iPhone 11 Pro Max หลังจากใช้ 4 เดือน โคตรแหล่ม

ตอนแรกว่าจะเขียนบทความนี้ตอนผ่านไปสักอาทิตย์นึง เหอะ ๆ ไม่ว่างเขียน ตอนนี้ผ่านมานานละ ว่าหลังจากเราใช้ iPhone 11 Pro Max แล้วเรายังโอเคกับมันอยู่มั้ย

เครื่องที่เราใช้เป็น iPhone 11 Pro Max 64 GB สี Midnight Green และ แน่นอนว่า เราใส่เคสปิดสีหมด ฮ่า ๆ ก็ช่างมันเถอะ ดีกว่าเครื่องตกแล้ว เครื่องไม่รอด

Performance

เรื่องนี้ไม่ต้องพูดมาก เจ็บคอ iPhone 11 Pro Max มาพร้อมกับ CPU ที่น่าจะแรงที่สุดในโทรศัพท์ที่ขายกัน ณ ตอนที่เราเขียนแล้ว ดังนั้นเรื่องการใช้งาน ไม่ต้องห่วงเลยว่า จะมีอาการกระตุก เพราะถ้ากระตุกเนี่ย เราว่าไม่ต้องทำ App บนโทรศัพท์แล้ว มันแรงมากจริง ๆ ไม่ว่าจะเล่นเกม ใช้งาน App ต่าง ๆ ก็คือ ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลย นอกจากนั้น มันประหยัดพลังงานมาก ๆ ทำให้ใช้งาน Battery ได้นานมาก ๆ จนน่าตกใจ

แต่เรื่องที่น่าเสียดาย คือ ขนาดแรม ที่เล็กเพียงแค่ 4 GB เท่านั้น แต่ถามว่า มันพอใช้มั้ย เราก็ตอบเลยว่า พอ คือ โอเคแหละ ถ้าเราเปิด App เยอะ ๆ แล้วเรากลับไปที่ App แรก ๆ ที่เปิด มันก็ต้องใช้เวลาโหลดใหม่อยู่แล้วละ เราคิดว่า การที่มันใช้งานได้ลื่นไหล ทั้ง ๆ ที่ RAM มีแค่นี้ นั่นเพราะการ Optimise ของ iOS App มันทำมาดีมาก จนทำให้ ​Spec ที่ดูจะน้อยในปี 2019 มันทำงานได้อย่างลื่นไหล

Software

เรื่องของ Software ต้องบอกเลยว่า Apple นางทำมาดีมาก เราไม่ได้เจออะไรแปลก ๆ ในการใช้งานเลย หรือแม้แต่เรื่องการกระตุกอะไรก็ไม่เกิดขึ้นแม้แต่ครั้งเดียว พูดง่าย ๆ คือ ไม่มีความผิดปกติอะไรเลย

แต่ปัญหาที่เราเจอน่าจะเป็นเรื่องของการย้ายมาใช้ iOS มากกว่า เพราะเราใช้ Android มานาน หลาย ๆ อย่างเราค่อนข้างไม่ชินกับการใช้ iOS สักเท่าไหร่ อย่างเช่นเรื่องของ Keyboard ที่ตอนแรก เรายอมรับเลยว่า มันทำให้เราพิมพ์ช้ามาก ๆ เพราะมันปุ่มเล็กมาก ๆ แต่พอใช้ ๆ ไปตอนนี้ กลับมาพิมพ์เร็วอีกครั้ง

ตอนใช้ Android Keyboard เราสามารถลากเพื่อพิมพ์ได้ ซึ่งแน่นอว่า iOS ทำในภาษาอังกฤษได้ แต่ไทยไม่ได้ ทำให้เซง ไปตาม ๆ กัน

นอกจากนั้นปัญหาที่เราเจอหนัก ๆ เลยคือ ข้อมูลบางอย่างที่เรา Sync อยู่กับ Google เราก็เติมข้อมูลใหม่ไม่ได้แล้ว เพราะนางไม่ให้เราเก็บลงใน Google Account อย่างเช่น ข้อมูลสุขภาพที่เราเก็บมาตลอดหลายปี ก็คือต้องทิ้งไป คือ มันกลับเข้าไปอ่านได้แหละ แต่ เราเติมเก็บลงไปไม่ได้แล้ว เราก็ต้องย้ายมาใช้ของฝั่ง Apple แทน ก็เหมือนนับหนึ่งใหม่เลยนั่นแหละ

