รีวิว Sony ECM-M1 โคตร Shotgun Microphone อเนกประสงค์ ได้หมดจบทุกงาน

ถ้าใครติดตามเรามาก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า เราใช้พวก Wireless Microphone สำหรับถ่ายในห้องที่นั่งห่างจากกล้องไม่มาก มันเสียเวลาในการ Setup สูง ตั้งแต่ ต้องมานั่งเสียบไมค์เข้ากล้อง ลืมเปิดเสียงไม่มา ต้องติดไมค์กับตัว ไม่ชอบการมีไมค์เข้ามาอยู่ในฉากด้วย เลยคิดถึง Shotgun Microphone ซึ่งตัวอื่นมันยุ่งยากในการ Setup เหมือนกัน ต้องเสียบ ต้องชาร์จแบตสารพัด จนมาเจอ Sony ECM-M1 ที่เป็น Shotgun Microphone ที่แค่เสียบก็ใช้งานได้เลย

แกะกล่อง

กล่องของ Sony ECM-M1 มาในสไตล์อุปกรณ์เสริมของกล้องจาก Sony คือ เป็นกล่องกระดาษแข็ง ที่ใช้สีส้ม และ ลายจุดเล็ก ๆ สีขาว ด้านหน้าเป็นสีขาว ที่เขียนชื่อรุ่นไว้เสร็จคือ ECM-M1 และบอกว่าเป็น Shotgun Microphone และโลโก้ที่ทำให้เราซื้อคือ MI หรือ Multi Interface Shoe และ Digital Audio Interface มันคืออะไร เดี๋ยวเรามาเล่ากันอีกที

ด้านหลังเป็นพวกรายละเอียดทั้งหลาย ถ้าเราซื้อจาก Shop ประเทศไทย เขาจะมีสติ๊กเกอร์ศูนย์ไทย ในที่นี้ เรากดจาก Shop สาขา Paragon จุดพีคของเรื่องนี้คือ เรากดมาในราคา 7,890 บาท จากราคาเต็ม 13,000 บาท เท่ากับว่า ลดไป 40% นิด ๆ คุ้มแล้ว

ด้านข้างทั้งหมด เขาทำมาเป็นสีส้ม ตามสไตล์กล่องอุปกรณ์กล้อง Sony (ถ้าเป็นเลนส์ รอบกล่องจะเป็นสีส้ม แต่กล่อง GM เป็นสีดำ) มีเขียนพวกสิ่งที่มีในกล่อง แต่โดนสติ๊กเกอร์ของศูนย์ไทยอยู่ ก็ผ่านไปละกัน

อีกข้างนึง เป็นการบอกสรรพคุณของ Microphone นี้ สิ่งที่เจ๋งคือ มันสามารถปรับ Polar Pattern ตัวมันได้ถึง 8 แบบ เป็นอะไรที่ฟังครั้งแรก คือ ไอ้นี่แหละ มันแก้ปัญหาของ Shotgun Microphone ที่เราเจอมาได้ดีมาก

เปิดกล่องมา จะเห็นว่า เขามีการแบ่งกล่องออกเป็นสองส่วนด้วยกันคือ ส่วนที่เป็นขาว ๆ และ ส่วนที่เป็นผ้าดำ ๆ ความรู้สึกแรกคือ มีแค่นี้เองเหรอ ฮา ๆ

เห็นส่วนขาว ๆ เดาไม่ยากคือ Paperwork ทั้งหลาย ซึ่ง ถ้าใครเคยใช้ Sony มา น่าจะรู้กันดีว่า คู่มือเอย Paperwork ฉ่ำ แน่นอนว่า เราข้าม ไม่อ่าน เก็บลงกล่องไป

และอีกตัวคือ ถุงผ้าสีดำ เป็นถุงผ้าบาง ๆ จับแล้วไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เราคิดว่า มันออกแบบมาให้บาง ๆ เบา ๆ ด้านล่างซ้ายมีแถบเขียน Sony ด้วย และด้านบน เราสามารถดึงเชือกมาเพื่อผูกปิดถุงได้

ในถุงไม่มีอะไรมาก นอกจากตัว ECM-M1 และ ที่เห็นขน ๆ คือ Dead Cat หรือที่กันลม ไม่ให้ลมเข้าแล้วเสียงมันอู่อี้ฟังไม่รู้เรื่อง เออ สงสัยนะ ทำไมเขาเขียนว่า แมวตาย มันเหมือนแมวตายจริง ๆ เหรอ

