ไปดูมาแล้วกับ Penguin Highway การ์ตูนภาพสวย แต่เด็กไม่เข้าใจ
Penguin Highway เป็นเรื่องที่หลังจากเราได้ดูตัวอย่างครั้งแรกแล้ว เรารู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ภาพสวยดูสดใส สำหรับเด็กอย่างเรา ยันวันที่เราไปดูในโรงหนัง ก็เห็นพ่อแม่พาลูก ๆ มาดูกันหลายครอบครัวอยู่ ทำให้เราคิดไปเองว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องสไตล์สดใส ๆ ภาพสวยเหมาะกับคนเสพภาพ และเด็ก ๆ ที่ดูแล้วจะเข้าใจไปกับเรื่องได้ แต่เราคิดผิด ฮ่า ๆ เพราะมันเป็นเรื่องที่แม้แต่ผู้ใหญ่เองยังต้องนั่งตีความเลย
เรื่องย่อ
เนื้อเรื่องถูก Setup ในเรื่องราวของเด็กชายคนหนึ่งที่ชื่อ อาโอยาม่า เด็กชายที่เรียนอยู่ชั้น ป.4 ที่เป็นพ่อของเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ลูกไม้หลนไม่ไกลต้นจริง ๆ เพราะอาโอยาม่าเองก็เป็นเด็กคนนึงที่ สนใจที่จะวิเคราะห์สิ่งที่อยู่รอบตัวของเขา ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ และอยากเป็นผู้ใหญ่ในเร็ววันถึงขนาดที่นับวันรอที่ตัวเองจะเป็นผู้ใหญ่กันเลยทีเดียว นอกจากนั้น เขายังชอบผู้หญิงอีกคนนึงที่ทำงานร้านทันตแพทย์ใกล้บ้าน ที่หวังว่าตอนเขาโตขึ้น จะได้แต่งงานอยู่ด้วยกัน ถ้าได้ไปดูเรื่องเต็ม ๆ แล้วลองสังเกตวิธีการพูดของ อาโอยาม่าดูนะ ทั้งน้ำเสียงและการเลือกใช้คำ มันดูเป็นผู้ใหญ่ และทางการมาก ๆ ทำให่้เรานึกถึง จิโร่ โฮริโคชิ ในเรื่อง The Wind Rises ที่ชอบพูดลงท้ายแบบสุภาพ และนำ้เสียงอันสุขุมเสมอ
จนวันนึงระหว่างที่อาโอยาม่ากำลังจะไปเรียน เขาก็ได้พบเหตุการณ์อันแสนประหลาดที่มีเพนกวิน ที่ควรจะอยู่ตามขั้วโลกอยู่บนสนามหญ้า ด้วยนิสัยที่ขี้สงสัยของเขาทำให้เกิดการสืบสวนดูสิ๊ว่า เจ้าเพนกวินเหล่านี้มันโผล่มาได้อย่างไร ยิ่งสืบเข้าไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้อาโอยาม่าค้นพบปริศนาชิ้นใหม่ขึ้นมาเรื่อย ๆ จนมันไปเกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่เขาชอบ ส่วนเรื่องจะเป็นยังไงต่อก็ลองไปดูในโรงได้
เนื้อเรื่อง
จุดนึงที่เราชอบจากเรื่อง Penguin Highway คือ การพูดถึงวิธีทางวิทยาศาสตร์ ตั้งแต่ การสังเกต การจดบันทึก การตั้งสมมุติฐาน และ การออกแบบการทดลอง เอามาใส่ในเรื่องได้อย่างลงตัว จนเรารู้สึกไปแว่บนึงเลยว่า เป็นเรื่องที่ทุกคน (โดยเฉพาะคนไทย) ควรมานั่งดู เพราะมันทำให้เรารู้จัก การค้นหาความจริง ด้วยตัวเองเพราะวิทยาศาสตร์มันอยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราคิด มันอยู่ทุกที่ แต่เราแค่อาจจะไม่ได้มองเห็นมันเท่านั้นเอง
แต่พอเราได้มาเห็นอีกส่วนหนึ่งของเรื่องแล้ว ก็ทำให้เราเลิกคิดไปเลยว่ามันเป็นหนังสำหรับเด็ก เพราะมันมีส่วนนึงที่อาโอยาม่าชอบเพศตรงข้ามที่ไม่ได้อยู่ในวัยเดียวกัน จนหมกหมุ่น เรียกแบบนั้นก็ได้เลยละมั่ง กับหน้าอกของพี่สาวคนสวยที่เขาชอบ นั่นก็เป็นเพราะอาโอยาม่าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมเวลาเขามองหน้าอกพี่สาวคนสวยแล้วถึงรู้สึก เราว่าประเด็นนี้ถ้าเอาเด็กเข้าไปดูด้วยก็อาจจะต้องสอนเด็กหน่อยนะ เด็กที่เราเห็นในโรงนี่น่าจะราว ๆ ป.1-3 เลยละมั่ง ยังเด็ก ๆ อยู่เลย ฮ่า ๆ