Multimedia

ตั้งแต่เราใช้ iPad Pro เราก็ไม่ค่อยได้ดูอะไรในโทรศัพท์มากสักเท่าไหร่ แต่ iPhone 11 Pro Max เป็นโทรศัพท์เครื่องแรกที่ทำให้เราไม่ต้องพก iPad Pro ได้ คือ เรามั่นใจที่จะทิ้ง iPad Pro ไว้ที่บ้านในบางวันแล้วเอาแต่ iPhone ออกไปได้

เพราะบางครั้ง เวลาเราออกไปข้างนอก ระหว่างนั่งรออะไรแบบนั้น เราก็อยากที่จะดูอะไรบางอย่าง เราเลยต้องพก iPad ไป แต่ตอนนี้ไม่แล้ว ถ้าเราต้องการดูอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็จะเอาแค่ iPhone กับหูฟังไปก็ทำให้ชีวิตเราง่ายกว่าเดิม แถมจอก็ยังสีสด และ สว่าง มากพอที่จะ Entertain เราได้แบบไม่มีปัญหาเลย

อีกปัญหาที่เราเจอคือ เวลาเราเชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับรถ แล้ลวเปิดเพลง มันจะไม่ออกลำโพงรถ มันออกลำโพงโทรศัพท์แทน แล้วไม่มีตัวเลือกที่เป็น Bluetooth โผล่ขึ้นมาใน App ไหนเลย ทั้ง Spotify และ Youtube เลย ซึ่ง งง มากว่าทำไม เข้าใจว่า รถน่าจะเก่าไป มันอาจจะมีอะไรที่มันไม่รองรับ เลยใช้ไม่ได้ แต่รับและคุยโทรศัพท์ได้นะ แค่เล่นอะไรที่มันเป็น Stereo ไม่ได้เท่านั้นเอง

Battery

เมื่อก่อน เราเป็นคนนนึงที่บ้าหอบฟางมาก โดยเฉพาะเรื่องของสาชาร์จ และ Power Bank แต่พอเรามาใช้เครื่องนี้ เราเลิกพก Power Bank ไปเลย คือแบตมันโคตร ๆๆๆๆๆ อึดเลย อึดจนเรามั่นใจได้ว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น มันอยู่กับเราได้ยันเย็นของวันนั้นแน่นอน หรือถ้าประหยัดหน่อยก็มีแววขึ้นถึง 2 วันได้ และถ้าเราใช้หมด เวลาจะชาร์จ ด้วย Adapter แบบ Fast Charge ทำให้เราใช้เวลาไม่นาน ก็ชาร์จจนถึง 80-90% ได้

แต่เราสังเกตว่า ถ้าเราเอาไปทำงานหนัก ๆ อย่างเช่น การถ่ายวีดีโอ ถ่ายรูปเยอะ ๆ เข้า มันสูบแบตเป็นน้ำเลย ดังนั้น ถ้าเราจะออกไปถ่ายวีดีโอ เราจะพกที่ชาร์จไม่ก็ Power Bank ไปด้วย เพื่อความมั่นใจ

ปัญหานึงที่เราเจอในเครื่องของแบตคือ ถ้าเราถ่ายวีดีโอนาน ๆ โอเค แบตก็จะหมด และเราก็เสียบไมค์ด้วย ทำให้เราไม่สามารถที่จะชาร์จ และใช้ไมค์ไปพร้อม ๆ กันได้ นั่นน่าจะเป็นปัญหาเดียวที่เราเจอ แค่ครั้งเดียว (เพราะ Memory เราน้อย อัดได้ขนาดนั้น ก็ยากแล้ว)

Camera


ภาพนี้ถ่ายจากกล้อง Wide จะเห็นได้ว่าคมมาก ๆ

กล้องใน iPhone 11 Pro Max เราค่อนข้างที่จะ Impress มันมาก ๆ เพราะมันดีมากจริง ๆ เป็นกล้องที่ให้รายละเอียดได้ดีมาก ๆ ในหมู่กล้องโทรศัพท์กันเอง ถ้าเราลองเทียบ ๆ ดู โดยการถ่ายภาพที่เดียวกัน แสงเหมือนกัน แล้วลองซูมดู เราจะเห็นเลยว่า ความคมชัดมันคนละเรื่องเลย


ความคมของกล้อง Ultra Wide จะสู้กล้อง Wide และ Telephoto ได้ เพราะไม่ได้มี Deep Fusion ช่วย เทียบกับภาพก่อนหน้าคมกว่าเยอะ

