รีวิว iOS 16 ฟีเจอร์เจ๋ง ๆ อัพแล้วเหมือนได้เครื่องใหม่จริง ๆ
หลังจากที่ Apple เปิดตัว iOS 16 มาหลายเดือนแล้ว ในที่สุดก็ได้จังหวะที่ Apple จะเปิดให้ผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปอย่างเรา ๆ ได้ Upgrade กัน หลังจากที่ปล่อยออกมาเป็น Developer Preview อยู่นาน วันนี้เรามารีวิวกันดีกว่าว่า มันจะมีอะไรใหม่เข้ามา
All new lock screen
เริ่มจากอะไรที่เราเห็นได้ชัด ๆ กันก่อนดีกว่า นั่นคือ Lock Screen จากเดิมต้องยอมรับว่า Lock Screen ของ iOS เป็นอะไรที่แห้ง ๆ มาก การ Customisation อย่างมากก็ทำได้แค่การเปลี่ยน Wallpaper เท่านั้นแหละ เมื่อก่อนอาจจะเป็นอะไรที่เออ โอเคทันสมัยละ จนเมื่อ Android เปิด Material Me ออกมา ก็คือ Apple หยังหมาเลยละ
มาใน iOS 16 Apple แก้ตัวด้วยการเพิ่มเติม Feature ใน Lock Screen ไปเลย ทำให้เราสามารถ Customise Lock Screen ได้ถูกใจเรายิ่งขึ้นในหลาย ๆ ส่วน เริ่มจากการสร้างได้หลาย Lock Screen ที่เรากดค้างที่ Lock Screen มันจะให้เราสามารถสร้าง Lock Screen ได้หลาย ๆ อัน แล้วเราก็สามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามการใช้งานของเราได้ด้วย
ในส่วนของการปรับแต่งเอง มันก็ทำได้เยอะขึ้นมาก ๆ คือ นาฬิกาด้านบนเอง เราสามารถปรับสีของตัวหนังสือ และ Font ได้ตามใจเราเลย เพื่อให้เข้ากับ Wallpaper ที่เราใช้งาน จุดที่สนุกของอันนี้คือ ถ้าเราใช้รูปที่มี Depth Map อย่างถ่ายด้วย Portrait Mode เราสามารถทำให้ตัวแบบ Foreground มันไปทับนาฬิกานิด ๆ ได้ด้วย เป็น Gimmick แหละ
ด้านบนที่ปกติเป็นวันที่เอง มันก็สามารถปรับให้เป็นอย่างอื่นได้ เช่น เราอาจจะปรับเป็นปฏิทินนัดหมายว่า การนัดหมายต่อไปจะเป็นอะไรเมื่อไหร่ อันนี้เราชอบมาก ๆ เหมือนกับที่ Pixel ทำได้เลย ใช้งานแล้วเออ มันมีประโยชน์ แต่เอาเถอะ เราก็ปรับไปเป็นวันที่เหมือนเดิมแหละ ชินแล้ว บางครั้งเราก็อยากรู้วันที่เวลาต้องกรอกแบบฟอร์มอะไร
แต่ส่วนที่น่าจะเรียกเสียงฮือฮ่าได้มากที่สุด น่าจะเป็น Widget ในที่สุด Apple ก็ยอมทำออกมาสักทีนะ แต่มาเป็น Widget อันเล็ก ๆ อยู่แถวนึงบนหน้าจอของเรา โดย ณ วันที่เราทดลองใช้เป็น Beta ก็ยังไม่เห็น Widget จาก 3rd Party ออกมาเลยนะ ทำให้เราก็ยังติดอยู่กับของ Apple เช่น สภาพอากาศ และ ตารางนัดหมายเป็นต้น เราว่า ถ้าใช้งานจริง ๆ เลือกดี ๆ เราว่ามันโอเคเลยนะ ทีนี้ เราก็ต้องรอแล้วว่า นักพัฒนา จะสร้าง Widget อะไรออกมาให้เราใช้งานกัน อาจจะมีตัวเด็ด ๆ ออกมาก็ได้
หนักกว่านั้นอีก มันสามารถที่จะเชื่อมต่อกับ Feature อย่าง Focus ที่ ถ้าเราเลือก Focus Mode นี้ มันก็จะไปเชื่อมกับ Lock Screen แบบนึงเป็นต้น ทำให้เราอาจจะตั้งการแสดงผลให้เข้ากับสิ่งที่เรากำลังทำได้สบาย ๆ เลย เช่น เราทำงานอยู่ เราก็อาจจะอยากได้ Lock Screen แบบนึง เราอยู่บ้านเราก็อาจจะต้องใช้อีกแบบ ทำให้มัน Fitting กับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ
Photo นักไดคัทตัวพีค
เราว่าปีก่อน Apple ก็เอาพีคแล้วนะ ด้วยการใช้พวก OCR ง่าย ๆ ใน App Photo เพื่อให้เราสามารถคัดลอกข้อความ หรือเบอร์โทรศัพท์จากรูปภาพได้โดยตรง เช่น เราอาจจะถ่ายป้ายที่มีเบอร์โทรศัพท์มา แล้วเราอยากจะโทรหา แทนที่เราจะต้องจำเบอร์ เราก็กดแล้วโทรได้เลย
มาใน iOS 16 Apple พามันไปอีกขั้นด้วยการไดคัตวัตถุออกจากภาพได้เลยค่า เอาเว้ยยยย อันความ Machine Learning ภายในเครื่อง iPhone ใหม่ ๆ ทำให้เรื่องของการทำ Image Segmentation หรือการแยกวัตถุในรูปภาพเป็นเรื่องง่ายไปเลย
การใช้งานไม่ยากเลย แค่เราเปิดรูปอะไรสักอย่างใน Photo มา เช่น เราอาจจะเปิดรูปเราเองนี่แหละ แล้วเราก็กดค้างที่หน้าเรา มันจะดึงออกมาเป็นวัตถุเพื่อให้เราเอาไปใช้งานใน App ต่าง ๆ ได้เลย อันนี้เราว่ามันจะเจ๋งมาก ๆ เวลาเราเอาไปใช้ใน iPad ตอนที่เราจะทำงานพวกรูปภาพ เราก็เอาไปแปะ ๆ ได้เลย คือไม่คิดว่า เห้ย มันจะง่ายขนาดนี้ จนตอนนี้บางครั้งถ้าเราต้องไดคัตรูปเราจะ Airdrop ไปลง iPhone แล้วแชร์ที่เครื่องไดคัตให้กลับเข้าไปในคอมผ่าน Airdrop
เราพลีชีพเลย เอารูปตัวเองเลยอันนี้เป็นเคสง่าย ๆ ที่เราถ่ายในพื้นหลังที่มันเรียบ ๆ ไปเลย ใช้ Object Selection Tool ใน Photoshop ตัดก็ง่ายเลยละ แต่อันนี้เราไม่ได้ลงอะไรเพิ่มเลย เราใช้ Photo ใน iOS 16 ออกมาได้อย่างที่เห็นด้านขวาเลย เพื่อให้ Proof ได้ง่ายขึ้น เราลองเอามาแปะใน Background สีเทา ๆ เลย ถ้ามันตัดไม่คมเราจะเห็นเลย แต่ดูรูปที่ออกมาสิ มันคมมาก ๆ นะ แทบไม่มีรอยจาก Background รูปต้นฉบับเลย เบื้องต้นเราถือว่า เออ มันดีจริง ๆ
แต่เราลองกับ Background ที่ซับซ้อนหน่อย มันแอบตัดออกมาได้เนียนอยู่ บางครั้ง ถ้าเราใส่เสื้อสีคล้าย ๆ กับพื้นหลังอยู่ มันจะไม่ยอมตัดฉับเลย มันจะใช้วิธีการตัดมาบาง ๆ เอา อันนี้คือ เห้ยยยย ได้เหรอวะ ดังนั้น เรามองว่า มีก็ดี แต่ถ้ามว่า เก่งเท่าคนมั้ยก็ยังละกัน
iMessage แก้ข้อความได้สักที
iMessage เป็น App สำหรับการคุยกันที่เราชอบมาก ๆ เพราะความเสถียรของมัน ใช้งานแล้วไม่ค่อยจะเป็นปัญหาเท่าไหร่ ไหนจะเรื่องการ Integrate กับ OS ที่ลึกมาก ๆ ทำให้มันน่าใช้งานสุด ๆ และแน่นอนว่าใน iOS16 Apple เพิ่มในเรื่องของการแก้ไขข้อความหลังจากที่เราส่งไปแล้วได้ด้วย
เราว่า หลาย ๆ คนเวลาใช้พวก IM แล้วจะเจอปัญหาประมาณว่า เรากดส่งไปแล้ว มาอ่านอีกที อ้าวเห้ย !!! พิมพ์ผิดหวะ แล้วเราก็จะแก้ปัญหาด้วยการพิมพ์ส่งไปอีกรอบ ทำให้ข้อความมัน Fetch ขึ้นไปเรื่อย ๆ จนน่ารำคาญ แต่ใน iOS 16 Apple ออกมาแก้ปัญหานี้ด้วยการรองรับการแก้ไขข้อความที่ส่งไปแล้วให้เราด้วย อันนี้ดีจริง ๆ
Powerful Mail Client
