รีวิว ORSEN EW50 แบตสำรองเล็กกะทัดรัด รองรับ Magsafe

แบตสำรองเป็นไอเท็มที่หลาย ๆ คนพกกันเยอะมาก แต่สำหรับเราเอง เมื่อก่อนใช้ iPhone 13 Pro Max เรื่องแบตไม่ใช่ปัญหาเลย แต่พอมาใช้ iPhone 14 แบตไหลเป็นน้ำเลยค่าา และยิ่งถ้าเราต้องออกไปเที่ยวที่ไม่มีโอกาสได้เสียบชาร์จระหว่างวัน ก็อาจจะไม่พอ เลยมองหาพวกแบตสำรองขนาดเล็ก ๆ น้ำหนักเบา ๆ ไม่ต้องอะไรมาก เลยมาเจอ ORSEN EW50 ที่วันนี้เราจะเอามารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันในวันนี้

แกะกล่อง

เริ่มจากการแกะกล่องกันก่อนละกัน ของที่ดูเด่นขึ้นมาเลยนะคือ สติ๊กเกอร์ มอก. สำคัญมาก ๆ นะ ของแท้เขาจะต้องมีสติ๊กเกอร์ มอก. นะ พวกของปลอมมันเยอะมาก จะซื้อต้องระวังมาก ๆ

ตัว ORSEN EW50 เขาจะมีทั้งหมด 3 สีอย่างที่เห็นในรูปด้านบน เวลาไปซื้อให้ดูที่หน้ากล่องได้เลย จะมีรูปที่มีสีของตัวแบตให้เราเรียบร้อย ด้านบนมีการพิมพ์ว่า เป็น แบตสำรองแบบไร้สายสำหรับ iPhone 12 และ 13 แน่นอนว่า เพราะมันรองรับ Magsafe นั่นเอง

ด้านหลังของกล่อง มันก็จะเป็นพวกสเปกต่าง ๆ ของตัวแบต ถ้าเราอ่านขำ ๆ เราจะเห็นว่า แบตมันขนาดแค่ 4,200 mAh เท่านั้น ถือว่า ไม่ได้เยอะอะไรมากมายเลยนะ ชาร์จ iPhone ได้สักครั้งนิด ๆ ก็หมดแล้วละ กับพวก Input/Output Power ก็ไม่ได้สูงอะไรมากมาย 15W เท่านั้นเอง แต่แลกมากับน้ำหนักหลังกล่องเคลมไว้ที่ 86 กรัมเท่านั้น

ด้านข้าง เขาก็จะมีรูปของตัวแบตกับโทรศัพท์ให้เรา อย่างในรูปด้านบน จะเป็นกล่องของแบตสีเทา ถ้าเป็นสีอื่น เขาก็จะเปลี่ยนไปตามสีแบตในกล่องนั้น ๆ ด้วยนะ เป็นเรื่องที่เราไม่คิดว่า คนที่ทำของราคาไม่เท่าไหร่ เขาจะใสใจกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ

อีกข้าง ก็จะเป็น Barcode บอกพวกเลข Model และสี พร้อมกับมีสติ๊กเกอร์บอกสี ที่เห็นเป็นขาว ๆ กลม ๆ อยู่ข้าง ๆ ถ้าเป็นสีอื่นก็จะเป็นสีตามแบตเลย เนี่ย ปกติผู้ผลิตทั่ว ๆ ไป เขาก็ทำแค่นี้แหละ ใช้สติ๊กเกอร์แปะให้รู้แค่นี้ แต่ไม่คิดว่าเขาจะทำรูปกล่องที่แตกต่างกันเลย

กล่องมาเป็นกลไกง่าย ๆ แบบกล่องสินค้าสมัยใหม่คือ การยกเพื่อเปิด ด้วยความที่แบตมันไม่หนักมาก ทำให้อาจจะเปิดยากไปหน่อยมันดูดแรง เมื่อเปิดออกมา เราจะพบกับ แบตที่ใส่อยู่ในถุงอย่างดีป้องกันพวกรอยจากการขนส่งที่อาจจะเกิดขึ้น

เอาแบตออกมา เห๋ ตอนแรกคิดว่า หรือเพราะเราใช้กล่องกลับหัวหว่า พลิก ๆ ดู ไม่กลับนี่หว่า ก่อนหน้านี้ที่บอกว่า ชอบในการลงรายละเอียด มาเจอเลยครับ เล็ก ๆ น้อย ๆ เนอะ โอเคมันเป็นกล่องสำหรับใส่พวกอุปกรณ์เสริมที่แถมให้กับพวก Paperworks ต่าง ๆ

