องหยุดตอนไหน เหยียบคันเร่งเมื่อไหร่ เหยียบเบรกเมื่อไหร่ เพื่อให้ผู้โดยสารปลอดภัยที่สุดนั่นเอง

อีก Application นึงที่น่าสนใจมากคือ การที่เราเอาพวก AI มาช่วยในการตัดสินใจในการทำธุรกิจต่าง ๆ เช่น การประเมินความพึงพอใจของลูกค้าใน Social Media ที่มันมีข้อมูลเยอะมาก คนอ่านไม่ไหว ถ้ามีเครื่องที่อ่านแล้วเข้าใจภาษาคนได้ มันก็จะช่วยได้มากในการมานั่งอ่านข้อความ ความคิดเห็นเหล่านี้

นี่ก็คือเรื่องที่เราว่า น่าจะเป็นการเอา AI มาใช้กันเยอะแยะไปหมด จริง ๆ แล้วมันมีเอาไปใช้หลายอย่างมากมาย จนนน่าจะเรียกได้ว่า อยู่ในทุกสาขาอาชีพเลยก็ว่าได้ และแน่นอนว่า มันก็ยังต้องการ การพัฒนาต่อไป ทั้งในเรื่องของ ทฤษฏีต่าง ๆ ที่เป็นหน้าที่ของนักคอมพิวเตอร์ และ ตัวข้อมูลเองที่ต้องมาจากคนที่เก็บมา

AI ไม่ใช่ทุกอย่าง พูดแล้วไม่ได้ทำให้เท่ขึ้น 300%

จากที่เราไปงานต่าง ๆ เจอหลายเจ้าที่ออกมาบอกว่า เฮ้ย ๆ แก นี่นะชั้นใช้ AI ในการทำโน้นนี่นั่น เราเองฟังแล้วก็คือ ฮัลโหล แก มันไม่ได้จำเป็นมั้ยอะ คือบางอย่างมันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น แต่เราว่า ที่ทำแบบนั้น เพราะ ผู้บริโภคเองหลายคนที่เหมือนกับถูกฝังหัวมาแล้วว่า การมี AI = เทพ นั่น มันไม่ใช่ความจริงเลย เผลอ ๆ จะ Overengineer แล้วก็ทำให้ก่อปัญหาหลาย ๆ อย่างเข้ามาในระบบ

ดังนั้น ในฐานะของนักพัฒนาเราไม่อยากให้ใช้ AI เพราะความว้าวซ่า แต่เราอยากให้ใช้เพราะมันต้องใช้มากกว่า โอเคแหละ ณ ตอนนี้สายตาที่คนมอง มันอาจจะทำให้แย่ไปหน่อยสู้กับตลาดไม่ได้ แต่ถ้าเราทำให้คนเข้ามาใช้ แล้วเราสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีอะ ระบบตอบโจทย์ ยังไงเขาก็น่าจะต้องซื้อของเราอยู่แล้ว อย่าลืมว่า AI ไม่ใช่ทุกอย่าง

หรือในฐานะผู้บริโภคเอง เราควรที่ไตร่ตรองก่อนจะ ว้าว ไปตามที่เขาบอกโน้นนี่นั่นมา บางทีการมี AI อาจจะโม้เหม็นเพื่อเป็นการทำตลาดก็ได้ จริง ๆ ดังนั้นก่อนจะว้าว เราก็ควรจะพิจารณาก่อนที่จะมาว้าว ๆ อะไรกันได้ขนาดนั้น

สรุป

AI เอาตามนิยามมันก็คือ การที่เราทำให้เครื่องมันมีความฉลาด หรือ คิดอะไรเองได้โดยที่เราไม่ต้องไปโปรแกรมมัน ซึ่งมันถูกเอาไปใช้ในหลาย ๆ อย่างมาก ๆ ตั้งแต่เราตื่นนอนยันเรานอนอีกวันเลย ซึ่งในฐานะของนักคอมพิวเตอร์เอง ก็เห็นว่าสิ่งนี้มันจะถูกพัฒนาไปเรื่อย ๆ จนทำให้เราหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เลยจริง ๆ