Sony ECM-M1

Sony ECM-M1 เป็น Shotgun Microphone ขนาดเล็ก ตัวท๊อปจาก Sony ตัว Body มีขนาดกะทัดรัด ทำจากพลาสติกสีดำด้าน อาจจะมีคราบรอยนิ้วมือมัน ๆ ติดได้ ขนาดของมัน สามารถเอาไปใส่กับกล้องขนาดเล็กยังไม่ดูใหญ่เทอะทะไป คิดว่าเป็นขนาดที่ดีมาก ๆ

ด้านบน เป็นรูสำหรับ Microphone โดย ECM-M1 เขามาพร้อมกับ Microphone คุณภาพสูงถึง 4 ตัว ที่เมื่อทำงานพร้อมกับการทำ Beamforming ทำให้เราสามารถปรับวิธีการรับเสียงได้ถึง 8 แบบด้วยกัน เรียกว่า เราพกเจ้านี่อันเดียว เหมือนเราพก Microphone ที่มี Polar Pattern ต่างกัน 8 ตัวเลยทีเดียว

ที่สำคัญ Microphone ตัวนี้เชื่อมต่อได้ง่ายมาก ๆ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า Multi Interface Shoe หรือย่อ ๆ คือ MI Shoe เราจะเห็นว่า ที่ Connector มันไม่ได้เป็นแค่พลาสติกหรือโลหะธรรมดา แต่มันเป็นขั้วที่สามารถส่งข้อมูลได้จริง เป็นเทคโนโลยีของ Sony เอง นั่นทำให้เวลาเราเชื่อมต่อ Microphone นี้กับตัวกล้อง เราไม่จำเป็นต้องเสียบสายเลย เราแค่เสียบเข้าไปใน MI Shoe และทุกอย่างจะพร้อมใช้งานโดยทันที ไม่ต้องเปิด ไม่ต้องชาร์จแบต ไม่ต้องเปลี่ยนถ่านใด ๆ It's just work! แค่นั้น

ในเมื่อขั้วมันสามารถส่งข้อมูลได้ และ ค่อนข้างเล็ก ถ้าฝุ่นมาเกาะ หรือ แพคเดินทางมันอาจจะทำให้ Connector เสียหายได้ เขาเลยมีเหมือนจุกมาให้ เมื่อเราใช้เสร็จ ไม่ได้เชื่อมต่อกับกล้อง เราก็แค่เอาจุกนี่มาเสียบกลับเข้าไปเท่านั้นก็เรียบร้อยแล้ว

และเมื่อเราใช้งานอยู่ เพื่อไม่ให้จุกที่เสียบกล้องหาย เราก็แค่เอามันมาเสียบกับจุกของ Microphone เท่านั้นเอง ถ้าหายจะได้หายไปพร้อมกัน หยอก ๆ

อย่างที่บอกไว้ การเชื่อมต่อทำแค่ เสียบเข้าไปใน MI Shoe เท่านั้นเอง เวลาแกะให้ระวังหน่อย เพราะมันค่อนข้างแน่นมาก ๆ

และเพื่อความแน่น ไม่หลุดง่าย ๆ เขามีข้อสำหรับหมุนเพื่อให้มันมาจับกับกล้องได้แน่นมากขึ้น ซึ่ง เราอยากให้ระวังนิดหน่อย เพราะเราเกือบทำมันพังละ มันแน่นเกินไป

ด้านข้างขวา เป็น Switch ปรับโหมด Analog และ Digital เพราะไม่ใช่กล้อง Sony ที่มี MI Shoe ทุกตัวจะสามารถ Passthrough เสียงแบบ Digital ให้กับกล้องได้ เขาจะมี List อยู่ว่ารุ่นไหนรองรับการทำงานแบบ Digital และรุ่นไหนทำงานแบบ Analog เท่านั้น ซึ่งรุ่นที่รองรับแบบ Digital มันจะส่งสัญญาณกลับไปที่กล้องแบบ Digital เลย ทำให้ลดการตัดทอนคุณภาพที่อาจจะเกิดขึ้นจากการแปลง Analog เป็น Digital กลับไปมา 2-3 ครั้ง แต่กล้องที่ไม่รองรับให้เราดันไปที่ Analog มันจะส่งกลับไปเป็นสัญญาณแบบ Analog และค่อยให้กล้องแปลงเป็น Digital เหมือนเดิม

ข้างซ้าย เป็นส่วนสำหรับการปรับ Filter และ Attenuation ของเสียงที่เข้ามา โดย Filter เราจะเลือกปรับได้เป็น Noise Cancelling และ Low Cut Filter ส่วนการปรับ Attenuation เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้มันรับที่ปกติ คือ 0 dB, 10 dB และ 20 dB ปกติเราจะปรับไว้ที่ 10 dB น่าจะครอบคลุมการทำงาน พื้นฐาน ๆ โดยที่ไม่ต้องมายุ่งกับมันมาก