ของที่เราจะได้เพิ่มมาอีกจากซ้ายไปขวา คือถุงผ้าสำหรับใส่ Battery เวลาเราเดินทาง มันจะได้ไม่ไปกระทบกับของชิ้นอื่นจนเป็นรอย สาย USB-C to Lighting สำหรับเสียบจากแบตไปที่โทรศัพท์เผื่อ เราต้องการชาร์จเร็วก็ใช้สายแทนได้ และสุดท้ายสาย USB-C to USB-A สำหรับการชาร์จไฟกลับเข้า Powerbank

เราบอกเลยว่า เราแอบชอบสาย USB-C to Lighting มาก ๆ มันสั้น ๆ ออกมายาวให้พอดีกับที่ต้องใช้เป๊ะ ๆ ไม่เกะกะเวลาใช้งานเลย ส่วนเรื่องคุณภาพอะอีกเรื่อง เราคิดว่ามันไม่ได้คุณภาพดีอะไรมาก มันก็ตามราคา ถามว่าใช้ได้มั้ย ได้เลย ไม่มีปัญหา แต่ในระยะยาวคือ หลาย ๆ ปี เราว่า เราก็น่าจะเปลี่ยน Powerbank ก่อนแล้วมั้ง

กับสาย USB-C to USB-A พวกงานวัสดุอะไรเหมือนกับสายเส้นก่อนหน้าเลย แต่พอมันยาว ๆ ไม่รู้นะ จับแล้วรู้สึก Cheap แปลก ๆ แต่เอาเถอะช่างมัน กับ การที่ให้เป็น USB-A เราว่ามันแอบล้าสมัยไปหน่อย เพราะ iPhone เดี๋ยวนี้เขาจะได้ Adapter เป็น USB-C มาหมดแล้วละ การมีสาย USB-A เราว่ามันทำให้ยุ่งยากไปหน่อย แต่เรื่องที่เราชอบคือ พลาสติกตามหัวตรงที่เราขับ มันทำมาให้จับแล้วรู้สึกแข็งแรงดีมาก ๆ ไม่น่าจะพังง่าย ๆ แน่

กับถุงใส่ เราว่าเป็นมาตรฐานของ ORSEN อยู่ละ ถุงเหมือนกันหมด อาจจะต่างที่เรื่องของขนาดอะไรก็ว่าไป เป็นเหมือนใยสังเคราะห์จับ ๆ แล้วฟิลมันจะเหมือนแผ่นพลาสติกหน่อย ๆ กับมีการสกรีนคำว่า ORSEN และ eloop ด้วย ใช่แล้ว ORSEN คือ Brand จาก eloop ที่ผลิต Powerbank คุณภาพดีอยู่แล้ว ดังนั้น เรื่องคุณภาพเราไม่ต้องห่วงเลย

ถ้าเราเอาพวกแบตกับสายใส่เข้าไป เขาก็จะมีเชือกรูดปิดกันมันหล่นออกจากถุงให้ด้วยนะ เรียกว่า เป็นถุงที่ใช้งานจริงได้แบบสบาย ๆ แถมสียังเรียบ ๆ ไปกับของได้ง่ายมาก ๆ ถูกใจ

เราสามารถเอาของทั้งหมดใส่ลงไปในถุงได้เลย โดยที่ไม่ต้องยัดเลยนะ

ORSEN EW50

เรามาเริ่มแกะพระเอกของเรากัน อ้าว ไม่ได้ติดอะไรมาเลย แค่ใส่ลงไปในถุงเฉย ๆ โอเคแหละ ไม่ได้มีปัญหาอะไร

อันที่เราแกะในรอบนี้ เป็นสีน้ำเงิน ดูดีมาก ๆ ด้านหน้าที่เราเห็นจากในรูป จับแล้วมันฟิลดีมาก ๆ มันไม่ได้เป็นพลาสติกเฉย ๆ นะ เราไม่รู้มันคืออะไร แต่มันมีความยาง ๆ นิด ๆ มันไม่ได้เหนียว ๆ และมันไม่ได้ลื่นปรืดนะ มัน Firm Grip มาก ๆ จับแล้วดีมาก กับมีการพิมพ์ Brand ORSEN ลงไป อันนี้ที่เราแอบกังวลนิดหน่อย เราว่า ถ้าใช้ ๆ ไป ตัว Brand มันจะลอกได้ แล้วมันจะไม่สวยเท่าไหร่

