รีวิว iPadOS 15 ใช้อะไรใหม่ได้บ้าง
รีวิวมาติด ๆ กับ iOS 15 ถึงคราวของ iPadOS กันบ้าง ตอนที่ดูเปิดตัวในงาน WWDC ที่ผ่านมา Feature ที่ใหม่จริง ๆ เราว่ามันไม่ได้น่าตื่นเต้นเท่าไหร่เลย แต่มันเอา Feature ที่อยู่ใน iPhone เมื่อปีก่อนมาใส่ใน iPad เท่านั้นเอง เช่น Widget ที่มีใน iOS 14 มาแปะ ใน iPad ทำให้สร้าง Possibility ในการใช้งานได้มากขึ้น ทำให้รวม ๆ อย่างที่บอกในรีวิวอื่น ๆ ของ Software Update ในปีนี้ว่า ไม่ได้มีอะไรเร้าใจ เหมือนช่วงก่อนหน้ามากนัก แต่จะเน้นเรื่องของการ Refine Experience ในการใช้งานมากกว่า
Widget
อย่างแรกคือ Widget ที่บอกว่ามันมีตั้งแต่ใน iOS 14 แล้ว แต่พอมันมาอยู่เต็ม ๆ บน iPad ก็ทำให้เราสนุกกับการจัดหน้า Home Screen มากขึ้นมาก นึกถึงตอนใช้ Android เลยฮ่า ๆ โดยรวมแล้ว จะเหมือนกับ iPhone ทุกประการ แต่ที่จะมีเพิ่มเฉพาะ iPad คือ Widget ขนาดใหญ่พิเศษ ที่กินพื้นที่ประมาณ 4x2 เลย อันนี้ไม่แปลกที่ใน iPhone จะไม่มี เพราะพื้นที่ไม่พอ 😁
ถ้า Widget มาแล้ว เพื่อนของมันที่เกิดมาพร้อมกันอย่าง App Gallery ก็ต้องมาด้วยเช่นกัน ลักษณะการใช้งานจะไม่ต่างจากบน iOS เลย ถ้าใครที่ใช้อยู่แล้ว ก็จะทำความคุ้นเคยได้ไม่ยาก
แต่สิ่งที่ทำให้ Feature ที่เหมือนกัน มันได้ประสบการณ์การใช้งานที่ไม่เหมือนกันคือ ขนาดของหน้าจอ บน iPad มีขนาดของหน้าจอที่ใหญ่กว่า iPhone มากทำให้เรามีอิสระในการจัดหน้า Home Screen ได้เยอะมากขึ้น เราใช้เวลาเป็นวัน ๆ ในการนั่งจัดหน้า Home Screen พื้นที่เยอะ ความเป็นไปได้ก็เยอะตามไปด้วย เลยเป็นเหมือน Feature เก่าในโลกใหม่เลยทีเดียว ทำให้การใช้งานมันสนุกขึ้นจริง ๆ
พอยิ่งเราใช้คู่กับ Focus ที่เป็น Feature ใหม่ใน iOS15 และ iPadOS 15 แล้ว ยิ่งทำให้การจัดหน้ายิ่งสนุกเข้าไปอีก เราอาจจะทำหน้าสำหรับการทำงาน หน้าสำหรับ Entertainment และ อื่น ๆ แล้วเซ็ตให้เข้ากับ Focus Mode ของเรา ก็จะทำให้เราทำงานได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้นเยอะ
Multitasking
Feature ที่ Apple พยายามสร้างมาเพื่อ iPad จนเราว่าทำให้เขาต้องแยกออกมาเป็น iPadOS เลยน่าจะเป็นเพราะเรื่องของ Multitasking นี่แหละ เพราะ iPad มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า iPhone มากทำให้มีพื้นที่ในการทำ Multitasking ได้เยอะมาก ๆ
มาในปีนี้ Apple พาความ Multitasking บน iPadOS ไปอีกขั้นด้วย Split View และ Slide Over ถ้าเรา Update แล้วเวลาเราเปิด App เราจะสังเกตจุดสามจุดด้านบน เมื่อเรากดเข้าไปมันจะมีตัวเลือกของแต่ละหน้าต่างให้เราเลย ว่าเราอยากจะได้แบบเต็มจอ, Split View คือแบบ เปิด 2 App ข้าง ๆ กัน และ Slide Over คือแบบที่หน้าต่างลอยอยู่บนหน้าจอ จริง ๆ ส่วนนี้มันทำได้ตั้งแต่ Version ก่อนหน้าแล้วละ แต่พอมันมีปุ่มนี้มามันทำให้ง่ายขึ้นเยอะ ไม่ต้องมาลาก แล้วลาก อ้าว ไม่ติดอะไรแบบนั้น เราเจอเยอะมาก