นอกจากนั้น ตัวเรื่องยังใช้สูตรสำเร็จตายตัวของการ์ตูนญี่ปุ่นใส่ลงไปเพื่อความสนุก เช่นการใส่ตัวขี้อิจฉาเหมือนที่เราเห็น ไจแอน กับ ซูเนโอะ ในเรื่องโดราเอมอน ท่ีถึงแม้ว่าจะดูตีกันแมร่งจะทั้งเรื่อง แต่เด็กก็คือเด็กอะนะ เขาก็ไม่ได้จงเกลียดจงชัง สาปแช่ง เผาพริกเผาเกลืออะไรกันขนาดนั้น และยังเติมเรื่องของ ปรัชญา ประมาณเหมือน สอนให้เราเข้าใจและอยู่กับโลกทั้งนั้นเลย และ ทฤษฏีทางวิทยาศาสตร์ มาเรื่อย ๆ ขนาดเราที่นิยมเสพหนังที่ย่อยยาก ยังรู้สึกว่า เข้เรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่านั้นแน่ ๆ มันย่อยยากจริง แต่ถ้า ดูแล้วไม่ได้คิดอะไรมันก็อีกเรื่องนึงไปเลยนะ ฮ่า ๆ
เรื่องนึงที่เราชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยคือ การเล่าเรื่อง ที่เหมือนทำให้เราค่อย ๆ ไขปริศนาของเหตุการณ์ประหลาดนี้ไปพร้อมกับอาโอยาม่า มันทำให้เรารู้สึกว่าเราเป็นอาโอยาม่า ไม่นับเรื่องหน้าอกพี่สาวคนสายนะ อาจจะเพราะด้วยตัวละครที่มันผสมกันอย่างลงตัว ตั้งแต่อาโอยาม่าที่โตเกินวัย ออกแนวซื่อ ๆ ไม่ได้รู้จักโลกสักเท่าไหร่ หรืออย่างพี่สาวคนสวย เราว่าจากที่เราดูการ์ตูนมา ผู้หญิงในหนังก็ไม่ได้สวยอะไรเลยนะ ถ้าเราไม่ได้บรรยายความสวยงามออกมาให้เห็น แต่เรื่องนี้เปิดเผยแง่มุมที่น่าสนใจ และความสดใส ของพี่สาวคนนี้ออกมา ทำให้เราและอาโอยาม่าหลงไหลไปพร้อม ๆ กัน โดยที่ไม่ถามเลยว่า ทำไม และตัวละครอื่น ๆ ที่เข้ามาสร้างเสียงหัวเราะได้เรื่อย ๆ มันก็ทำให้เคมีของแต่ละตัวละครมันลงล๊อคกันพอดีเลย จะปวดใจกับการเล่าเรื่องก็ตรงที่มันล่อเฉลยปมเกือบทั้งหมดใน 20 นาทีสุดท้ายของหนังรวดเดียวเลย อารมณ์เหมือนกับ เราบอกว่า เฮ้ย ขอคิดแปบ หนังก็บอกว่า ไม่ !! จะเฉลย ทำมะ !!? มันเลยรู้สึกว่า เราไม่ค่อยได้คิดและมองข้ามบางอย่างไปอย่างน่าเสียดาย และก็ทิ้งปมบางอย่างทิ้งไว้ เช่น อีลูกกลม ๆ นั่นมันเกิดขึ้นได้ยังไง ให้เราไปทะเลาะกับเพื่อนเราต่อ ฮ่า ๆ
แน่นอนว่า เรื่องมันขนาดนี้ ไม่ได้ไก่กาอาราเล่แน่นอน เพราะเรื่องนี้ได้ Satoshi Kon Award จากเทศกาลหนังนานาชาติแฟนตาเซีย 2018 มาแล้ว
งานภาพ
นอกจากเรื่องที่โหดสัสรัสเชียแล้ว ภาพก็ไม่แพ้กันเลย ที่แว่บแรกดูว่ามันเป็นการ์ตูนเด็ก ก็เพราะภาพนี่แหละ เราเป็นคนนึงที่เสพภาพหนักมาก ๆ เรายังบอกเลยว่า มันละมุนมาก ตั้งแต่เพนกวินที่น่ารักชิบ !! จนอยากเข้าไปกอดเลย ตั้งแต่รูปร่าง สี และการเดินของมันทำให้มันดูน่ารักไปเลย ฮ่า ๆๆๆ จริง ๆ ตอนดูไปเนี่ย เราแอบนึกถึง Ghibli Studio ไปแว่บนึงเลย แต่มันก็ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะสีที่ใช้เน้นสบายตากว่าเยอะเลย แต่การเล่นกับแสงเงาถือว่ามีความใกล้เคียงกันอยู่ ตอนดูเรารู้สึกเลยว่า ทำไมมันน่าอยู่ได้ขนาดนี้....
สรุป Penguin Highway เป็นการ์ตูนที่เด็กพอดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี
จากเหตุผลทั้งหมดที่เล่าไป เราว่า Penguin Highway เป็นเรื่องที่เข้าไปดูแบบปล่อยหัวให้ว่างเลย ไม่ได้คิดอะไรมันก็สนุกดีนะ แต่ถ้าเราลองคิดไปดูไป แล้วเอากลับมาตกผลึกอีกที เราจะเห็นเลยว่าตัวเรื่่องมันสอนอะไรเราเยอะมาก ๆ ทั้งในเรื่องของปรัชญาการใช้ชีวิต การเข้าใจโลก และ ความขี้สงสัยและวิธีทางวิทยาศาสตร์ที่พวกเราคนไทยยังขาดกันอยู่ เราว่าเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดีละกัน เรื่องนี้เราให้อยู่ที่ 8/10 ไปเลย ทั้งภาพที่โคตรสวย เพลงที่เราไม่ได้พูดถึงก่อนหน้านี้มันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เราชอบสุด ๆ เนื้อเรื่องที่มอบความคิดในหลาย ๆ แง่มุมให้เรา ดูจบออกมามันจะทำให้เรามองโลกได้กว้างขึ้นมากมาย อยากให้ได้ลองไปดูกันนะครับ
แถม : หลังจากเขียนรีวิวแล้ว เราทำให้เรานึกถึงเรื่อง The Wind Rises ขึ้นมาเลย เดี๋ยวไปดูแล้วมาเขียนรีวิวให้อ่านกันนะ ~