กล้อง Ultra Wide ใหม่ที่ให้มา มันทำให้เราถ่ายภาพในมุมมองใหม่ ๆ ได้เยอะขึ้นมาก อันนี้เราชอบจริง แต่ปัญหามันอยู่ที่กล้องที่ชูโรงนักหนาว่ามันเจ๋งมาก กลับกลายเป็นกล้องที่ทำอะไรไม่ได้เลย หรือก็คือ พวก Deep Fusion และ Night Mode ไม่รองรับในกล้อง Ultra Wide ทำให้สุดท้าย ถ้าเราต้องการภาพที่มีคุณภาพมากจริง ๆ เราก็เลือกที่จะใช้กล้อง Wide ธรรมดาอยู่ดี

ส่วนกล้อง Zoom ที่มีมาตั้งแต่รุ่นก่อนแล้ว ถ้าเราใช้ถ่ายวิว อะไรแบบนั้น มันจะไม่มีผลอะไรเลย นอกจากซูมเข้าไปไกลขึ้น ความแตกต่างมันจะอยู่ที่ตอนเราถ่ายในโหมด Portrait ที่จะให้ความหน้าชัดหลังเบลอได้แม่นยำ และเป็นธรรมชาติกว่า การใช้กล้อง Wide ถ่ายอยู่พอสมควร ดังนั้น เรามองว่า ถ้ารู้ตัวว่า เราชอบถ่าย Portrait Mode มาก ๆ และกำลังเลือกระหว่าง iPhone 11 หรือ iPhone 11 Pro เราแนะนำให้ไปใช้ Pro ดีกว่า เพราะกล้อง Tele มันสร้างความแตกต่างในการเบลอหลังเยอะอยู่พอสมควรเลย ยิ่งถ้าเราถ่ายแล้วซูมเข้าไปดูจะเห็นเลยว่า มันแตกต่างกันอยู่พอสมควร

กล้องหน้าต้องบอกเลยว่า iPhone ทำได้ดีมานนมากแล้ว มาในครั้งนี้ก็ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลย เพราะเราสามารถใช้มันถ่าย Vlog ได้เลย ถึงแม้ว่า Bitrate และคุณภาพ จะไม่เท่ากล้องจริง ๆ แต่ด้วยความเบา และความสะดวกในการพกพา เรามองว่า คุ้มอยู่นะ แล้วยิ่งถ้ามีคนถ่ายให้เรา แล้วใช้กล้องหลังถ่าย ในสภาวะแสงปกติตอนกลางวัน มันให้ภาพที่ดีมาก ๆๆๆๆๆ แต่ถ้าเป็นกลางคืน อันนี้จะรอดยากอยู่

เรื่องที่เราชื่นชม และทึ่งในการทำขึ้นมา คือ Seamless Camera Switching เราว่านั่นน่าจะเป็นปัญหาของโทรศัพท์หลาย ๆ รุ่นที่ใช้กล้องมากกว่า 1 ตัว Apple ทำมันได้แล้ว มันทำให้เราไม่รู้สึกว่า มันคือแต่ละกล้อง มันทำให้เรารู้สึกว่า มันเหมือนเรา Zoom เข้าออกมากกว่า

แต่ละกล้องให้สี และ รายละเอียดที่ไม่ได้ต่างกันมาก ต่างเพียงระยะที่ค่อย ๆ คูณ 2 เข้าไปเรื่อย ๆ นั่นเอง การที่เรามีทั้ง 3 กล้องที่ทำตัวเหมือนเป็นคนเดียวกันแบบนี้ ทำให้การถ่ายวีดีโอมันดู Smooth มาก ๆ เวลาเราสับกล้องไปมา นอกจากสีและรายละเอียดแล้ว ในแง่ของ Transition ก็ยังทำได้ Smooth มาก ๆ เหมือนเราหมุนซูมเลนส์จริง ๆ เลย

พูดถึงเรื่องการถ่ายวีดีโอแล้ว วีดีโอของ iPhone 11 Pro Max มันน่าทึ่งมาก ด้วยรายละเอียด สี และ การกันสั่นที่ดี มันทำให้มันกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับการทำ Vlog ได้อย่างง่าย ๆ เลย พร้อมกับ CPU ที่โคตรเร็ว ทำให้เราทั้งถ่าย และ ตัดต่อ วีดีโอทั้งหมด แล้วอัพโหลดได้ในเครื่องเดียวเลย คือ มันโคตร Powerful มาก ๆ ในมุมของเราสำหรับการสร้างสรรค์ Content