ด้านหลัง เป็นส่วนควบคุมการทำงาน เกี่ยวกับ การจัดการ Polar Pattern ที่เป็น Highlight ของ ECM-M1 เลยทีเดียว และ ด้านล่างเป็นส่วนการปรับ ระดับเสียง

การปรับระดับเสียง เราสามารถปรับได้จากไมค์โดยตรงได้โดยการหมุนที่ Knob เพื่อลดเวลาในการเข้าถึงการตั้งค่าต่าง ๆ แต่เรายังสามารถให้ตัวไมค์และกล้องเลือกให้เราเองได้โดยการเลื่อน Audio Level Switch ไปที่ Auto ได้เลย

มาถึงโคตร Highlight ของ ECM-M1 เลยนั่นคือ การปรับ Polar Pattern ที่อาศัยการใช้งาน Beamforming Microphone Array ที่อยู่บนหัว 4 ในการสร้าง Polar Pattern ทั้งหมด 8 แบบ สำหรับการทำงานที่หลากหลาย และ ยืดหยุ่น โดยเราสามารถเลือกได้โดยการบิดหมุนเลือกแบบที่เหมาะกับแต่ละสถานการณ์ได้ทันที

เพื่อป้องกันโอกาสที่มือเราไปโดนทำให้ Polar Pattern เปลี่ยนโดยไม่ได้ตั้งใจ เขาทำปุ่มมา เมื่อเรากดเข้าไป มันเป็นการล๊อคไม่ให้เราเปลี่ยน Polar Pattern และสามารถปลดล๊อคได้โดยการกดปุ่มอีกครั้ง เหมือนกับ EV Knob ใน Sony A7IV

8-in-1 Microphone

อย่างที่เล่าไปว่า ความเจ๋งมันอยู่ที่การปรับ Polar Pattern ได้ถึง 8 แบบ ตั้งแต่ Ultra-directional ที่จะรับเสียงด้านหน้าในมุมแคบ ๆ สำหรับพูดคนเดียว หรือ Vlog ได้แบบสบาย ๆ ทำให้เสียงรอบข้างหายไป เหลือเพียงแค่เสียงที่เราต้องการเท่านั้น หากต้องการกว้างกว่านั้นสามารถกดเป็น Super-directional และ Uni-directional หากต้องการกดรอบทิศเลย เช่นเก็บเสียงบรรยากาศธรรมชาติ พร้อมกับเสียงพูดด้วย สามารถเลือกเป็น Omni-directional รอบทิศทางกันไปเลย กับมี Super-directional สำหรับรับเสียงแค่จากด้านหลังเท่านั้น เช่น เราไปทำ Vlog มีการถ่ายบรรยากาศไปพูดไปด้วย ทำให้ถ่ายออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ล่นเวลาในการที่เราต้องไป Voiceover เพิ่มเอา และยังเสียเสียงบรรยากาศไปอีก และ 2 โหมดสุดท้ายคือ Super directional คืออัดเสียงหน้าหลังเข้ามา เช่นไปสัมภาษณ์คน แล้ว มีผู้สัมภาษณ์อยู่ด้านหลัง และ ผู้ถูกสัมภาษณ์อยู่ด้านหน้า การเลือกแบบ Super directional จะเก็บเฉพาะเสียงผู้พูดได้หมดเลย ซึ่งเขามีทั้งแบบที่อัด 2 ด้านผสมกันเป็น 2 Ch เลย หรือ เก็บแยกเป็นคนละ Channel ไป ทำให้เวลาเราไป Post-Production มันจะง่ายขึ้น เช่น เสียงผู้ถูกสัมภาษณ์เบา เราก็อาจจะเพิ่มเสียงใน Ch ของผู้ถูกสัมภาษณ์ และ ปล่อย Ch ของผู้สัมภาษณ์ไปก็ได้ มันเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงานให้สูงขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

การใช้งาน

การใช้งาน และ การ Setup ทำได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่เสียบเข้าไปที่ MI Shoe เท่านั้นและเปิดกล้องขี้นมา ไม่ต้องเปิด ไม่ต้องเสียบสายอะไรทั้งสิ้น และไมค์ตัวนี้ ไม่มีช่อง Monitor ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะมันประมวลผลเป็น Digital เป็นค่าเริ่มต้น หากต้องการใช้ Monitor เราต้องไปเสียบช่อง Monitor ของกล้องเอา

เมื่อเราเปิดกล้องขึ้นมา ในที่นี้กล้องที่เราใช้คือ Sony A7IV เขารองรับ Digital Audio Interface และเราดัน Switch ไปที่ Digital อยู่ มันจะขึ้นคุณภาพเสียงมา โดยค่าเริ่มต้นคือ 48 kHz/ 16 Bits 2 Channel