สิ่งที่มัน Power Up ขึ้นมาอีกคือ เมื่อเราอยู่ใน Mission Control เราสามารถลาก App ไปแปะที่อีก App เพื่อสร้าง Split View ได้เลย อันนี้เราชอบ และใช้บ่อยมาก ทำให้สะดวกเวอร์ ๆ นอกจากนั้น สิ่งที่เปลี่ยนตามอีกอย่างคือ มันจะเลือกแสดงเป็นหน้าต่าง ๆ ไป คือ เมื่อเรารวมเป็น Split View มันจะขึ้นให้เห็นเลยว่า นี่คือ Split View ของอะไรกับอะไรบ้าง ทำให้เรา Navigate ได้ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก
Power Boosted เข้าไปอีกที่ Slide Over Window จากเดิมเราสามารถเปิดได้แค่ App เดียว ตอนนี้เราสามารถเอาหน้าต่างซ้อน ๆ ลงไปได้อีกหลาย ๆ อันตามที่เราต้องการเลย เวลาใช้งานเราก็แค่เอา App ลากมาใส่ที่ Slide Over Window มันก็จะเพิ่ม Stack ลงไป ด้านล่างของหน้าต่างมันจะมีเส้นขาว ๆ เหมือนพวก iPhone พอเราเลื่อนขึ้นมันจะแสดง Stack ของ App เลยว่าในหน้าต่างมีอะไรเปิดอยู่บ้าง แล้วเราก็ Navigate เข้าไปได้เลย
ไปให้สุดเข้าไปอีก เพราะใน App ที่รองรับเราสามารถเปิดหน้าต่างมากกว่า 1 หน้าต่างได้ เช่น Note เราอาจจะมีสิ่งที่จดไว้ใน Note ตัวอื่น เราสามารถเลือกเปิดอีก Note นึงเป็นอีกหน้าต่างนึงได้เลย และเราอาจจะไปจับคู่กับอีก App นึงก็ได้ หรือจะจับคู่กันเองก็ได้อีกเหมือนกัน
นอกจากนั้น พอเรากดที่จุดสามจุดด้านบน ถ้าเราเปิด App เดียวกันหลาย ๆ หน้าต่างมันจะแสดงหน้าต่างที่เปิดอยู่ทั้งหมดของ App นั้น ๆ ด้วยสะดวกเข้าไปอี๊ก
การ Power Up Multitasking บน iPadOS 15 คือมันบ้าจริง ๆ โหดใช้ได้เลย ทำให้การทำงานแบบ Multitasking ทำได้เยอะขึ้นแบบก้าวกระโดดมาก ๆ แรก ๆ ยอมรับว่า ด่าเหมือนกันอะไรว้าาาา แต่พอใช้ ๆ ไป เข้ มันทำให้เราทำงานเร็วขึ้นมาก ๆ เผลอ ๆ เราว่าเราเริ่มชินกับการทำงานบน iPad มากกว่าบน macOS ในหลาย ๆ อย่างแล้ว
Quick Note
Note ในปีนี้มีหลาย Feature ที่น่าสนใจเยอะมาก ส่วนที่น่าสนใจของเฉพาะ iPad เลยคือ Quick Note ที่ทำงานตามชื่อเลยคือ การ Note แบบไว ๆ ใน Version ก่อนหน้า Apple ก็ทำวิธีที่จะทำให้เราจด Note ได้แบบไว ๆ จากการที่เราเอา Apple Pencil ไปจิ้มตอนที่หน้าจอยัง Lock อยู่แล้วจะมีกระดาษมาให้เราจดเลย
ในปีนี้ Apple พา Note ไปอีกขั้น ด้วยการที่เราสามารถใช้ Apple Pencil ลากที่ขอบขวาของหน้าจอ มันก็จะขึ้นเป็นหน้าต่าง Quick Note ลอยอยู่ เราสามารถเลื่อนมันไปในหน้าจอได้ ตัวอย่าง Use Case ที่เราว่าน่าจะได้ใช้จริง ๆ คือ เวลาเรา Research หาข้อมูลอะไรอยู่ และเราต้องการที่จะ Note แบบไว ๆ แทนที่เราจะต้องออก แล้วไปเข้า Note สร้าง Note ใหม่ มันเสียเวลา พอมี Feature นี้เราก็แค่ หยิบ Apple Pencil ออกมา ปัดจากขอบจอทีนึง ก็พร้อมจดเลย และหน้าจอที่ลอยอยู่ ก็ทำให้เรายังสามารถอ่านข้อมูลที่เรากำลังอ่านอยู่ต่อได้เลย พร้อม ๆ กับการดู Note ไปด้วย มันเลยเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ
นอกจาก Quick Note ใน Note บน iOS และ iPadOS 15 ยังมี Feature ใหม่คือ การใส่ Tag และ Mention ไปอ่านได้ในรีวิว iOS 15 ที่เราเคยเขียนไปก่อนหน้า
(สักที !) เปิด App iPhone ในแนวนอนได้สักที !