ด้านหลัง จะเปลี่ยนจากวัสดุยาง ๆ ลื่น ๆ นิด ๆ มาเป็นพลาสติกเงาเต็มที่เลย ทำให้เราค่อนข้างกังวล เรื่องรอยขนแมวมาก ๆ แต่ถามว่า เดือดร้อนมั้ยก็ไม่นะ เพราะส่วนนี้เวลาเราใช้งาน มันจะถูกติดเข้ากับโทรศัพท์จากแม่เหล็ก Magsafe ที่เป็นวงสีเทา ๆ และ ด้านล่างก็จะเป็นพวกรายละเอียด Specification ของตัว Power Bank นี้ สำคัญนะ ต้องมี มอก.

แบตก้อนนี้คือ เราถ่ายตอนที่เราแกะพร้อม ๆ กับตอนที่เขียนรีวิวนี้เลยนะ เอาออกมาจากถุง มันมีเหมือนเทปใสติดอยู่ที่ตัวแบต อันนี้เราว่า น่าจะเกิดจากความไม่ละเอียดของโรงงานที่ปล่อยให้มันติดมา ก็ดึงออกไป แต่สิ่งที่ทำให้เห็นคือ เราว่า จาก Process ที่โรงงานไม่ได้มี การ QC วัสดุที่ติดมาอย่างมีประสิทธิภาพเท่าไหร่

ด้านบน จะมีการยิง วันที่ผลิต ดูจากวันที่แล้ว ถือว่าไม่แย่เลยละ เพราะว่า วันที่เราแกะคือเดือน 5 ของปี 2023 แล้วแบตนี้ผลิตในเดือน 1 ของปีเดียวกัน อาจจะเพราะว่า แบตตัวนี้มันขายดีด้วยแหละ เลยทำให้ของมันวนค่อนข้างเร็ว เราเลยได้แบตก้อนที่ค่อนข้างใหม่มาก ๆ นั่นเอง

และด้านล่าง ก็จะเป็นช่องสำหรับเสียบชาร์จตัวแบต หรือจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ก็ได้เหมือนกัน เป็น USB-C ด้วยนะ ด้านซ้ายของ Port จะเป็นปุ่มสำหรับกดเปิดด้วย อันนี้คือ เราชอบมาก เพราะปกติ เวลาเราใช้แบตที่ชาร์จ Wireless ได้ มันชอบไม่มีปุ่มเปิดปิด วางปุ๊บชาร์จเลย บางทีเราไม่ต้องการอะไรแบบนั้นเท่าไหร่ การมีปุ่มช่วยได้เยอะ และ ด้านขวาสุดก็จะเป็นไฟแสดงปริมาณไฟที่เหลือในแบต

ใช้งานจริง

เรามาเริ่มกันเรอะ เราใช้งานกับ iPhone 14 Pro ไม่ Max นะ ขนาดของแบตกับตัวเครื่องเรียกว่า พอดีใช้ได้เลยละ ถ้าเทียบ เราว่าน่าจะพอ ๆ กับ Card Holder ของ Apple เลย โดยรวมใส่กับเครื่อง เราว่าอย่างสวยเลยนะ แล้วมันติดแน่นด้วยนะ ส่วนนึงเป็นเพราะเคส Magsafe ด้วย กับ ที่มุมของด้านที่แปะกับโทรศัพท์เรา เขาใส่ยางไว้ด้วย ทำให้โอกาสท่ีมันจะลื่นไหลก็น้อยลงไปอีก

ตัวแบต มันก็ไม่ได้หนามาก ทำให้เรายังสามารถที่จะ จับโทรศัพท์ตามปกติได้เลย โดยที่เรายังสามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ถนัดเหมือนเดิม แต่ถ้าเราไปใช้พวก Pro Max ที่เครื่องใหญ่ ๆ อาจจะทำให้ใช้งานยากนิดนึง เพราะเดิมที่เครื่องมันใหญ่อยู่แล้ว แล้วโดนระยะแบตเข้าไปอีก แหละ แต่สำหรับเรา เราโอเคเลย

ส่วนถ้าเราต้องการ ความเร็วในการชาร์จที่สูงขึ้น เราสามารถเสียบสายได้ โดยใช้สายที่เขาให้มาเส้นสั้น ๆ นั่นแหละ เสียบเข้าไปได้ ทำให้เราสามารถชาร์จได้ 12W ไปเลย