โดยเราสามารถเข้าไปปรับ คุณภาพเป็นสูงสุด 48 kHz/24 Bits ได้ เพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงสุด และยังเป็นการอัดเสียงเข้ามาแบบ Digital พวก Filter ที่เราปรับทั้งหมด ก็เป็น Digital Filter ด้วยเช่นกัน ทำให้เรามั่นใจได้เลยว่า คุณภาพเสียงนั้นจะไม่ถูกลดทอน ตั้งแต่ที่ Microphone จนถึงกล้อง และ อัดลง Card เลยทีเดียว หมดปัญหาเรื่องการประมวลผลสัญญาณ Analog

และ เรายังสามารถปรับเป็น 48 kHz/ 24 Bits 4 Ch โดย 2 Ch แรก เป็นการอัดเสียงตาม Polar Pattern ที่เราเลือกเอาไว้ แต่แน่นอนว่า บางครั้ง เราอาจจะตั้งผิด ไม่ว่าจะเป็น Polar Pattern ที่มีเยอะมาก หรือ พวก Attenuation ต่าง ๆ และอีก 2 Ch เป็น Safety Ch ที่จะอัดเสียงแบบ Omnidirectional ทั้งหมด ทั้ง +0dB และ -20dB เพื่อป้องกันทั้งการปรับ Polar Patern ผิด และ เสียงที่อาจจะดังเกินไป โดยเราสามารถเอาเข้าโปรแกรมตัดต่อที่เราใช้งานสลับแต่ละ Channel ตามใจชอบได้เลย ถือว่าเป็น Feature ที่ Microphone สมัยใหม่ทำได้ และ เราคิดว่ามันดีมาก ๆ

หากเรานำไปใช้กับกล้องที่ไม่รองรับ Digital Audio Interface เช่น Sony A6400 มันจะขึ้นมาบอกเลยว่า อุปกรณ์เสริมนี้ไม่สามารถใช้งานกับกล้องของเราได้ หากเจอแบบนี้ให้เราปรับ Switch ไปที่ Analog ก่อน

เมื่อเราปรับไปเป็น Analog แล้ว เกจเสียงก็จะขึ้นมาตามปกติ แต่เราจะสังเกตว่า ตัวเลขคุณภาพพวก Sampling Rate และ Bit Depth หายไป นั่นเป็นเพราะ Microphone เขา Output ออกมาเป็น Analog Signal เหมือนกับที่เราเสียบสายไมค์เข้าตามปกติ หรือก็คือ Microphone อัดมาเป็น Digital เหมือนเดิมแหละ แต่แค่ว่า มันโดนแปลงเป็น Analog ก่อนแล้วค่อยส่งให้กล้อง แล้วค่อย แปลงกลับเป็น Digital ที่กล้องอีกครั้งเพื่อบันทึกลงในการ์ด ทำให้ อาจจะ มีการสูญเสียคุณภาพ หรือมี Noise ต่าง ๆ รบกวนระหว่างตอนที่เป็น Analog ได้

และไม่สามารถตั้งค่าอะไรได้ทั้งนั้น ทำได้เพียงแค่ การเปิด และ ปิด การอัดเสียงเท่านั้น ดังนั้น เราแนะนำว่า หากจะนำมาใช้ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรเป็นกล้องที่รองรับ Digital Audio Interface จะดีกว่ามาก ๆ

สรุป

Sony ECM-M1 เป็น Shotgun Microphone ที่เราคิดว่า ครบเครื่อง ยืดหยุ่นกับการทำงานหลากหลาย ทลายข้อจำกัดหลาย ๆ อย่าง เช่น ทิศทางการรับเสียงที่ปรับได้ถึง 8 แบบด้วย การใช้ Beamforming Technology และยังสามารถล่นเวลาในการ Setup ด้วยการแค่เสียบ ไม่ต้องหา Battery อะไรทั้งนั้นผ่าน MI Shoe และ มี Feature ที่มักมากับ Microphone รุ่นใหม่ ๆ อย่าง Safety Channel ที่จะป้องกันทั้ง การตั้ง Polar Pattern ผิด และ การตั้งค่าความดังของเสียงที่ผิด ทั้งหมดที่เราว่ามานั้นสามารถจบในราคา 13,000 บาทได้ ซึ่งถ้าเราซื้อตอนลดราคา มันก็จะถูกลงกว่านี้อีก เช่น เรากดที่ Shop Siam Paragon ช่วง Promotion ได้มาแค่ 7,890 บาทเท่านั้น คุ้มมาก ๆ