ใน iOS 16 จริง ๆ ก็ใน Apple Ecosystem อย่าง macOS เอง ก็มี Feature ใหม่ ๆ เข้ามาใน Mail Client ที่ติดมากับเครื่องด้วย เช่น การยกเลิกการส่งข้อความก่อนจะไปถึง เอาจริง ๆ เลยนะหลักการมันง่ายมาก ๆ คือ เมื่อเรากดส่ง แทนที่มันจะส่งเลย มันจะหน่วงเวลาแค่นั้นแหละ ดูเป็นเรื่องง่าย ๆ นะ แต่เรามองว่า เออ มันก็ป้องกันความชิบหายได้ โดยเฉพาะ เมื่อเราจะส่งเมล์หาลูกค้าผู้น่ารักของเรา
แต่เรื่องที่เราชอบมาก ๆ คือ Apple ทำให้การค้นหาเมล์เป็นเรื่องที่ทรงพลังมากขึ้น อย่างที่เรารู้กันว่า บางคน เช่นเราเอง วันนึงเมล์เข้าออกเยอะมาก ๆ โอเคแหละ เราก็มีระบบในการจัดการอยู่แล้ว แต่การค้นหาอีเมล์เป็นเรื่องที่น่าปวดหัวมาก ๆ ใน iOS 16 ก็ได้รับการปรับปรุงให้เราสามารถค้นหาที่สอดคล้อง และ แม่นยำ กับสิ่งที่เราต้องการมากขึ้น
และ Feature สุดท้าย คือ เราสามารถ Snooze เมล์ของเราได้ บางครั้ง เราก็จะไม่ชอบที่จะเห็นเมล์ค้างอยู่ มันล่อให้เรามาอ่าน แต่เอาเข้าจริง เราก็ยังไม่มีเวลาจัดการสิ่งที่ต้องทำจาก Content ในเมล์ ถ้าเราอ่าน Clear Mailbox ไปแล้ว แน่นอนว่า เราลืมแน่นอนว่า เราต้องทำอะไรต่อจากนั้น ทำให้หลาย ๆ Mail Client เลยมี Feature ที่จะให้มันเตือนเมื่อถึงเวลาที่ต้องการ แน่นอนว่าไม่ใช่ Feature ใหม่อะไร แต่เป็น Feature ใหม่ใน iOS 16 ในที่สุดก็ทำได้สักที
Improved Dictation
Feature Dictation เป็น Feature ที่ทำให้เราพูด แล้วเครื่องมันจะแปลงออกมาเป็นข้อความ มีมานานแล้วละใน iPhone รองรับในหลาย ๆ ภาษา รวมไปถึงภาษาไทยด้วย แต่ปัญหาของการใช้งาน Feature นี้คือ บางครั้งเราจะมีคำที่มันเฉพาะมาก ๆ เช่นชื่อ หรือศัพท์เทคนิคอะไรบางอย่าง แล้วเครื่องมันไม่เข้าใจ อาจจะเข้าใจผิด ผิดคำไปเลย เราก็ต้องแก้ แต่มันจะต้องปิด Dictation แล้วกลับไป Keyboard แก้ แล้วกลับไป Dictation ใหม่ เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ใน iOS 16 มีการปรับปรุง Feature นี้ใหม่ ด้วยการรองรับ Keyboard ขณะที่เรากำลังใช้งาน Dictation ไปเลย บอกเลยว่า จากใจคนใช้งาน Feature นี้เยอะ ก็คือ โหยยยย ดีมาก ๆ จริง ๆ ชีวิตสบายขึ้นเยอะ
เท่าที่ทดลองมา ในภาษาไทย เมื่อเราเปิด Dictation มันจะปิด Keyboard ซะงั้น นึกว่า ใช้งานไม่ได้ต้องตั้งค่าอะไร ลองเปิดเป็นภาษาอังกฤษ อ้าวใช้ได้ ดังนั้น ณ วันที่เขียนก็คือ Dictation ที่มี Keyboard ยังใช้งานกับภาษาไทยไม่ได้นะ
สรุป
iOS 16 เป็นอีกครั้งที่ Apple มีการเปลี่ยนแปลงที่เรามองว่า มันเห็นได้ชัดมาก ๆ เช่น Lock Screen และ ยังปรับปรุง Feature อีกหลาย ๆ อย่างให้มันไปได้อีก เช่น Focus และ Dictation เป็นต้น นอกจาก Feature ที่เราได้เล่าไปแล้ว มันยังมี Feature ใหม่อีกเยอะมาก ๆ เช่น การแชร์ Tab จาก Safari และอื่น ๆ อีกมากมาย iOS 16 จะเปิดให้อัพเดทกันในวันที่ 13 กันยายนนี้ ก็อีก 2 วันนับจากวันที่ลงบทความเท่านั้นเอง