เราชอบสายเส้นนี้มาก เพราะมันทำมาพอดีกับการเอามาเสียบแล้วมันไม่รกรุงรังเลย ชอบมาก ๆ

ในแง่ของการชาร์จเข้าโทรศัพท์ มันรองรับการชาร์จผ่าน Magsafe ได้ 7.5W ตามมาตรฐานของ Magsafe เอง หรือถ้าเราใช้โทรศัพท์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับ Qi Wireless Charge จะชาร์จได้สูงสุด 15W เลย แต่ ๆ ถ้าเราใช้ iPhone แล้วเราอยากจะชาร์จได้ 12W ก็ถือว่าไม่ได้เร็วมากเท่าไหร่ เน้นการเสียบทิ้งไว้นาน ๆ เลย เพราะอย่าง iPhone 14 Pro เอง มันชาร์จได้เร็วสุดที่ 30W แต่อันนี้ได้ 12W ยังไม่ถึงครึ่งเลย

สำหรับการชาร์จเข้า เราสามารถเสียบผ่าน USB-C ช่องเดิมนี่แหละ โดยจะรับกำลังได้สูงสุดที่ 13.5W ด้วยกัน ถามว่าช้ามั้ย ก็ช้าแหละ แต่อย่าลืมว่า แบตเขามีแค่ 4,200 mAh เท่านั้น ดังนั้นมันน่าจะใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่เหมือนกัน

ถามว่า แบตขนาด 4,200 mAh มันชาร์จ iPhone 14 Pro ของเราได้กี่รอบ ถ้าดูจากตัวเลขเลย ก็น่าจะชาร์จได้ประมาณรอบกว่า ๆ เท่านั้นเอง หัก ๆ พวก Loss หลาย ๆ อย่าง คร่าว ๆ ก็น่าจะทำให้เราชาร์จได้แค่รอบเดียวเท่านั้นเอง ซึ่ง น่าจะเพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วันแล้วละ

หรือ ถ้าเราใช้ iPhone 14 Pro Max แบตมันเลขไป 4,323 mAh เลย ซึ่งเกินความจุของ EW50 ไปหน่อยแล้วละ ทำให้มันก็จะชาร์จได้ไม่ถึงครั้งเท่านั้นเอง

เมื่อเราเอามาใช้งานจริง ๆ แล้ว กับ iPhone 14 Pro เราไม่ได้วัดนะว่ามันงอกขึ้นมาเท่าไหร่ เพราะมันขึ้นกับการใช้งาน ณ ตอนที่เราเสียบชาร์จด้วย แต่สิ่งที่เรารู้สึกคือ เหมือนแบตมันน้อยมาก ๆ กว่าที่เราคำนวณไว้เยอะมาก ๆ ส่วนนึงคือ เมื่อเราชาร์จไป ไม่ว่า เราจะเสียบชาร์จกับโทรศัพท์ หรือ เราเสียบชาร์จกลับเข้าไป มันจะร้อนมาก ๆ แต่ตัวแบตไม่ได้ร้อนนะ แต่เราว่ามันน่าจะร้อนที่ภาคจ่ายไฟ ก็แอบไม่น่ารักเท่าไหร่เหมือนกัน ขนาดเราเอาไปใช้ที่ญี่ปุ่นอุณหภูมิประมาณ 16 องศา ใช้ ๆ ไปจับแล้วยังมีอุ่น ๆ เลย กลัวว่าใช้ที่ไทย น่าจะมีร้อนมากแน่ ๆ

สรุป

ORSEN EW50 เป็น Powerbank หรือแบตสำรองที่เน้นความคล่องตัวในการใช้งานสูงมาก ๆ ด้วยน้ำหนักที่ 86 กรัมเท่านั้นเอง ขนาดที่เล็กพอ ๆ กับ Card Holder เท่านั้นเอง และยังรองรับการชาร์จไร้สายทั้ง Magsafe และ Qi Wireless แต่ทั้งหมดนี้ ก็แลกมากับ ความจุ และ กำลังในการชาร์จที่ต่ำมาก ทำให้มันเหมาะกับการชาร์จโทรศัพท์สักรอบนึงในวันนึง น่าจะเป็นแบตที่เราจะต้องชาร์จทุกวันพร้อมกับโทรศัพท์เลย ทั้งหมดนี้ เรากำลังพูดถึงราคา 3 หลักเท่านั้น เลยทำให้เป็นตัวที่น่าเล่นมาก ๆ สำหรับคนที่ใช้ iPhone