มันจะไม่มีอีกแล้วหมาล่าแดง ๆ กับ Sudan Red
เราอ่านข่าวเจอเรื่องการที่ไตหวันพบการแพร่ระบาดของการผสมสีอย่าง Sudan Red ลงไปในเครื่องปรุงต่าง ๆ โดยเฉพาะพริก และพวกผงหมาล่าที่นำเข้าจากประเทศจีน วันนี้เราจะมาเล่าให้อ่านกันว่า สรุปแล้วเรื่องมันเป็นอย่างไร และ สีเจ้าปัญหาอย่าง Sudan Red มันเป็นอันตรายต่อมนุษย์อย่างไร
เรื่องของเรื่องคือ ???
เรื่องมันเริ่มจากว่า ไตหวัน เขาตรวจเจอสารก่อมะเร็งอย่าง Sudan Red ในพวกสินค้าพริกป่นที่นำเข้าจากจีน เมื่อทาง อย ของไต้หวันตรวจสอบลึกลงไปอีกพบว่า มันไม่ใช่แค่เจ้านี้ แต่มีพริกป่นจำนวนมากที่นำเข้าจากจีนแล้วปนเปื้อน Sudan Red
ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็น Sourcing ให้กับ Chain ร้านอาหาร และขนมชื่อดังหลาย ๆ เจ้าด้วย ทำให้ตอนนี้ อย ของไต้หวันออกคำสั่งให้ผู้ผลิตที่ใช้พริกที่ปนเปื้อนสาร Sudan Red เรียกคืนสินค้าของตนกลับไป และร้านอาหารได้ยกเลิกเมนูที่มีปัญหาเป็นการชั่วคราวแล้ว
เรียกว่าเป็นอะไรที่ถือว่าน่าตกใจมากพอสมควรเลยทีเดียว เพราะต้องยอมรับว่า ไต้หวันเอง ก็เป็นประเทศที่บริโภคพวกพริกป่นไม่น้อยเลย มักอยู่ในมื้ออาหารแทบทุกมื้อตั้งแต่ ในโรงเรียน จนไปถึงร้านอาหารทั่วไป และบ้านคนเราเอง ยังไม่นับว่า หากมันเป็นสินค้า มันสามารถส่งออกไปยังประเทศอื่นได้ เช่น Hsia Wei Hsien ที่เป็นขนมข้าวเกียบกุ้ง ที่เรียกว่า ไปไต้หวันก็คือซื้อกลับมาฉ่ำ ก็ไม่รอดนะ เลยทำให้ มันไม่ได้เป็นแค่เรื่องภายในประเทศ แต่ยังส่งผลกระทบถึงการจับจ่ายของนักท่องเที่ยวในการซื้อของกินที่มีส่วนผสมของพริกป่นกลับไปด้วยเช่นกัน
ด้วยความที่มันพบในสินค้าที่นำเข้าจากจีน และไทยเราเองก็นำเข้าพวกเครื่องปรุงบางอย่างจากจีนด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นน่าจะเป็นพวกผงพริกหม่าล่าอะไรพวกนั้นด้วย คงบอกได้แค่ว่า สำหรับผู้ประกอบการไทย อาจจะต้องระวังเรื่องการนำเข้าของที่ปนเปื้อน Sudan Red และสารต้องห้ามอื่น ๆ ด้วย
Sudan Red คืออะไร ?