Apple Ecosystem

เรื่องนึงที่ต้องยอมรับว่า Apple ทำมาดีมากคือ การที่อุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple มันทำงานด้วยกันแล้วคือ ดีย์งามพระราม 8 มาก คือ ถ้าเรามีแค่ iPhone มันก็เป็นแค่โทรศัพท์ แต่ถ้าเรามีอุปกรณ์อื่นเข้ามาด้วย มันจะทำให้ประสบการณ์การใช้งานของ ๆ ทั้งหมดมันลื่นไหลมาก อย่างเราเอง เราใช้ทั้ง Macbook Pro, iPad Pro และ iPhone 11 Pro Max พอใช้ด้วยกัน มันดีย์มาก ๆ

เรื่องง่าย ๆ อย่างการที่เราจะแชร์อินเตอร์เน็ตจากโทรศัพท์ของเราเข้าไปที่ Laptop ของเรา ถ้าเราใช้ Android เวลาเราจะใช้ เราต้องยกเครื่อง แล้วสั่งเปิด ​Hotspot อะไรก็ว่ากันไป เอารหัสผ่านมา แล้วไปที่ Laptop ต่อ WiFi ใส่รหัสผ่าน ถึงจะใช้งานได้ แต่ถ้าเราใช้ iPhone คู่กับ Mac เวลาเรากดเมนู WiFi มันก็จะขึ้นชื่อ iPhone เราขึ้นมาเลย แล้วเราก็กด เท่านี้ เราก็จะรับแชร์เน็ตจากโทรศัพท์ได้แล้ว และเมื่อเรา Disconnect ออกไปมันก็จะปิดเอง หมดปัญหาเรื่อง ลืมปิด Hotspot จนแบตหมดไปเลย จะเห็นได้ว่ามันสะดวกมาก

หรืออีกอย่างที่เราชอบมาก ๆ คือการคุณโทรศัพท์ ปกติ เวลาโทรศัพท์เข้า หรือ Message เข้า เราต้องยกโทรศัพท์เข้ามาดูว่า ใครโทรมา แล้วก็รับโทรศัพท์อะไรแบบนั้น แต่เราเองเป็นคนที่เวลาเรานั่งทำงานจริง ๆ เราจะชอบลืมโทรศัพท์ไว้ในบ้านสักทีแหละ จนมีใครโทรมาก็จะไม่รู้เรื่องจนเสียงานมาหลายรอบละ

แต่ถ้าเราใช้ iPhone กับ Apple Device อื่น ๆ เวลาโทรศัพท์เข้า เราสามารถที่จะรับโทรศัพท์ผ่าน macOS ได้ ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมาก อยู่ตรงไหนของบ้าน ที่ใกล้ ๆ โทรศัพท์เราก็จะไม่พลาดการติดต่ออะไรเลย ยิ่งคอมพิวเตอร์ทั้งหมดของเราเป็น macOS แล้ว ไม่ว่าเราจะใช้งานเครื่องไหน มันก็จะต่อถึงกันหมด โดยที่เราไม่ต้องไป Config อะไรมันเลย นี่แหละ คือ ความดีงาม ของการใช้ของที่อยู่ใน Ecosystem เดียวกัน และต้องยอมรับเลยว่า Apple ทำได้ดีจนน่าทึ่งไปเลย

iPhone 11 Pro Max เป็นโทรศัพท์ที่ไม่ได้ดีที่สุด แต่ดีพอสำหรับเรา

สาเหตุที่เราบอกแบบนั้นเพราะเอาจริง ๆ iPhone 11 Pro Max บางด้าน Android มันก็แซงหน้าไป ในแง่ของ Spec ต่าง ๆ ในกระดาษอาจจะแพ้ แต่เมื่อเจอ iOS ที่ Optimise มาอย่างดี ทำให้การใช้งานลื่นไหลมาก ๆ หรือกล้องเองที่อาจจะไม่ใช่ที่ 1 ในเรื่องของการถ่ายภาพ แต่ถามว่า กล้องมันแย่มั้ย ก็ไม่นะ ดีชิบหายเลยละ แค่ดีสู้ที่ 1 ไม่ได้เท่านั้นเอง แต่ถ้าเรานับรวม ๆ ในแง่ของการใช้งานในชีวิตประจำวันของเรา เราบอกเลยว่า มันเป็นโทรศัพท์ที่ดีมากเครื่องนึงในปี 2019 ที่ผ่านมาเลย โอเคแหละ ค่าตัวอาจจะไม่น่ารัก แต่ถ้าได้ใช้แล้วจะติดใจ