รวม 5 Obsidian Plugin เล็กน้อยที่ทำให้การใช้งานง่ายกว่าเดิมมาก
หลังจากเราใช้ Obsidian มาสักพัก เราพบว่า มันมีหลาย ๆ ส่วนที่เรารู้สึกว่า มันขาด ๆ เกิน ๆ ไปนิดหน่อยแต่ด้วยความที่มันเป็น Open-Source และมี Plugin ให้เราใช้งานเยอะมาก ก็มีคนที่ทำ Plugin ที่เข้ามาแก้ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้อยู่ด้วย วันนี้เราขอรวบรวม 5 Plugins ที่ทำให้การใช้งานมันง่ายขึ้นกว่าเดิมกัน
File Explorer Note Count
เคยเจอปัญหากันมั้ยว่า เราอยากรู้ว่าแต่ละ Folder มันมี Note อยู่ในนั้นสักเท่าไหร่กัน ซึ่งถ้าเราอยากรู้ เราอาจจะต้องนั่งนับ หรือถ้าจำนวนเยอะ ๆ หน่อย เราจะต้องสร้าง Note ใหม่ แล้วเขียน DataView Query ขึ้นมานับก็ได้เหมือนกัน แต่เอาเข้าจริง ทั้งสองวิธีนี้ มันก็เป็นวิธีการที่ลำบากอยู่พอสมควรนะ มันน่าจะดีกว่านี้ ถ้าเกิดมันมีจำนวน Note ในแต่ละ Folder บอกเราไปเลย
พบกับ File Explorer Note Count ที่เมื่อเราติดตั้งไปแล้ว มันจะขึ้นจำนวนของ Note ที่อยู่ในแต่ละ Folder ออกมาให้เราดูได้ทันที โดยที่ไม่ต้องมานั่งนับเอง หรือเขียน DataView Query เพื่อนับอีกต่อไปแล้ว
Iconize
ยังอยู่กับ Folder เหมือนเดิม นอกจากการแสดงตัวเลขแล้ว มันน่าจะดีกว่านี้ ถ้า Folder แต่ละอัน มันจะมี Icon เพื่อให้เราสามารถ Spot on ได้ง่าย ๆ ใช่แล้วด้วย Iconize เราสามารถใส่ Emoji ลงไปหน้า Folder แต่ละอันได้ด้วย ทำให้ Folder มันดู Spot On ได้ง่ายขึ้น และยังทำให้มีความสวยงามน่าใช้งานมากขึ้นด้วย มันสำคัญมาก ๆ เลยนะ โดยเฉพาะ โปรแกรมที่เราจะต้องใช้งานมันทุกวันแล้วด้วย
Tag Wrangler
Tag เป็นเครื่องมือหนึ่งในการจัดกลุ่มของ Note ต่าง ๆ ใน Obsidian เช่น เราเองใช้มันในการจัดการ ประเภทของ Todo List หรือกระทั่งการจัดการ ประเภทของหนังสือ โดยเราจะเห็นว่า เรามีการใช้ Tag ในการจัดการหลายระบบภายใน Obsidian Vault เดียวกัน ทำให้ ถ้าเกิดว่า ทั้ง Todo และระบบจัดการหนังสือเรามันมี Tag ชื่อเดียวกัน เวลาเราค้นหาด้วย Tag นั้น เราก็จะได้ทั้งหนังสือและ Todo ออกมา มันก็ไม่น่าจะเป็นอะไรที่ดีเท่าไหร่
การแก้ปัญหานี้ มี 2 วิธี คือ เวลาเราค้นหา เราจะต้อง Filter เพิ่มอีกว่า เราจะเอาแค่ Note จาก Folder ใด Folder หนึ่งเท่านั้น เพื่อ Scope แยกกัน แต่วิธีการนี้ เราคิดว่า มันยุ่งยากเวลาค้นหามาก ๆ หรืออีกวิธีนึงคือ การใส่ Identifier หรือสิ่งที่ระบุว่า มันคือเรื่อง ๆ นี้นะ เช่น เราบอกว่า ในหมวดหมู่ของหนังสือ เรามี หนังสือนิยาย และ หนังสือที่เกี่ยวกับ Computer Science เราก็อาจจะตั้งเป็น #book/literature และ #book/computer-science
หากเรามีจำนวนสิ่งที่อยู่ภายใต้ #book ไม่เยอะมาก เราคิดว่ามันไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ แต่ถ้ามันเริ่มมีหลากหลายประเภทมากขึ้น การจัดการมันย่อมไม่ได้ง่ายสักเท่าไหร่ ทำให้ Plugin อย่าง Tag Wrangler เข้ามา โดยเมื่อเราติดตั้งไปแล้ว ใน Tags เราจะเห็นว่า หากเราคั่นชื่อ Tag ด้วย Slash มันจะมีการแยกออกมาเป็นเหมือน Folder เอาไว้ให้