Sudan Red เป็นสารสังเคราะห์ตัวหนึ่งที่ให้สีแดง ปกติเรามักจะใช้ในงานอุตสาหกรรมในพวก การให้สีวัตถุต่าง ๆ เช่น การให้สีแดงในพลาสติกเป็นต้น รวมไปถึงการใช้เป็นตัวทำละลายได้อีกด้วย คือมันมีประโยชน์นะบอกก่อน โดยตัว Sudan Red เอง เขามีทั้งหมด 4 ตัวคือ Sudan I, II, III และ IV เช่น Sudan III เขาผสมลงไปในน้ำมันรถเพื่อให้แยกตามประเภทน้ำมันได้ง่าย
พอตัวมันเป็นสีแดง งานนี้แหละอะไรที่เป็นสีแดงใส่กันฉ่ำ และสิ่งที่ว่านั่นน่าจะหนีไม่พ้นสินค้าทางการเกษตรอันหนึ่งอย่าง พริก เพราะต้องยอมรับว่า ราคารับซื้อต่าง ๆ มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยทั้งเรื่องความชื้น การเก็บรักษา แต่เรื่องที่สำคัญเห็นตั้งแต่แรกคือ สีของมัน นึกภาพว่า ถ้าเราไปซื้อพริกป่นที่มีสีแดงสวย กับสีซีด ๆ แน่นอนว่า เราก็อยากได้อันที่สีสวยมาก ๆ กว่าแน่นอน ทำให้ผู้ผลิตบางคนก็จะเติมพวกสีผสมเข้าไป ซึ่งมันก็มีทั้งสีที่กินได้ และ สีที่กินไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือ Sudan Red
ณ วันที่เขียนนี้ สี Sudan Red ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 3 หรือ ไม่สามารถจำแนกได้ว่าเป็นการก่อมะเร็ง ตามการจัดกลุ่มของ International Agency for Research on Cancer (IARC) หรือพูดง่าย ๆ ว่าเรายังมีข้อมูลไม่พอที่จะสรุป แต่.... ถ้าเราดูจาก IARC จริง ๆ Evaluation Year มันย้อนกลับไปในปี 1987 หรือเกือบ ๆ 40 ปีที่แล้ว ข้อมูลมันแอบเก่าไปหน่อย เราไม่รู้ว่าวิธีการทดสอบในสมัยนั้นมันแม่นยำ หรือมีข้อโต้แย้งด้วยเทคโนโลยีการทดสอบในปัจจุบันหรือไม่อย่างไร แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม มันเป็นการนำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์อยู่ดี ซึ่งนั่นนำไปสู่ความเสี่ยงต่อสุขภาพของผู้บริโภคก็เป็นได้
เราจะตรวจสอบได้อย่างไรว่ามี Sudan Red อยู่ในอาหารที่เรากิน
พูดตรง ๆ เลยว่า ยากมาก เพราะเอาเข้าจริง ตาคนเราแยก Sudan Red จากสีจริง ๆ ของพริกไม่ออก 100% แน่นอน เพราะอย่าลืมนะว่า สมมุติเราซื้อพริกป่นมาสักถงหนึ่ง เราเห็นว่ามันเป็นสีแดง ๆ หรือ แดงเข้มหน่อย ถามว่า นี่คือแดงของอะไร แดงจากพริกจริง ๆ หรือ การใส่ Dye หรือสีอื่น ๆ ไม่ว่าจะมีเป็นสีที่กินได้ หรือสีที่กินไม่ได้เช่น Sudan Red นี้กัน
หากเราต้องการตรวจสอบการปนเปื้อนจริง ๆ เราจำเป็นต้องทำในห้องปฏิบัติการที่สามารถทำ LC-MS (Liquid Chromatography Mass Spectrometry) หากกำลังคิดว่า ของที่โอเคจะต้องมีค่าความเข้มข้นของ Sudan Red เป็น 0 อยู่ละก็ มันไม่จริงขนาดนั้น เพราะเอาเข้าจริงเราหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนได้ยากมาก ๆ แต่..... เราลดปริมาณมันได้ ทำให้เมื่อทดสอบออกมา มันอาจจะมีการปนเปื้อนอยู่บ้าง ซึ่งมันจะไม่น่าเกิน 10 ppb เท่านั้น
What's Takeaway?
เราว่ายังโชคดีที่ไต้หวันตรวจเจอ ทำให้ผู้คนเริ่มมีความตระหนักรู้ และ ตื่นตัว กับภัยอันตรายที่อาจจะอยู่ในขนม หรืออาหารที่เรากินในชีวิตประจำวันได้ จากข้อมูลที่มีในปัจจุบัน เรายังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะบอกได้ว่ามันเป็นสารก่อมะเร็ง 100% แต่มันไม่ได้หมายความว่า มันปลอดภัยด้วยเช่นกัน ทำให้การบริโภค Sudan Red เข้าไปไม่ว่าจะน้อยหรือมากนั้นก็ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางสุขภาพได้เช่นกัน ในมุมของผู้บริโภคเราอาจจะต้องระมัดระวังการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่มาจากจีนมากขึ้น และ ผู้ประกอบการเองก็เช่นกัน ต้องเช็คพวก Supplier ของตัวเองให้ละเอียดขึ้นมาก ๆ เพราะขนาด Chain ร้านอาหารใหญ่ ๆ ในไต้หวันเองก็ยังแตกไม่รอดด้วยเช่นกัน