มาที่หมวดของ Feature ที่เราเรียกว่า สักที คือเป็น Feature ที่ทำไมไม่ Implement มาชาตินึงแล้ว พึ่งมาทำฟร๊ะ อันแรกคือ การที่เปิด App iPhone บนหน้าจอแนวนอนได้สักที !!!! ก่อนหน้านี้ถ้าเราเปิด App ที่ไม่มี Interface สำหรับ iPad มันจะเปิดเป็นแนวนอน และ แตก ไม่โอเคกับการใช้งานเลย และยิ่งถ้าเราต่อกับพวก Smart Keyboard นะ คือมันเป็นการบังคับกลาย ๆ แล้วว่า ส่วนใหญ่เราก็จะอยู่บนหน้าจอแนวนอนแหละ พอเปิดมาก็คือ โอ้โหอะเนี่ยฟร๊ะเนี่ยมานาน
ใน iPadOS 15 แก้ไขเรื่องนี้แล้ว โดยการที่มันจะหมุนไปตามหน้าจอของเรา ถ้าหน้าจอเราอยู่บนแนวนอน App มันก็จะขึ้นมาเป็นแนวนอน แต่ถ้าเราอยู่แนวตั้งมันก็จะขึ้นมาในแนวตั้ง ถ้าลองสังเกตดูว่า ถ้าเรารันอยู่บนแนวนอน พวก Interface มันจะคมกว่ามาก อาจจะเพราะแนวตั้งมันต้อง Render Interface ใหญ่กว่าแหละ มันเลยทำให้แตกเยอะกว่าแนวนอน ก็ถือว่าทำให้การใช้งานปวดหัวน้อยลงเยอะมาก โดยเฉพาะนัง Instagram ที่บางทีก็อยากจะเปิดบน iPad ไง แต่ไม่ทำ App สำหรับ iPad ออกมา เป็นเศร้า
(สักที !) Power Saving Mode
และ Feature สุดท้ายในหมวดสักที ! คือ Power Saving Mode หรือโหมดประหยัดพลังงาน ที่บน iPhone มีมาประมาณ 2 ชาติเศษได้แล้ว หลายคนถามหาว่าเมื่อไหร่มันจะมีบน iPad สักที วันนี้ใน iPadOS15 มันได้ลงมาจุติสักที เราสามารถเข้าไปเปิด Power Saving Mode ตอนแบตเราจะหมดได้ผ่าน Settings เลย หรือจะเพิ่มเข้าไปใน Control Centre ได้เหมือนบน iPhone เลย
สรุป : Multitasking พา iPad ไปอีกขั้น
ใน iPadOS 15 เอาจริง ๆ อย่างที่บอกกับทุกรีวิวของ Software Update ในปีนี้ของ Apple ว่า ไม่ได้น่าตื่นเต้นอะไรมากเพราะ Feature ว้าว ๆ ไม่เน้น ปีนี้ดูเน้นเรื่องการทำให้ Experience ดีขึ้นมากกว่า ซึ่งก็ทำได้ดีเลย โดยเฉพาะเรื่องของ Multitasking ที่เราชอบมาก ๆ และนอกจาก Feature ที่เราเล่ามา มันยังมีอีกหลาย ๆ Feature ให้เราใช้งานอีกเยอะมาก ๆ นอกจากนั้นยังมี Feature ที่ยังไม่ออกอย่าง SharePlay และ Universal Control อีกพวกนั้นไว้ออกมาแล้วจะเอามารีวิวอีกครั้ง หรือจะเป็น Feature ที่ผู้ใช้มองไม่เห็นคือการที่อนุญาติให้ App เข้าถึง RAM ได้มากขึ้น เพราะ iPad Pro 2021 มันใส่ RAM มาให้ถึง 16GB ที่เยอะกว่า iPad รุ่นที่ผ่าน ๆ มามาก นั่นทำให้เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเขียน App ที่มีความซับซ้อนมากขึ้นได้เลยทีเดียว ก็หวังว่าจะมี App ที่จะใช้งาน iPad Pro M1 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพจริง ๆ โดยเฉพาะพวก Pro App ออกมาในเร็ววัน