นอกจากนั้น หากในอนาคต เรามีการจัดหมวดหมู่ของ Tag หรือเปลี่ยนชื่อ Tag ใหม่ จากเดิมที่เราจะต้องไล่เข้าไปที่แต่ละ Note เพื่อเปลี่ยนชื่อ Tag บางครั้ง อาจจะลืมบางอัน เราสามารถที่จะกดเปลี่ยนชื่อ Tag แล้วมันจะเข้าไปเปลี่ยนชื่อ Tag ในทุก ๆ Note ที่มี Tag ที่เราต้องการให้ได้ทันทีเลย
โดยรวม Tag Wrangler มันเป็น Plugin ที่ทำให้เราสามารถจัดการ Tag ได้ซับซ้อนมากขึ้น รองรับความหลากหลายของ Note ภายใน Obsidian Vault ได้มากขึ้น เป็นอีกหนึ่ง Plugin ที่เราแนะนำให้มี
Colored Tag Wrangler
นอกจากที่เราจะจัดระเบียบ Tag แล้ว เรายังเจอปัญหาว่า เราใส่พวก Tag เข้าไปหลาย ๆ ตัวเช่นเวลาเราเขียน Todo List แล้วเราจะต้องใส่ Tag เพื่อบอกว่า งานนี้มันคืองานของที่ไหน แล้วตามด้วย ประเภทของงาน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ Tag ทั้งสอง มันแสดงผลออกมาเป็นสีเดียวกัน เวลาเรามาดู เราจะต้องมานั่งอ่านว่ามันคืออะไร มันจะดีกว่ามั้ย ถ้ามันแยกสี แค่เราเห็นสี เราก็รู้ละว่า มันคืออะไร เราขอนำเสนอ Colored Tag Wrangler
หลังจากเราติดตั้งแล้ว เราสามารถเข้าไป Custom สีของแต่ละ Tag ได้เลยว่า เราอยากจะให้อันไหนเป็นสีอะไร เช่น เราตั้งให้ Tag สำหรับเก็บงานของเว็บ arnondora เป็นสีฟ้า เราก็สามารถทำได้เช่นกัน
เวลามันแสดงผล เราก็จะเห็นว่า มันก็จะเป็นสีตามที่เราตั้งเอาไว้เลย ทำให้เราสามารถ Spot อ่านได้รวดเร็วขึ้นเยอะมาก ๆ
Omnisearch
ใน Obsidian เราสามารถใช้ Quick Search สำหรับการค้นหา Note ต่าง ๆ ได้ สำหรับคนที่มี Note เยอะมาก ๆ แต่ระบบค้นหาของมัน ไม่ได้เก่งมากเท่าไหร่ มันจะค้นหาจากแค่ ชื่อไฟล์เท่านั้น แต่ด้วย Omnisearch มันเข้ามาทำให้ระบบ Search เก่งกว่าเดิมมาก เรียกว่า แทบจะเป็น Full-Text Search แล้วละ
และถ้าเราตั้ง Hot Key ให้เรียก Omnisearch ขึ้นมาอีก ก็คือใช้งานสนุกมาก ๆ เช่น เราตั้งเป็น Cmd + P เอาไว้ เหมือนกับใน Visual Studio Code ที่เราสามารถพิมพ์ชื่อไฟล์กด Enter มันจะเหมือนกับการกระโดดไปที่ไฟล์แต่ละไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว เราว่ามันเป็นอะไรที่ทำให้เราทำงานได้เร็วกว่าเดิมเยอะมากอย่างไม่น่าเชื่อเลยละ โดยเฉพาะหากเราใช้งานมันคล่อง ๆ แล้วด้วย ยิ่งเร็วเข้าไปใหญ่ ทุกวันนี้ เราสามารถกระโดดไปมาได้อิสระมาก ๆ
สรุป
ทั้งหมดนี่ก็คือ 5 Obsidian Plugin ที่เราคิดว่ามันเป็นอะไรที่ดูเล็ก ๆ น้อย แต่มันเข้ามาช่วยทำให้ประสบการณ์การใช้งานของเรามันดีกว่าเดิมมากจริง ๆ จริง ๆ มันยังมี Plugin อีกหลายตัวมาก ๆ ที่จะเข้ามาช่วยและเพิ่มความสามารถหลาย ๆ อย่างให้เก่งมากว่าเดิม ทำในสิ่งที่ตัวโปรแกรมหลักทำไม่ได้ก็มีเหมือนกัน ไว้วันหลังเราจะมาแนะนำเพิ่มอีก